การคลำพบ ก้อน หรือติ่งเนื้อที่บริเวณทวารหนัก อาจทำให้หลายคนตกใจและเกิดความกังวลใจเป็นอย่างมาก สิ่งแรกที่มักจะนึกถึงคือ โรคริดสีดวงทวาร ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด แต่ก้อนที่รู้สึกได้นั้นคืออะไรกันแน่? เป็นสัญญาณของริดสีดวงแบบไหน? และเมื่อไหร่ที่เราควรเริ่มกังวล? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับก้อนที่ก้น เพื่อให้คุณเข้าใจและรับมือได้อย่างถูกวิธีครับ
ก้อนที่ก้น: สัญญาณสำคัญของริดสีดวงทวาร
เมื่อพูดถึงก้อนที่บริเวณทวารหนัก สาเหตุหลัก ๆ ที่เป็นไปได้คือ ริดสีดวงทวาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ริดสีดวงภายนอก และ ริดสีดวงภายในที่ยื่นออกมา
1. ริดสีดวงภายนอก (External Hemorrhoids)
- ลักษณะ: ก้อนริดสีดวงภายนอกจะอยู่ที่ขอบปากทวารหนัก สามารถมองเห็นและคลำเจอได้ง่าย มักมีขนาดเล็ก อาจเป็นสีเดียวกับผิวหนัง หรือเป็นสีม่วงคล้ำหากมีการอุดตันของลิ่มเลือด [1]
- อาการ: มักมีอาการปวด แสบ คัน บวม โดยเฉพาะเมื่อนั่งนานๆ หรือขณะขับถ่าย หากมีลิ่มเลือดอุดตัน (Thrombosed Hemorrhoid) จะมีอาการปวดรุนแรงเฉียบพลัน [2]
2. ริดสีดวงภายในที่ยื่นออกมา (Prolapsed Internal Hemorrhoids)
- ลักษณะ: ริดสีดวงภายในมักจะอยู่ลึกเข้าไปในทวารหนัก แต่เมื่อมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีการเบ่งถ่ายบ่อยๆ ก็อาจยื่นออกมานอกทวารหนักได้ โดยแบ่งเป็นระยะต่างๆ [3]:
- ระยะที่ 2: ยื่นออกมาขณะเบ่งถ่าย แต่หดกลับเข้าไปได้เอง
- ระยะที่ 3: ยื่นออกมาขณะเบ่งถ่าย และต้องใช้นิ้วดันกลับเข้าไป
- ระยะที่ 4: ยื่นออกมาตลอดเวลา ไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้
- อาการ: อาจมีเลือดออกสีแดงสดขณะขับถ่าย หรือรู้สึกเหมือนมีก้อนถ่วงๆ ไม่สบายตัวบริเวณทวารหนัก หากมีการอักเสบหรือติดเชื้อ อาจทำให้เจ็บปวดและบวมได้
ก้อนที่ก้น… อาจไม่ใช่ริดสีดวงเสมอไป?
แม้ริดสีดวงทวารจะเป็นสาเหตุหลัก แต่ก้อนที่ก้นก็อาจเกิดจากภาวะอื่น ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งคุณควรรู้ไว้:
- ติ่งเนื้อผิวหนัง (Skin Tags): เป็นส่วนของผิวหนังที่ยื่นออกมาบริเวณขอบทวารหนัก มักไม่เจ็บปวดและไม่เป็นอันตราย แต่อาจทำให้การทำความสะอาดยากขึ้น [4]
- ฝีบริเวณทวารหนัก (Perianal Abscess): เป็นการติดเชื้อและมีการสะสมของหนองบริเวณรอบทวารหนัก ทำให้เกิดก้อนที่บวมแดง ร้อน และปวดรุนแรง [5]
- หูดหงอนไก่ (Anal Warts): เกิดจากการติดเชื้อ HPV มีลักษณะเป็นติ่งเนื้อเล็กๆ หลายติ่ง อาจมีอาการคันหรือระคายเคือง
- เนื้องอกหรือมะเร็ง: ในบางกรณี ก้อนที่บริเวณทวารหนักอาจเป็นสัญญาณของเนื้องอกหรือมะเร็ง ซึ่งเป็นภาวะที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างเร่งด่วน
เมื่อไหร่ที่ต้องกังวลและปรึกษาแพทย์?
หากคุณคลำพบก้อนที่ก้น สิ่งสำคัญคือการสังเกตอาการร่วมด้วย และหากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที:
- ก้อนมีอาการปวดรุนแรง เฉียบพลัน และมีไข้ร่วมด้วย (อาจเป็นฝี)
- มีเลือดออกปริมาณมาก หรือมีเลือดปนในอุจจาระ หรืออุจจาระมีสีดำผิดปกติ
- ก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือมีการเปลี่ยนแปลงของลักษณะ
- มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น น้ำหนักลดผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ ท้องผูกสลับท้องเสีย
- ไม่แน่ใจว่าก้อนนั้นคืออะไร และรู้สึกกังวล
การดูแลตัวเองเบื้องต้นและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หากก้อนที่ก้นของคุณมีอาการไม่รุนแรง เช่น เป็นริดสีดวงที่ไม่เจ็บปวดมากนัก คุณสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้โดย:
- รักษาสุขอนามัย: ทำความสะอาดบริเวณทวารหนักเบาๆ ซับให้แห้งสนิท
- ปรับพฤติกรรมการขับถ่าย: ทานอาหารที่มีใยอาหารสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่เบ่งถ่ายแรงๆ และไม่นั่งนาน
- ปรึกษาเภสัชกร: ที่ ร้านขายยา เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับยาทา หรือยาเหน็บที่ช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงเบื้องต้นได้
อย่างไรก็ตาม การไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและแม่นยำที่สุดคือสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีความกังวลหรือมีอาการน่าสงสัยอื่นๆ การรู้เร็ว รักษาเร็ว ย่อมดีต่อสุขภาพของคุณในระยะยาวครับ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- Mayo Clinic. (2024, May 14). Hemorrhoids – Symptoms & causes. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hemorrhoids/symptoms-causes/syc-20360262
- Cleveland Clinic. (2023, September 29). Hemorrhoids. Retrieved from https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/15124-hemorrhoids
- American Society of Colon and Rectal Surgeons (ASCRS). (n.d.). Hemorrhoids. Retrieved from https://fascrs.org/patients/diseases-and-conditions/hemorrhoids
- National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases (NIDDK). (2024, February). Hemorrhoids. Retrieved from https://www.niddk.nih.gov/health-information/digestive-diseases/hemorrhoids
- Mayo Clinic. (2023, October 17). Anal Abscess. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/anal-abscess/symptoms-causes/syc-20360268
เรียบเรียงข้อมูลโดย www.chulalakpharmacy.com