ประโยชน์ของซีลีเนียม (Selenium) ที่สำคัญต่อร่างกาย: แร่ธาตุต้านอนุมูลอิสระเพื่อภูมิคุ้มกันและไทรอยด์
ซีลีเนียม (Selenium) เป็นแร่ธาตุจำเป็นที่แม้ร่างกายต้องการในปริมาณเล็กน้อย (trace mineral) แต่กลับมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพหลายระบบ โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกัน การทำงานของต่อมไทรอยด์ และการป้องกันอนุมูลอิสระ ซีลีเนียมยังมีความเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น มะเร็ง และโรคหัวใจ
ประโยชน์ของซีลีเนียมที่สำคัญต่อร่างกาย
1. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
ซีลีเนียมช่วยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์กลูตาไทโอนเปอร์ออกซิเดส (glutathione peroxidase) ซึ่งทำหน้าที่กำจัดอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และป้องกันการทำลายเซลล์ จึงมีบทบาทสำคัญในการชะลอวัยและป้องกันโรคเรื้อรัง
2. เสริมภูมิคุ้มกัน
Selenium มีบทบาทช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อวัคซีนได้ดีขึ้น
3. ช่วยในการทำงานของต่อมไทรอยด์
ซีลีเนียมจำเป็นต่อการแปลงฮอร์โมนไทรอยด์จาก T4 (Thyroxine) ให้เป็น T3 (Triiodothyronine) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ร่างกายสามารถใช้งานได้ ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานเป็นปกติ และลดความเสี่ยงโรคไทรอยด์อักเสบ (เช่น Hashimoto’s thyroiditis)
4. ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ
การบริโภคซีลีเนียมในระดับที่เหมาะสมอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจโดยลดภาวะอักเสบและความเครียดออกซิเดชัน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของหลอดเลือดแข็งตัว
5. อาจช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งบางชนิด
มีงานวิจัยบางส่วนที่พบว่า ผู้ที่มีระดับซีลีเนียมในเลือดสูงพอสมควรอาจมีความเสี่ยงต่อมะเร็ง เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และลำไส้ ลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์นี้

ปริมาณซีลีเนียมที่แนะนำต่อวัน (RDA)
กลุ่มอายุ | ปริมาณที่แนะนำ |
เด็ก (1–13 ปี) | 20–40 ไมโครกรัม |
วัยรุ่นและผู้ใหญ่ | 55 ไมโครกรัม |
หญิงตั้งครรภ์ | 60 ไมโครกรัม |
หญิงให้นมบุตร | 70 ไมโครกรัม |
❗ ควรระวังการได้รับซีลีเนียมมากเกินไป (เกิน 400 ไมโครกรัม/วัน) อาจเกิดพิษ ส่งผลให้ผมร่วง เล็บเปราะ และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท
แหล่งอาหารที่อุดมด้วยซีลีเนียม
- ถั่วบราซิล (Brazil nuts) – เพียง 1–2 เม็ดก็เพียงพอต่อวัน
- ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน
- ตับ เนื้อวัว
- ไข่
- ข้าวกล้อง ธัญพืชเต็มเมล็ด
- นม และผลิตภัณฑ์จากนม
อาการของการขาดซีลีเนียม
- อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ปัญหาการทำงานของต่อมไทรอยด์
- ผมร่วง เล็บเปราะ
- ภาวะมีบุตรยาก (โดยเฉพาะในเพศชาย)
- ในกรณีรุนแรง อาจเกิดโรค Keshan (โรคหัวใจจากการขาดซีลีเนียม)
ใครควรใส่ใจเรื่องซีลีเนียม?
- ผู้ที่รับประทานอาหารไม่หลากหลาย
- ผู้ที่มีปัญหาการดูดซึม เช่น โรคลำไส้อักเสบ
- ผู้ป่วยโรคไทรอยด์
- ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ดินขาดซีลีเนียม (เช่น บางพื้นที่ในจีนหรือยุโรปตะวันออก)
สรุป
ซีลีเนียม คือแร่ธาตุสำคัญที่แม้ต้องการเพียงเล็กน้อย แต่มีบทบาทหลากหลายต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการต้านอนุมูลอิสระ การเสริมภูมิคุ้มกัน การเผาผลาญฮอร์โมนไทรอยด์ หรือการปกป้องหัวใจและเซลล์จากความเสียหาย การรับประทานอาหารที่มีซีลีเนียมหลากหลาย โดยเฉพาะจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ถั่วบราซิล ปลา และไข่ จึงช่วยให้ร่างกายทำงานอย่างสมดุลและแข็งแรงในระยะยาว
ข้อมูลอ้างอิง (References):
- National Institutes of Health – Office of Dietary Supplements: Selenium https://ods.od.nih.gov/factsheets/Selenium-Consumer
- Harvard T.H. Chan School of Public Health – Selenium https://www.hsph.harvard.edu/nutritionsource/selenium/
- World Health Organization – Micronutrient Information: Selenium https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/selenium
เรียบเรียงข้อมูลโดย www.chulalakpharmacy.com