ปวดเบ่งถ่าย! สัญญาณเตือนริดสีดวงทวารที่อาจไม่รู้ตัว

อาการ ปวดเบ่งถ่าย เป็นความรู้สึกไม่สบายที่หลายคนเคยประสบ คือรู้สึกเหมือนอยากถ่ายอุจจาระ แต่พอเข้าห้องน้ำกลับถ่ายไม่ออก หรือถ่ายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลายคนอาจคิดว่าเป็นเพียงอาการของท้องผูกธรรมดา แต่ในบางครั้ง อาการปวดเบ่งถ่ายนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของ โรคริดสีดวงทวาร ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจถึงความเชื่อมโยงระหว่างอาการปวดเบ่งถ่ายและริดสีดวงทวาร รวมถึงสัญญาณอื่นๆ ที่คุณไม่ควรมองข้ามครับ

ทำไมริดสีดวงทวารถึงทำให้รู้สึกปวดเบ่งถ่าย?

โรคริดสีดวงทวาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ริดสีดวงภายใน ที่มีขนาดใหญ่ หรือมีการอักเสบและบวม อาจทำให้เกิดความรู้สึกปวดเบ่งถ่ายได้จากหลายสาเหตุ:

1. การบวมของหลอดเลือด: เมื่อหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักโป่งพองและบวมขึ้น จะoccupy พื้นที่ในช่องทวารหนัก ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายใน และกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกอยากขับถ่าย [1]
2. การระคายเคืองของปลายประสาท: ริดสีดวงที่อักเสบอาจไปกดทับหรือระคายเคืองปลายประสาทบริเวณทวารหนัก ทำให้เกิดความรู้สึกปวดเบ่งถ่าย หรือรู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด [2]
3. การยื่นออกมาของริดสีดวง: ริดสีดวงภายในที่ยื่นออกมานอกทวารหนักขณะเบ่งถ่าย อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายและอยากเบ่งถ่ายซ้ำอีกครั้ง แม้จะถ่ายอุจจาระไปแล้ว 

อาการปวดเบ่งถ่ายแบบไหนที่ควรสงสัยว่าเป็นริดสีดวง?

อาการปวดเบ่งถ่ายเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเป็นริดสีดวงหรือไม่ แต่หากคุณมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรสังเกตและปรึกษาแพทย์:

• มีเลือดออกขณะขับถ่าย: โดยเฉพาะเลือดสีแดงสดหยดตามหลังอุจจาระ หรือติดกระดาษชำระ
• คลำพบก้อนหรือติ่งเนื้อ ยื่นออกมาจากทวารหนักขณะเบ่งถ่าย หรือหลังถ่ายอุจจาระ
• รู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบาย บริเวณทวารหนัก
• มีอาการคันหรือระคายเคือง บริเวณรอบทวารหนัก
• รู้สึกเหมือนถ่ายอุจจาระไม่สุด แม้จะเพิ่งเข้าห้องน้ำไป
• มีอาการท้องผูกเรื้อรัง ร่วมด้วย

ปวดเบ่งถ่าย…อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นได้ด้วย

สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ อาการปวดเบ่งถ่ายไม่ได้เกิดจากริดสีดวงทวารเพียงอย่างเดียว ยังมีภาวะสุขภาพอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการนี้ได้ เช่น:

• กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome – IBS)
• ลำไส้อักเสบ (Inflammatory Bowel Disease – IBD)
• เนื้องอกหรือมะเร็งในลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก
• ภาวะท้องผูกเรื้อรัง

ดังนั้น การสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วยและการปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เมื่อรู้สึกปวดเบ่งถ่าย ควรทำอย่างไร?

หากคุณมีอาการปวดเบ่งถ่ายบ่อยๆ หรือมีอาการอื่นๆ ที่สงสัยว่าเป็นริดสีดวงทวาร ควรปฏิบัติดังนี้:

1. สังเกตอาการอย่างละเอียด: จดบันทึกความถี่ของอาการปวดเบ่งถ่าย ลักษณะของอุจจาระ มีเลือดออกหรือไม่ มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่
2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับถ่าย: พยายามอย่าเบ่งอุจจาระแรงๆ หรือนั่งในห้องน้ำนานเกินไป รับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง และดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันท้องผูก
3. ปรึกษาแพทย์: การพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการอื่นๆ ที่น่ากังวลร่วมด้วย

อย่าละเลยสัญญาณจากร่างกาย

อาการปวดเบ่งถ่ายอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ การใส่ใจสังเกตอาการของตัวเองและการปรึกษาแพทย์เมื่อมีความผิดปกติ จะช่วยให้คุณได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ทันท่วงที เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวครับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

1. Cleveland Clinic. (2023, September 29). Hemorrhoids. Retrieved from https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/15124-hemorrhoids
2. American Society of Colon and Rectal Surgeons (ASCRS). (n.d.). Hemorrhoids. Retrieved from https://fascrs.org/patients/diseases-and-conditions/hemorrhoids
3. National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases (NIDDK). (2024, February). Hemorrhoids. Retrieved from https://www.niddk.nih.gov/health-information/digestive-diseases/hemorrhoids

เรียบเรียงข้อมูลโดย  www.chulalakpharmacy.com