ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) ศัตรูเงียบของสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

การนอนหลับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของเรา แต่สำหรับบางคน แม้จะได้นอนครบ 7–8 ชั่วโมง ก็ยังรู้สึกอ่อนเพลีย ง่วงนอนระหว่างวัน และไม่มีสมาธิ ปัญหาเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดจาก “นอนไม่พอ” อย่างเดียว แต่อาจเกิดจาก “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ” ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อย และหากไม่รักษา อาจนำไปสู่โรคเรื้อรังที่ร้ายแรงได้


ภาวะหยุดหายใจขณะหลับคืออะไร?

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea – OSA) คือภาวะที่ลมหายใจหยุดชั่วคราวหรือหายใจตื้นลงซ้ำ ๆ ระหว่างการนอนหลับ เนื่องจากทางเดินหายใจส่วนบนถูกปิดกั้นบางส่วนหรือทั้งหมด ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลง และทำให้สมองต้องกระตุ้นให้ตื่นขึ้นชั่วครู่เพื่อกลับมาหายใจอีกครั้ง ซึ่งกระบวนการนี้อาจเกิดขึ้นหลายสิบถึงหลายร้อยครั้งต่อคืน


สัญญาณเตือนของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

  • กรนเสียงดัง สม่ำเสมอ
  • หยุดหายใจช่วงสั้น ๆ ขณะนอนหลับ (สังเกตจากคนร่วมห้อง)
  • สะดุ้งตื่นกลางดึก หายใจแรง หรือรู้สึกเหมือนขาดอากาศ
  • ตื่นมาแล้วไม่สดชื่น แม้นอนครบชั่วโมง
  • ง่วงนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน
  • ปวดศีรษะตอนเช้า
  • ความจำหรือสมาธิลดลง
  • อารมณ์แปรปรวนหรือซึมเศร้า


ใครคือกลุ่มเสี่ยง?

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่มีความเสี่ยงสูงในกลุ่มต่อไปนี้:

  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
  • ผู้ชาย โดยเฉพาะวัยกลางคนขึ้นไป
  • ผู้ที่มีลักษณะทางกายวิภาค เช่น คางเล็ก ลิ้นใหญ่ เพดานปากหย่อน
  • ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้ยานอนหลับ
  • ผู้ที่สูบบุหรี่
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือหัวใจ


ภาวะนี้อันตรายอย่างไร?

หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิด:

  • ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง
  • โรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ภาวะหัวใจล้มเหลว
  • โรคเบาหวานชนิดที่ 2
  • อุบัติเหตุจากการหลับใน ขณะขับรถหรือทำงาน



การวินิจฉัยและการรักษา

แพทย์จะสอบถามประวัติ อาการ และอาจแนะนำให้ทำการตรวจการนอนหลับ (Sleep Study หรือ Polysomnography) ซึ่งเป็นการวัดการทำงานของร่างกายหลายระบบขณะนอนหลับ เช่น การหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ฯลฯ

แนวทางการรักษา

  • ปรับพฤติกรรม: ลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ นอนตะแคงแทนการนอนหงาย
  • การใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ CPAP (Continuous Positive Airway Pressure): เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้แรงดันอากาศเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง
  • เครื่องมือทันตกรรม (Oral Appliance): สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง
  • การผ่าตัด: อาจพิจารณาในกรณีที่โครงสร้างร่างกายผิดปกติหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น


สรุป

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับไม่ใช่แค่ปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับการนอน แต่เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างรุนแรง หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการต้องสงสัย ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การนอนหลับ เพื่อการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม



แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

Cleveland Clinic

  • ระบุว่า ผู้ใหญ่โดยทั่วไปหาววันละประมาณ 9 ครั้ง และอาจสูงถึง 20 ครั้ง แต่ถือว่าผิดปกติหากเกิน 3 ครั้งต่อ 15 นาที หลายครั้งต่อวัน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับภาวะง่วงกลางวันผิดปกติ หยุดหายใจขณะหลับ และอาจเชื่อมโยงกับโรคทางระบบประสาท เช่น ALS, ลมชัก, ผ่าตัดสมอง, ไมเกรน, MS หรือภาวะหลอดเลือดสมอง health.clevelandclinic.org+8my.clevelandclinic.org+8medlineplus.gov+8

MedlinePlus (US National Library of Medicine)

  • ให้นิยามว่าการหาวที่เกิน “excessive yawning” อาจมีสาเหตุจากภาวะง่วงหรือเหนื่อยผิดปกติ รวมถึงภาวะหัวใจ (vasovagal), เนื้องอกสมอง, เส้นเลือดในสมองตีบ, ลมชัก, MS และระบุว่าควรพบแพทย์หากหาวโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน 

Mount Sinai Health System

  • ระบุสาเหตุการหาวบ่อยจากทั้งปัญหาการนอน โรคหัวใจ ระบบประสาท และยา หากหาวมากเกินโดยไม่ทราบสาเหตุควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง 

Sleep Foundation

  • ให้กรอบว่า “เกิน 3 ครั้ง/15 นาที ถือว่าผิดปกติ” และหาวมากถึง 100 ครั้ง/วันในบางราย baptisthealth.com+5sleepfoundation.org+5my.clevelandclinic.org+5
  • เชื่อมโยงสาเหตุเช่น นอนไม่พอ โรคหยุดหายใจขณะหลับ ยาบางประเภท (SSRIs, opioids, benzodiazepines) และโรคระบบประสาท เช่น ไมเกรน, MS, ลมชัก, พาร์กินสัน, เนื้องอกสมอง scielo.br

เรียบเรียงข้อมูลโดย  www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี