ยาเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ

 การใช้ยาเพิ่มฮอร์โมนเพศชายหรือที่เรียกว่า การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทน (Testosterone Replacement Therapy: TRT) เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ชายที่มีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย (Hypogonadism) อย่างไรก็ตาม ยาประเภทนี้เป็นยาที่มีผลกระทบสูงและมีความเสี่ยง หากใช้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึงต้อง ปรึกษาแพทย์และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเสมอ

กลไกการออกฤทธิ์ของเทสโทสเตอโรน

ยาเพิ่มฮอร์โมนเพศชายจะทำงานโดยการส่งฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสังเคราะห์เข้าสู่ร่างกายโดยตรง เพื่อชดเชยปริมาณฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตได้ไม่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูระดับฮอร์โมนให้กลับสู่ช่วงปกติและช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับภาวะพร่องฮอร์โมน เช่น ความต้องการทางเพศลดลง, อ่อนเพลีย, และมวลกล้ามเนื้อลดลง [1]

ประโยชน์เทสโทสเตอโรน

  • เพิ่มความต้องการทางเพศและสมรรถภาพทางเพศ
  • เพิ่มมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรง
  • เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก
  • ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นและลดอาการซึมเศร้าหรือหงุดหงิด
  • เพิ่มระดับพลังงานและความกระฉับกระเฉง

ขนาดยาและการบริหารยา

แพทย์จะเป็นผู้กำหนดรูปแบบและปริมาณยาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล โดยพิจารณาจากผลการตรวจเลือดและอาการทางคลินิก รูปแบบของยา TRT ที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • ยาฉีด: เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เช่น Testosterone Enanthate (Testoviron Depot) ที่สามารถฉีดได้ทุก 2-4 สัปดาห์ หรือ Testosterone Undecanoate (Nebido) ที่ฉีดทุก 10-14 สัปดาห์
  • เจลทาผิว: สำหรับทาลงบนผิวหนังเพื่อดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด
  • แผ่นแปะผิวหนัง: คล้ายแผ่นแปะนิโคตินที่ปล่อยฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกายอย่างต่อเนื่อง [2]
Finasteride

ผลข้างเคียงเทสโทสเตอโรน

การใช้ยา TRT โดยไม่ปรึกษาแพทย์อาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ เช่น:

  • ภาวะคั่งน้ำและบวมตามร่างกาย
  • หัวใจเต้นผิดปกติ หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด [3]
  • เพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงมากเกินไป (Polycythemia) ซึ่งอาจทำให้เลือดข้น
  • ปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก เช่น ต่อมลูกหมากโต หรือเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • ภาวะอัณฑะฝ่อและจำนวนอสุจิลดลง

ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติมเทสโทสเตอโรน

  • ห้ามซื้อยามาใช้เองเด็ดขาด: การใช้ยา TRT โดยไม่มีการตรวจเลือดและคำแนะนำจากแพทย์ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
  • ต้องตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ: ผู้ที่ใช้ยา TRT ต้องเข้ารับการตรวจเลือดและพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินระดับฮอร์โมน, ค่าเลือด และความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
  • ความจำเป็นในการใช้: ยานี้ใช้สำหรับผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำเท่านั้น ไม่ใช่ยาสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มสมรรถภาพทางกายโดยไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์

ยี่ห้อยาที่มีส่วนประกอบในไทย

  • Testoviron® Depot (เทสโตวิรอน ดีโปท์)
  • Nebido® (เนบิโด)
  • Sustanon® (ซัสตาโนน)

แหล่งซื้อยา (ระบุว่าต้องมีใบสั่งแพทย์)

ยาเพิ่มฮอร์โมนเพศชายเป็นยาควบคุมพิเศษและเป็นยาอันตรายที่ ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์และซื้อได้จากโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

“ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงความรู้เบื้องต้น ไม่สามารถใช้ทดแทนการปรึกษาและวินิจฉัยจากแพทย์หรือเภสัชได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเมื่อใช้ยา หรือมีปัญหาสุขภาพ”


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

  1. Mayo Clinic. (n.d.). Testosterone therapy: Potential benefits and risks as you age. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/sexual-health/in-depth/testosterone-therapy/art-20045728
  2. Cleveland Clinic. (n.d.). Testosterone Replacement Therapy (TRT). Retrieved from https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/22530-testosterone-replacement-therapy-trt
  3. American Heart Association. (n.d.). Testosterone and the Heart: What’s the Link?. Retrieved from https://www.heart.org/en/news/2021/06/17/testosterone-and-the-heart-whats-the-link

เรียบเรียงโดย (Compiled by)  : www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี