รวมคำถามพบบ่อยเกี่ยวกับ Finasteride: สรุปจบในที่เดียว

1. Finasteride คืออะไร? ใช้รักษาอะไรได้บ้าง?

Finasteride (ฟิแนสเทอไรด์) เป็นยาในกลุ่ม 5-alpha reductase inhibitors ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งเอนไซม์ที่เปลี่ยนฮอร์โมน Testosterone (เทสโทสเทอโรน) ไปเป็น DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วงผมบางจากพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) ในผู้ชาย และเป็นสาเหตุของต่อมลูกหมากโต [1, 2]

  • ใช้รักษา:
    • ผมร่วงผมบางศีรษะล้านจากพันธุกรรมในผู้ชาย: (ใช้ขนาด 1 มิลลิกรัม) [1]
    • ภาวะต่อมลูกหมากโตชนิดไม่ร้ายแรง (Benign Prostatic Hyperplasia – BPH): (ใช้ขนาด 5 มิลลิกรัม) [1]

2. Finasteride 1 mg กับ 5 mg ต่างกันอย่างไร?

แม้จะเป็นยาตัวเดียวกัน แต่มีข้อบ่งใช้ที่แตกต่างกัน [2, 6]:

  • Finasteride 1 มิลลิกรัม: ใช้สำหรับผมร่วงผมบางจากพันธุกรรมในผู้ชาย ยาขนาดนี้ลด DHT ได้เพียงพอที่จะแก้ปัญหาผมร่วง [6]
  • Finasteride 5 มิลลิกรัม: ใช้สำหรับภาวะต่อมลูกหมากโตชนิดไม่ร้ายแรง ยาขนาดนี้ลด DHT ได้มากกว่า แต่ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ในการรักษาผมร่วงที่ดีกว่า และอาจเพิ่มความเสี่ยงผลข้างเคียง [6]

3. Finasteride ช่วยปลูกผมได้จริงไหม? เห็นผลเมื่อไหร่?

Finasteride ช่วยปลูกผมได้จริง โดยไม่ได้แค่หยุดผมร่วง แต่ยังช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม และทำให้ผมที่ขึ้นมาใหม่แข็งแรง หนาขึ้น และมีคุณภาพดีขึ้น [7]

  • เห็นผลเมื่อไหร่: ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ โดยทั่วไป:
    • 1-3 เดือนแรก: ยาเริ่มทำงาน อาจมี “ผมร่วงมากขึ้น (Initial Shedding)” ในบางราย ซึ่งเป็นสัญญาณว่ายาเริ่มออกฤทธิ์
    • 3-6 เดือน: เริ่มเห็นว่าผมร่วงน้อยลง และบางคนอาจเห็นไรผมใหม่หรือผมดูหนาขึ้นเล็กน้อย
    • 6-12 เดือน: เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด ผมร่วงหยุดลง ผมใหม่หนาและแข็งแรงขึ้น
    • 1 ปีขึ้นไป: ผลลัพธ์จะคงสภาพ และควรใช้ยาต่อเนื่องเพื่อรักษาผลลัพธ์ [8, 9]

4. กลไกการทำงานของ Finasteride ทำไมถึงหยุดผมร่วงได้?

Finasteride ทำงานโดยการยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha reductase (โดยเฉพาะชนิดที่ 2) ซึ่งเป็นตัวเปลี่ยนฮอร์โมน Testosterone ให้กลายเป็น DHT เมื่อระดับ DHT ลดลง รูขุมขนที่เคยถูก DHT ทำลายก็จะได้รับการฟื้นฟู ทำให้ผมร่วงน้อยลง และผมใหม่สามารถงอกขึ้นมาได้อย่างแข็งแรง [10]

5. หยุดกิน Finasteride แล้วผมจะกลับมาร่วงไหม? ต้องกินตลอดชีวิตเลยหรือเปล่า?

ใช่ หากหยุดกินยา Finasteride ผมจะกลับมาร่วงและกลับไปสู่สภาพก่อนการรักษา [9, 11]

  • เหตุผล: ฤทธิ์ของยาในการยับยั้ง DHT เป็นการชั่วคราว เมื่อหยุดยา ระดับ DHT จะกลับมาสูงขึ้น และกระบวนการฝ่อของรูขุมขนก็จะดำเนินต่อไป
  • กินตลอดชีวิตไหม: โดยส่วนใหญ่แล้ว จำเป็นต้องกินยา Finasteride อย่างต่อเนื่องทุกวัน หากต้องการคงสภาพและผลลัพธ์ของเส้นผมไว้ เนื่องจากผมร่วงจากพันธุกรรมเป็นภาวะเรื้อรัง [8, 9]

6. ผลข้างเคียงของ Finasteride ที่ควรรู้มีอะไรบ้าง?

ผลข้างเคียงส่วนใหญ่พบน้อยและมักไม่รุนแรง โดยเฉพาะเมื่อใช้ในขนาด 1 มิลลิกรัม และมักจะดีขึ้นหรือหายไปเมื่อใช้ยาต่อเนื่องหรือหยุดยา [1, 12]

  • ผลข้างเคียงทางเพศ (พบบ่อยที่สุด):
    • ความต้องการทางเพศลดลง (Decreased Libido): ประมาณ 1.8-6.4% [4]
    • ปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ (Erectile Dysfunction – ED): ประมาณ 1.3-8.1% [4]
    • ปัญหาการหลั่ง: เช่น ปริมาณน้ำอสุจิลดลง (1.2-3.7%) [4]
  • ผลต่อเต้านม:
    • เต้านมขยายใหญ่ขึ้น (Gynecomastia): ประมาณ 0.4-0.5% [4]
    • กดเจ็บที่เต้านม
  • ผลข้างเคียงที่พบน้อยแต่รุนแรง (ควรรีบปรึกษาแพทย์):
    • มะเร็งเต้านมในผู้ชาย: พบน้อยมาก แต่มีรายงาน [1, 4]
    • มะเร็งต่อมลูกหมากชนิดร้ายแรงบางชนิด: พบน้อยมาก [4]
    • ภาวะซึมเศร้า (Depression) และความคิดฆ่าตัวตาย (Suicidal Ideation): มีรายงานในบางราย (พบน้อยมาก) [13, 14]
    • อาการแพ้ยารุนแรง: ผื่นลมพิษ บวมที่ใบหน้า/ลิ้น/คอ หายใจลำบาก
    • Post-Finasteride Syndrome (PFS): ภาวะที่ผลข้างเคียง (ทางเพศ, ทางจิตเวช) คงอยู่แม้หยุดยาไปแล้ว (ยังอยู่ระหว่างการศึกษา) [15]

7. ใครบ้างที่ห้ามใช้ Finasteride?

  • สตรี (โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่อาจตั้งครรภ์): ห้ามใช้และห้ามสัมผัสเม็ดยาเด็ดขาด เนื่องจากเป็นอันตรายต่อทารกเพศชายในครรภ์ [5, 16]
  • เด็ก (Children): ห้ามใช้
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ยา Finasteride หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ในยา
  • ผู้ที่มีปัญหาโรคตับรุนแรง: ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด [17]

8. Finasteride ต้องมีใบสั่งแพทย์ไหม? หาซื้อได้ที่ไหน?

ใช่ Finasteride เป็นยาที่ต้องมีใบสั่งแพทย์ (Prescription-Only Drug) ในประเทศไทย จัดเป็น “ยาอันตราย” [18]

  • หาซื้อได้ที่: โรงพยาบาล, คลินิก, และร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรประจำ (โดยต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์)
  • ข้อควรระวัง: ห้ามซื้อยาทางออนไลน์ที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือไม่มีใบสั่งแพทย์ เพราะเสี่ยงต่อยาปลอมหรือยาไม่ได้มาตรฐาน [18]

9. กิน Finasteride แล้วท้องได้ไหม? คำแนะนำสำหรับผู้ที่วางแผนมีบุตร

  • ผลต่ออสุจิ: อาจส่งผลชั่วคราวต่อปริมาณและความเข้มข้นของอสุจิในผู้ชายบางราย แต่โดยทั่วไปมักเป็นผลชั่วคราวและจะกลับมาปกติภายใน 3-6 เดือนหลังหยุดยา [19, 20] ผู้ชายหลายคนสามารถมีบุตรได้สำเร็จ
  • อันตรายต่อทารกในครรภ์: ยา Finasteride เป็นอันตรายต่อทารกเพศชายในครรภ์อย่างร้ายแรง (ทำให้เกิดความผิดปกติของอวัยวะเพศ) [5]
  • คำแนะนำสำหรับผู้ที่วางแผนมีบุตร:
    • ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษา และแจ้งความประสงค์จะวางแผนมีบุตร
    • แนะนำให้หยุดยา Finasteride อย่างน้อย 3 เดือนก่อนที่จะพยายามตั้งครรภ์ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด [19]
    • ระหว่างใช้ยา ควรใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ (เช่น ถุงยางอนามัย) เพื่อป้องกันไม่ให้ยาในน้ำอสุจิเข้าสู่ร่างกายของคู่ครอง [19] และห้ามสตรีมีครรภ์สัมผัสเม็ดยาที่แตกหัก [5]

10. ทางเลือกอื่นนอกจาก Finasteride สำหรับผมร่วงมีอะไรบ้าง?

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ Finasteride หรือต้องการเสริมประสิทธิภาพการรักษา แพทย์อาจแนะนำทางเลือกเหล่านี้:

  • ไมนอกซิดิล (Minoxidil): ยาทาภายนอก (หรือชนิดกินปริมาณต่ำภายใต้การดูแลแพทย์) ช่วยกระตุ้นการงอกของผมและเพิ่มการไหลเวียนเลือด [2, 3] มักใช้ร่วมกับ Finasteride เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ดูทาสเตอไรด์ (Dutasteride): ยาเม็ดรับประทาน (0.5 มิลลิกรัม) เป็นยาในกลุ่มเดียวกันที่ยับยั้ง DHT ได้มากกว่า Finasteride [6] (เป็นการใช้ Off-label ในหลายประเทศรวมถึงไทย)
  • การบำบัดด้วยเลเซอร์ระดับต่ำ (Low-Level Laser Therapy – LLLT): ใช้แสงเลเซอร์กระตุ้นรูขุมขน [21]
  • การรักษาด้วยพลาสม่าที่อุดมด้วยเกล็ดเลือด (Platelet-Rich Plasma – PRP): ฉีดสารสกัดจากเลือดตัวเองกระตุ้นรากผม [22]
  • การปลูกผมถาวร (Hair Transplantation): การผ่าตัดย้ายรากผม [23] (มักแนะนำให้ใช้ยาควบคู่หลังปลูก)
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร: (เช่น Biotin, Zinc, Saw Palmetto) อาจช่วยบำรุงผมโดยรวม แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ารักษาผมร่วงจากพันธุกรรมได้เท่ากับยาหลัก [24]

สรุป:   Finasteride (ฟิแนสเทอไรด์) เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาภาวะผมร่วงผมบางจากพันธุกรรมในผู้ชาย แต่ก็เป็นยาที่ต้องใช้ด้วยความเข้าใจอย่างละเอียดถึงกลไกการทำงาน ระยะเวลาการเห็นผล ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และข้อควรระวังสำคัญต่างๆ การตัดสินใจใช้ยา Finasteride หรือทางเลือกอื่นๆ ควรทำภายใต้คำแนะนำและการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมเสมอ เพื่อให้การรักษาเหมาะสม ปลอดภัย และเกิดประโยชน์สูงสุดกับสุขภาพของคุณ

ต้องมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น ห้ามซื้อมาใช้เองเด็ดขาด หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับยา ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาเสมอคำแนะนำและข้อควรทราบที่สำคัญ: บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับยา Finasteride (ฟิแนสเทอไรด์) และตอบคำถามที่พบบ่อยเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์เพื่อวินิจฉัย บำบัดรักษา หรือป้องกันโรค และไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ เภสัชกร หรือบุคลากรทางการแพทย์มืออาชีพได้




ข้อมูลอ้างอิง

  1. Drugs.com. (n.d.). Finasteride Uses, Dosage & Side Effects. Retrieved from https://www.drugs.com/finasteride.html
  2. Absolute Hair Clinic. (n.d.). ยา Finasteride รักษาผมร่วง มีผลข้างเคียงอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง?. Retrieved from https://absolutehairclinic.com/finasteride-for-hair-loss/
  3. Hims. (n.d.). How Does Finasteride Work?. Retrieved from https://www.hims.com/blog/how-does-finasteride-work
  4. DailyMed. (n.d.). FINASTERIDE tablet. Retrieved from https://dailymed.nlm.nih.gov/dailymed/drugInfo.cfm?setid=6b78d21c-59b1-4f11-9257-55e143b45151
  5. Mayo Clinic. (n.d.). Finasteride (oral route) – Side effects & dosage. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/finasteride-oral-route/description/drg-20063810
  6. Scandinavian Biolabs. (n.d.). Finasteride 1mg Vs 5mg: Which Is The Right Dosage For You?. Retrieved from https://scandinavianbiolabs.com/blogs/journal/finasteride-1mg-vs-5mg
  7. Hims. (n.d.). Does Finasteride Work? A Comprehensive Guide to Hair Loss Treatment. Retrieved from https://www.hims.com/blog/are-finasteride-results-legit-what-the-average-man-can-expect
  8. Drhair.co.uk. (n.d.). How Long Does Finasteride Take To Work For Hair Loss?. Retrieved from https://drhair.co.uk/blog/how-long-does-finasteride-take-to-work/
  9. Oxford Online Pharmacy. (n.d.). What happens when you stop taking Finasteride. Retrieved from https://www.oxfordonlinepharmacy.co.uk/blog/what-happens-when-you-stop-taking-finasteride
  10. Xyon Health. (n.d.). Finasteride Mechanism of Action. Retrieved from https://xyonhealth.com/blogs/library/finasteride-mechanism-of-action
  11. Xyon Health. (n.d.). Stopping Finasteride | How Long After Will Hair Fall Out?. Retrieved from https://xyonhealth.com/blogs/library/stopping-finasteride
  12. NHS. (n.d.). Side effects of finasteride. Retrieved from https://www.nhs.uk/medicines/finasteride/side-effects-of-finasteride/
  13. GOV.UK. (2017, May 24). Finasteride: rare reports of depression and suicidal thoughts. Retrieved from https://www.gov.uk/drug-safety-update/finasteride-rare-reports-of-depression-and-suicidal-thoughts
  14. European Medicines Agency (EMA). (n.d.). Measures to minimise risk of suicidal thoughts with finasteride and dutasteride medicines. Retrieved from https://www.ema.europa.eu/en/news/measures-minimise-risk-suicidal-thoughts-finasteride-dutasteride-medicines
  15. Post-Finasteride Syndrome Foundation. (n.d.). What is PFS?. Retrieved from https://www.pfsfoundation.org/what-is-pfs/
  16. Kierach Medical Clinic. (n.d.). Finasteride hair loss treatment and pregnancy. Retrieved from https://centrumkierach.pl/en/finasteride-hair-loss-treatment-pregnancy/
  17. LiverTox – NCBI Bookshelf. (n.d.). Finasteride. Retrieved from https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK548319/
  18. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.). (n.d.). แสดงรายละเอียดผลิตภัณฑ์ยา (ยาเม็ดฟีแนสเทอไรด์ 1 มิลลิกรัม). Retrieved from http://pertento.fda.moph.go.th/FDA_SEARCH_DRUG/SEARCH_DRUG/pop-up_drug.aspx?Newcode_U=U1DR1A1052660005911C
  19. Darling Buds. (n.d.). Finasteride & Pregnancy: Should you be worried!. Retrieved from https://darlingbuds.com/blog/finasteride-pregnancy-should-you-be-worried
  20. Wimpole Clinic. (n.d.). Finasteride And Fertility: Everything You Need To Know. Retrieved from https://wimpoleclinic.com/blog/finasteride-and-fertility-everything-you-need-to-know/
  21. American Academy of Dermatology Association. (n.d.). Hair loss: Diagnosis and treatment. Retrieved from https://www.aad.org/public/diseases/hair-loss/diagnosis-treatment
  22. American Academy of Dermatology Association. (n.d.). Hair loss: Can PRP help?. Retrieved from https://www.aad.org/public/diseases/hair-loss/treatment/prp
  23. Medispa India. (n.d.). Facts You Must Know About Male Hair Transplant. Retrieved from https://www.medispaindia.in/facts-you-must-know-about-male-hair-transplant/
  24. Treatment Rooms London. (n.d.). Hair Loss Supplements for Men: What is Recommended?. Retrieved from https://www.treatmentroomslondon.com/hair/hair-loss-supplements-for-men-what-is-recommended/

เรียบเรียงโดย (Compiled by)  : www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี