Yasmin (ยาสมิน) และ Yaz (ยาส)  ต่างกันอย่างไร ไขข้อสงสัยจากสาวๆ

“สำหรับผู้หญิงหลายคน การเลือกยาคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับตนเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็อาจสร้างความสับสนได้ไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อต้องเลือกระหว่างยาคุมยอดนิยมอย่าง Yasmin (ยาสมิน) และ Yaz (ยาส) ซึ่งทั้งคู่เป็นยาคุมฮอร์โมนรวมจากบริษัทเดียวกัน และมีจุดเด่นในการช่วยลดปัญหาสิวและอาการบวมน้ำ อย่างไรก็ตาม แม้จะดูคล้ายกัน แต่ยาคุมทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างที่สำคัญในด้านส่วนประกอบของฮอร์โมนและรูปแบบการรับประทาน ซึ่งส่งผลต่อประสบการณ์การใช้และข้อดีที่อาจแตกต่างกันไป บทความนี้จะเจาะลึกความแตกต่างที่สำคัญ เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถตัดสินใจเลือกยาคุมที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างเหมาะสม”



ข้อมูลโดยละเอียดของยาคุม Yaz (ยาส)

Yaz (ยาส) เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive – COCs) ที่ผลิตโดยบริษัท Bayer เช่นเดียวกับ Yasmin เป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนในปริมาณต่ำมาก และมีความโดดเด่นที่ชนิดของฮอร์โมนโปรเจสตินที่ใช้ และจำนวนเม็ดยาต่อแผง

ส่วนประกอบสำคัญ (Active Ingredients):

  • Drospirenone (ดรอสพิเรโนน): 3 มิลลิกรัม (เป็นฮอร์โมนกลุ่มโปรเจสตินรุ่นใหม่)
  • Ethinylestradiol (เอธินิลเอสตราไดออล): 0.02 มิลลิกรัม (เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนในปริมาณที่ต่ำมาก หรือที่เรียกว่า “low-dose” / “ultra-low-dose”)

ลักษณะเม็ดยา: ใน 1 แผง Yaz จะมี 28 เม็ด แบ่งเป็น:

  • เม็ดยาฮอร์โมนสีชมพู: 24 เม็ด (แต่ละเม็ดมี Drospirenone 3 mg และ Ethinylestradiol 0.02 mg)
  • เม็ดยาหลอก/เม็ดแป้งสีขาว: 4 เม็ด (ไม่มีฮอร์โมน หรือเป็นเม็ดแป้ง/วิตามิน)

กลไกการออกฤทธิ์: ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมอย่าง Yaz ออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์หลายทาง ได้แก่:

  1. ยับยั้งการตกไข่: เป็นกลไกหลักที่สำคัญที่สุด ฮอร์โมน Drospirenone และ Ethinylestradiol จะไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีไข่ตก
  2. ทำให้มูกปากมดลูกเหนียวข้น: ฮอร์โมนโปรเจสติน (Drospirenone) ทำให้มูกบริเวณปากมดลูกข้นหนืดขึ้น ทำให้อสุจิเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปยังโพรงมดลูกได้ยาก
  3. ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสมต่อการฝังตัว: การเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุโพรงมดลูกทำให้ไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว (หากมีการตกไข่และปฏิสนธิเกิดขึ้น) ไม่สามารถฝังตัวได้

ข้อบ่งใช้ (Indications):

  • คุมกำเนิด: เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์
  • รักษาสิว: Drospirenone มีคุณสมบัติ anti-androgenic (ต้านฮอร์โมนเพศชาย) ซึ่งช่วยลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน ทำให้สิวลดลงได้
  • ลดอาการบวมน้ำและอาการก่อนมีประจำเดือนรุนแรง (PMDD – Premenstrual Dysphoric Disorder): Yaz ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในการรักษา PMDD ซึ่งเป็นอาการก่อนมีประจำเดือนที่รุนแรงกว่า PMS ทั่วไป เนื่องจาก Drospirenone มีฤทธิ์อ่อนๆ คล้ายยาขับปัสสาวะ (aldosterone antagonist) จึงช่วยลดอาการบวมน้ำ และมีส่วนช่วยปรับสมดุลอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับ PMDD
  • ช่วยให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ: ควบคุมรอบเดือนให้มาตรงเวลาและสม่ำเสมอ และลดระยะเวลาการมีประจำเดือน รวมถึงปริมาณเลือด
  • ลดอาการปวดประจำเดือน: ลดความรุนแรงของอาการปวดประจำเดือนในบางราย

ความแตกต่างที่สำคัญจาก Yasmin:

  • ปริมาณ Ethinylestradiol: Yaz มี Ethinylestradiol ในปริมาณที่ต่ำกว่า (0.02 mg) เมื่อเทียบกับ Yasmin (0.03 mg) ทำให้มีผลข้างเคียงจากเอสโตรเจนน้อยกว่า เช่น คลื่นไส้ อาเจียน
  • จำนวนเม็ดในแผง: Yaz มี 28 เม็ด (24 เม็ดฮอร์โมน + 4 เม็ดหลอก) ทำให้ไม่ต้องเว้นยา ช่วยให้รับประทานต่อเนื่องและจดจำง่ายกว่า

วิธีรับประทาน:

  • รับประทานวันละ 1 เม็ด ในเวลาเดียวกันทุกวัน โดยเริ่มรับประทานเม็ดฮอร์โมนสีชมพูเม็ดแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน
  • รับประทานเม็ดฮอร์โมนสีชมพูต่อเนื่องกัน 24 เม็ด
  • จากนั้นรับประทานเม็ดยาหลอกสีขาวต่อเนื่องกัน 4 เม็ด (ในช่วงนี้จะมีประจำเดือนมา)
  • เริ่มต้นแผงใหม่ในวันถัดไปทันทีหลังจากรับประทานเม็ดยาหลอกครบ 4 เม็ด โดยไม่ต้องเว้นวัน

กรณีลืมรับประทานยา (Yaz เป็นยา 28 เม็ด):

  • ลืมเม็ดฮอร์โมน (สีชมพู):
    • ลืม 1 เม็ด (น้อยกว่า 24 ชั่วโมงจากเวลาปกติ): ให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ และรับประทานเม็ดต่อไปตามปกติ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นเพิ่ม
    • ลืม 1 เม็ด (เกิน 24 ชั่วโมงจากเวลาปกติ หรือลืมมากกว่า 1 เม็ด): ความสามารถในการคุมกำเนิดจะลดลง ให้ปฏิบัติดังนี้:
      • รีบรับประทานเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้ (อาจต้องรับประทาน 2 เม็ดในวันเดียวกัน)
      • รับประทานเม็ดต่อไปตามปกติ ในเวลาเดิม
      • ควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัย อย่างน้อย 7 วัน หลังจากที่เริ่มรับประทานยาต่อเนื่อง
      • หากลืมเม็ดฮอร์โมนในช่วง 7 วันสุดท้ายของเม็ดฮอร์โมน (เม็ดที่ 18-24): ให้รับประทานยาในแผงที่เหลือต่อจนหมด และไม่ต้องรับประทานเม็ดยาหลอก (4 เม็ด) ให้เริ่มแผงใหม่ต่อทันที เพื่อป้องกันการตกไข่ (ประจำเดือนอาจไม่มา หรือมาน้อยลง)
  • ลืมเม็ดหลอก (สีขาว): ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด ให้ทิ้งเม็ดที่ลืมไป และรับประทานเม็ดต่อไปตามปกติ

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้:

  • อาการพบบ่อย: คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บเต้านม อารมณ์แปรปรวน ประจำเดือนกะปริดกะปรอย
  • ผลข้างเคียงร้ายแรง (พบน้อยมากแต่ควรระวัง):
    • ลิ่มเลือดอุดตัน (Thromboembolism): เป็นผลข้างเคียงที่สำคัญที่สุดที่ต้องระวัง โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ประวัติลิ่มเลือดอุดตัน สูบบุหรี่จัด อ้วนมาก อายุมาก หรือมีภาวะทางพันธุกรรมบางชนิด Drospirenone อาจเพิ่มความเสี่ยงนี้ได้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับโปรเจสตินบางชนิด แต่การที่ Yaz มี Ethinylestradiol ในปริมาณต่ำ อาจช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมได้บ้าง
    • ความดันโลหิตสูง
    • ถุงน้ำดีอักเสบ
    • โรคตับ (พบน้อยมาก)

ข้อห้ามใช้และข้อควรระวัง:

  • ห้ามใช้ในผู้ที่มีประวัติลิ่มเลือดอุดตัน หรือมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
  • ห้ามใช้ในผู้ที่เป็นโรคตับหรือไตขั้นรุนแรง
  • ห้ามใช้ในผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ที่ไวต่อฮอร์โมน
  • ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์
  • ไม่แนะนำในผู้ที่สูบบุหรี่ โดยเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 35 ปีขึ้นไป เพราะเพิ่มความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตันอย่างมาก
  • ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับโรคประจำตัวและยาที่ใช้อยู่ทั้งหมด เนื่องจากยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับยาคุมกำเนิดได้

คำแนะนำจากเภสัชกร: ยาคุมกำเนิด Yaz เป็นยาที่ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้เสมอ เพื่อประเมินความเหมาะสม ปัจจัยเสี่ยง และเลือกชนิดยาคุมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล การที่ Yaz มีปริมาณเอสโตรเจนต่ำและมี Drospirenone ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดอาการบวมน้ำและปัญหาสิว อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ



ข้อมูลโดยละเอียดของยาคุม Yasmin (ยาสมิน)

Yasmin (ยาสมิน) เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive – COCs) ที่ได้รับความนิยมมากตัวหนึ่ง ผลิตโดยบริษัท Bayer เป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนในปริมาณต่ำ และมีความพิเศษที่ชนิดของฮอร์โมนโปรเจสตินที่ใช้

ส่วนประกอบสำคัญ (Active Ingredients):

  • Drospirenone (ดรอสพิเรโนน): 3 มิลลิกรัม (เป็นฮอร์โมนกลุ่มโปรเจสตินรุ่นใหม่)
  • Ethinylestradiol (เอธินิลเอสตราไดออล): 0.03 มิลลิกรัม (เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน)

ลักษณะเม็ดยา: ใน 1 แผง จะมี 21 เม็ด ซึ่งทุกเม็ดจะมีปริมาณฮอร์โมน Drospirenone และ Ethinylestradiol เท่ากัน (เป็นแบบ Monophasic)

กลไกการออกฤทธิ์: ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมอย่าง Yasmin ออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์หลายทาง ได้แก่:

  1. ยับยั้งการตกไข่: เป็นกลไกหลักที่สำคัญที่สุด ฮอร์โมน Drospirenone และ Ethinylestradiol จะไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีไข่ตก
  2. ทำให้มูกปากมดลูกเหนียวข้น: ฮอร์โมนโปรเจสติน (Drospirenone) ทำให้มูกบริเวณปากมดลูกข้นหนืดขึ้น ทำให้อสุจิเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปยังโพรงมดลูกได้ยาก
  3. ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสมต่อการฝังตัว: การเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุโพรงมดลูกทำให้ไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว (หากมีการตกไข่และปฏิสนธิเกิดขึ้น) ไม่สามารถฝังตัวได้

ข้อบ่งใช้ (Indications):

  • คุมกำเนิด: เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์
  • รักษาสิว: Drospirenone มีคุณสมบัติ anti-androgenic (ต้านฮอร์โมนเพศชาย) ซึ่งช่วยลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน ทำให้สิวลดลงได้
  • ลดอาการบวมน้ำ (Pre-menstrual symptoms – PMS): Drospirenone มีฤทธิ์อ่อนๆ คล้ายยาขับปัสสาวะ (aldosterone antagonist) จึงช่วยลดอาการบวมน้ำก่อนมีประจำเดือน และลดอาการเจ็บเต้านม
  • ช่วยให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ: ควบคุมรอบเดือนให้มาตรงเวลาและสม่ำเสมอ
  • ลดอาการปวดประจำเดือน: ลดความรุนแรงของอาการปวดประจำเดือนในบางราย

วิธีรับประทาน:

  • รับประทานวันละ 1 เม็ด ในเวลาเดียวกันทุกวัน โดยเริ่มรับประทานเม็ดแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน (วันแรกของประจำเดือนถือเป็นวันที่ 1)
  • รับประทานต่อเนื่องกัน 21 เม็ด
  • เมื่อรับประทานครบ 21 เม็ด ให้เว้นการรับประทานยา 7 วัน (ในช่วงนี้จะมีประจำเดือนมา)
  • เริ่มต้นแผงใหม่ในวันที่ 8 แม้ว่าประจำเดือนจะยังไม่หมดหรือหมดแล้วก็ตาม

กรณีลืมรับประทานยา:

  • ลืม 1 เม็ด (น้อยกว่า 12 ชั่วโมงจากเวลาปกติ): ให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ และรับประทานเม็ดต่อไปตามปกติ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นเพิ่ม
  • ลืม 1 เม็ด (เกิน 12 ชั่วโมงจากเวลาปกติ หรือลืมมากกว่า 1 เม็ด): ความสามารถในการคุมกำเนิดจะลดลง ให้ปฏิบัติดังนี้:
    • รีบรับประทานเม็ดที่ลืมทันทีที่นึกได้ (อาจต้องรับประทาน 2 เม็ดในวันเดียวกัน)
    • รับประทานเม็ดต่อไปตามปกติ ในเวลาเดิม
    • ควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัย อย่างน้อย 7 วัน หลังจากที่เริ่มรับประทานยาต่อเนื่อง
    • หากลืมยาในสัปดาห์สุดท้าย (เม็ดที่ 15-21): ให้รับประทานยาในแผงที่เหลือต่อจนหมด และไม่ต้องเว้น 7 วัน ให้เริ่มแผงใหม่ต่อทันที เพื่อป้องกันการตกไข่ (ประจำเดือนอาจไม่มา หรือมาน้อยลง)

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้:

  • อาการพบบ่อย: คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บเต้านม อารมณ์แปรปรวน ประจำเดือนกะปริดกะปรอย
  • ผลข้างเคียงร้ายแรง (พบน้อยมากแต่ควรระวัง):
    • ลิ่มเลือดอุดตัน (Thromboembolism): เป็นผลข้างเคียงที่สำคัญที่สุดที่ต้องระวัง โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ประวัติลิ่มเลือดอุดตัน สูบบุหรี่จัด อ้วนมาก อายุมาก หรือมีภาวะทางพันธุกรรมบางชนิด Drospirenone อาจเพิ่มความเสี่ยงนี้ได้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับโปรเจสตินชนิดอื่น
    • ความดันโลหิตสูง
    • ถุงน้ำดีอักเสบ
    • โรคตับ (พบน้อยมาก)

ข้อห้ามใช้และข้อควรระวัง:

  • ห้ามใช้ในผู้ที่มีประวัติลิ่มเลือดอุดตัน หรือมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
  • ห้ามใช้ในผู้ที่เป็นโรคตับหรือไตขั้นรุนแรง
  • ห้ามใช้ในผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ที่ไวต่อฮอร์โมน
  • ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์
  • ไม่แนะนำในผู้ที่สูบบุหรี่ โดยเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 35 ปีขึ้นไป เพราะเพิ่มความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตันอย่างมาก
  • ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับโรคประจำตัวและยาที่ใช้อยู่ทั้งหมด เนื่องจากยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับยาคุมกำเนิดได้

ข้อดีของ Yasmin ที่เป็นจุดเด่น:

  • ลดอาการบวมน้ำ: เนื่องจากมี Drospirenone ที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมน Aldosterone
  • ช่วยเรื่องสิว: มีฤทธิ์ anti-androgenic ช่วยลดสิวและผิวมัน
  • ควบคุมน้ำหนักได้ดีกว่าบางชนิด: บางรายอาจรู้สึกว่าไม่มีอาการบวมน้ำหรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากการใช้ยา

คำแนะนำจากเภสัชกร: ยาคุมกำเนิดเป็นยาที่ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้เสมอ เพื่อประเมินความเหมาะสม ปัจจัยเสี่ยง และเลือกชนิดยาคุมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาอื่นๆ อยู่

คุณสมบัติYasmin (ยาสมิน)Yaz (ยาส)
ส่วนประกอบฮอร์โมนEthinylestradiol (เอธินิลเอสตราไดออล): 0.03 มิลลิกรัม Drospirenone (ดรอสพิเรโนน): 3 มิลลิกรัมEthinylestradiol (เอธินิลเอสตราไดออล): 0.02 มิลลิกรัม Drospirenone (ดรอสพิเรโนน): 3 มิลลิกรัม
ปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนปานกลาง (0.03 mg)ต่ำ (0.02 mg) หรือเรียกว่า “Ultra-low-dose”
จำนวนเม็ด/แผง21 เม็ด (เป็นเม็ดยาฮอร์โมนทั้งหมด)28 เม็ด (24 เม็ดฮอร์โมนสีชมพู + 4 เม็ดยาหลอกสีขาว)
รูปแบบการรับประทานรับประทาน 21 เม็ดติดต่อกัน เว้น 7 วัน แล้วเริ่มแผงใหม่ในวันที่ 8รับประทาน 24 เม็ดฮอร์โมนสีชมพูติดต่อกัน จากนั้นต่อด้วยเม็ดยาหลอกสีขาว 4 เม็ดติดต่อกัน ไม่มีช่วงเว้นยา แล้วเริ่มแผงใหม่ทันที
ช่วงปลอดฮอร์โมน7 วัน4 วัน (เป็นช่วงรับประทานเม็ดยาหลอก)
การลืมยาหากลืมเกิน 12 ชั่วโมง: ประสิทธิภาพลดลง ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดเสริมอย่างน้อย 7 วัน และมีแนวทางจัดการที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสัปดาห์ที่ลืมหากลืมเม็ดฮอร์โมนเกิน 24 ชั่วโมง: ประสิทธิภาพลดลง ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดเสริมอย่างน้อย 7 วัน และมีแนวทางจัดการที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่วงที่ลืมลืมเม็ดหลอก: ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการคุมกำเนิด
ความสะดวกในการรับประทานอาจต้องจดจำวันเริ่มและวันหยุดยาให้แม่นยำรับประทานต่อเนื่องทุกวัน ทำให้จดจำได้ง่ายกว่า
ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงมาก หากรับประทานถูกต้องและสม่ำเสมอสูงมาก หากรับประทานถูกต้องและสม่ำเสมอ
ผลข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจนอาจพบอาการจากเอสโตรเจนได้บ้าง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บเต้านม ในบางรายมีแนวโน้มที่จะเกิดน้อยกว่า เนื่องจากปริมาณเอสโตรเจนต่ำกว่า
ผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับ Drospirenone
– ลดสิว/ผิวมันมีฤทธิ์ Anti-androgenic ช่วยลดสิวและผิวมันมีฤทธิ์ Anti-androgenic ช่วยลดสิวและผิวมัน
– ลดอาการบวมน้ำมีฤทธิ์อ่อนๆ คล้ายยาขับปัสสาวะ ช่วยลดอาการบวมน้ำมีฤทธิ์อ่อนๆ คล้ายยาขับปัสสาวะ ช่วยลดอาการบวมน้ำ และได้รับการอนุมัติให้ใช้รักษา PMDD (อาการก่อนมีประจำเดือนรุนแรง)
– ความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตันมีความเสี่ยงเล็กน้อยที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับยาคุมบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์หากมีปัจจัยเสี่ยงมีความเสี่ยงเล็กน้อยที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากมี Drospirenone เหมือนกัน แต่การลดปริมาณเอสโตรเจนลง อาจช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมได้บ้าง (ยังคงต้องระวังในผู้มีปัจจัยเสี่ยง)
ลักษณะประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ลดปวดประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ลดปวดประจำเดือน และอาจมีปริมาณเลือดที่ออกน้อยลง หรือระยะเวลาสั้นลง เนื่องจากช่วงปลอดฮอร์โมนสั้นกว่า
เหมาะกับใครผู้ที่ต้องการยาคุมกำเนิดทั่วไป ที่ต้องการคุณสมบัติลดสิวและลดอาการบวมน้ำ และไม่ติดขัดเรื่องการเว้นยาผู้ที่ต้องการยาคุมกำเนิดฮอร์โมนต่ำมาก เพื่อลดผลข้างเคียงจากเอสโตรเจน ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการรับประทานต่อเนื่องทุกวัน ผู้ที่มีปัญหาสิวและอาการก่อนมีประจำเดือนรุนแรง (PMDD)

สรุปความแตกต่างและข้อพิจารณาในการเลือกใช้:

  1. ปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจน:
    • Yaz มีเอสโตรเจน (Ethinylestradiol) ต่ำกว่า Yasmin อย่างมีนัยสำคัญ (0.02 mg vs. 0.03 mg)
    • ผลลัพธ์: ผู้ที่เคยมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเจ็บเต้านมจากยาคุมที่มีเอสโตรเจนสูงกว่า อาจจะรู้สึกดีขึ้นเมื่อใช้ Yaz นอกจากนี้ การที่เอสโตรเจนต่ำ อาจส่งผลต่อความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตันโดยรวมที่อาจลดลง (แต่ก็ยังคงต้องระวังในผู้มีปัจจัยเสี่ยง)
    • ข้อเสีย (ที่พบน้อย): ในบางราย การที่ปริมาณเอสโตรเจนต่ำมาก อาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกกะปริดกะปรอย (spotting) ในช่วงแรกของการใช้ยาได้ง่ายกว่ายาที่มีเอสโตรเจนสูงกว่า

  2. รูปแบบการรับประทาน (21 vs. 28 เม็ด):
    • Yasmin (21 เม็ด): ต้องจำวันเว้นยา 7 วัน ซึ่งอาจทำให้บางคนลืมวันเริ่มยาแผงใหม่ได้ง่าย
    • Yaz (28 เม็ด): รับประทานต่อเนื่องทุกวัน (เม็ดฮอร์โมน 24 เม็ด, เม็ดหลอก 4 เม็ด) ทำให้สะดวกและลดโอกาสลืมยาได้ดีกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสม่ำเสมอในการรับประทาน

  3. ข้อบ่งใช้เพิ่มเติม:
    • ทั้งคู่ช่วยเรื่องสิวและลดอาการบวมน้ำได้ดี เนื่องจากมีฮอร์โมน Drospirenone เหมือนกัน
    • Yaz มีข้อบ่งใช้เพิ่มเติมที่ได้รับการรับรองสำหรับการรักษา PMDD (Premenstrual Dysphoric Disorder) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนที่รุนแรงกว่า PMS ทั่วไป

คำแนะนำที่สำคัญที่สุด: การเลือกยาคุมกำเนิดเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อให้ประเมินสุขภาพ ประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว ยาที่ใช้ร่วมกัน รวมถึงความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ เพื่อเลือกชนิดยาคุมที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณค่ะ


ข้อมูลอ้างอิง (References)

  1. เอกสารกำกับยา (Product Information / Package Insert): ข้อมูลที่แนบมากับผลิตภัณฑ์ยาโดยตรง ซึ่งระบุส่วนประกอบ, ข้อบ่งใช้, กลไกการออกฤทธิ์, วิธีใช้, ผลข้างเคียง, ข้อห้ามใช้, และข้อควรระวังต่างๆ เป็นข้อมูลที่ผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลยา (เช่น อย. ของแต่ละประเทศ)
    • สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจะอ้างอิงจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
    • สำหรับต่างประเทศ อาจอ้างอิงจาก U.S. Food and Drug Administration (FDA) หรือ European Medicines Agency (EMA)
  2. ฐานข้อมูลยา (Drug Databases): ฐานข้อมูลทางการแพทย์ที่รวบรวมข้อมูลยาต่างๆ อย่างละเอียด เช่น
    • MIMS (Monthly Index of Medical Specialities): ฐานข้อมูลยาและข้อมูลทางการแพทย์ที่ใช้กันแพร่หลายในภูมิภาคเอเชีย
    • RxList: ฐานข้อมูลยาของสหรัฐอเมริกา
    • Drugs.com: ฐานข้อมูลยาและข้อมูลสุขภาพที่น่าเชื่อถือ
  3. วารสารทางการแพทย์และงานวิจัย: บทความวิจัยทางคลินิกและรีวิวที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ที่ผ่านการทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญ (peer-reviewed journals) ซึ่งศึกษาประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และผลข้างเคียงของยา
  4. เว็บไซต์ของหน่วยงานด้านสุขภาพและองค์กรวิชาชีพ:
    • Bayer Global / Bayer Thailand: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของผู้ผลิตยา Yasmin และ Yaz ซึ่งจะมีข้อมูลผลิตภัณฑ์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และผู้บริโภค
    • สมาคมเภสัชกรรมชุมชน (ประเทศไทย) / สมาคมสูตินรีแพทย์: อาจมีแนวทางปฏิบัติหรือข้อมูลคำแนะนำที่เกี่ยวข้อง
    • โรงพยาบาลและสถาบันการแพทย์: เว็บไซต์ของโรงพยาบาลชั้นนำมักจะมีบทความให้ความรู้เกี่ยวกับยาและการดูแลสุขภาพ

ตัวอย่างการอ้างอิงเฉพาะผลิตภัณฑ์ (ที่บุคลากรทางการแพทย์มักใช้

เรียบเรียงโดย (Compiled by)  : www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี