รักษาริดสีดวงทวารแบบไม่ผ่าตัด: ทางเลือกที่น่าสนใจเมื่อยาไม่พอ
เมื่ออาการ ริดสีดวงทวาร ไม่ทุเลาลงด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือการใช้ยา หลายคนอาจเริ่มกังวลว่าต้องเข้ารับการผ่าตัดเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วยังมี ทางเลือกการรักษาแบบไม่ผ่าตัด อีกหลายวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาอาการและกำจัดริดสีดวงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับริดสีดวงภายในระยะที่ 1-3 วิธีการเหล่านี้มักใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าและมีความเสี่ยงต่ำกว่าการผ่าตัด วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับวิธีการรักษาริดสีดวงทวารแบบไม่ผ่าตัดที่น่าสนใจกันครับ
ใครบ้างที่เหมาะกับการรักษาริดสีดวงแบบไม่ผ่าตัด?
การรักษาแบบไม่ผ่าตัดมักเป็นทางเลือกแรกที่แพทย์พิจารณาสำหรับ:
- ริดสีดวงภายในระยะที่ 1 และ 2: ที่มีอาการเลือดออกหรือยื่นออกมาแล้วหดกลับได้เอง
- ริดสีดวงภายในระยะที่ 3: ที่สามารถดันกลับเข้าไปได้ด้วยตนเอง
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือมีข้อจำกัดด้านสุขภาพที่ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้
วิธีการรักษาริดสีดวงทวารแบบไม่ผ่าตัดที่นิยม
มีหลายวิธีที่แพทย์นิยมใช้ในการรักษาริดสีดวงแบบไม่ผ่าตัด ซึ่งแต่ละวิธีมีหลักการและข้อดีข้อเสียต่างกันไป:
1. การรัดยาง (Rubber Band Ligation)
- หลักการ: เป็นวิธีที่นิยมและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับ ริดสีดวงภายในระยะที่ 1-3 แพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษสอดเข้าไปในทวารหนักเพื่อรัดยางรัดเล็กๆ บริเวณโคนของริดสีดวง ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงริดสีดวงได้ [1]
- ผลลัพธ์: ริดสีดวงที่ถูกรัดจะฝ่อและหลุดออกมาเองภายใน 7-10 วัน พร้อมกับยางรัด โดยผู้ป่วยอาจไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก
- ข้อดี: ทำได้ง่าย รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- ข้อเสีย: อาจมีอาการปวดหน่วงๆ หรือรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยหลังทำ อาจต้องทำหลายครั้งขึ้นอยู่กับจำนวนริดสีดวง
2. การฉีดยา (Sclerotherapy)
- หลักการ: เป็นการฉีดยาที่เป็นสารเคมีเข้าไปในเนื้อเยื่อรอบๆ ริดสีดวงภายใน ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและฝ่อลง [2]
- เหมาะสำหรับ: ริดสีดวงภายในระยะที่ 1 และ 2 ที่มีเลือดออก แต่มีขนาดไม่ใหญ่มาก
- ข้อดี: เจ็บน้อยมากขณะทำ ไม่ต้องพักฟื้น
- ข้อเสีย: ประสิทธิภาพอาจไม่เทียบเท่าการรัดยางในริดสีดวงที่มีขนาดใหญ่ อาจต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง
3. การใช้ความร้อนจี้ (Infrared Coagulation – IRC)
- หลักการ: แพทย์จะใช้เครื่องมือที่ปล่อยความร้อนจากแสงอินฟราเรดไปจี้บริเวณโคนของริดสีดวงภายใน ทำให้เนื้อเยื่อริดสีดวงแข็งตัวและฝ่อลง [3]
- เหมาะสำหรับ: ริดสีดวงภายในระยะที่ 1 และ 2 ที่มีเลือดออก
- ข้อดี: เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น
- ข้อเสีย: อาจไม่เหมาะกับริดสีดวงขนาดใหญ่มาก หรือที่มีอาการยื่นออกมา
4. การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser Hemorrhoidoplasty)
- หลักการ: ใช้พลังงานเลเซอร์จี้เข้าไปในเส้นเลือดที่เลี้ยงริดสีดวง ทำให้ริดสีดวงหดตัวและฝ่อลง [4]
- เหมาะสำหรับ: ริดสีดวงภายในระยะที่ 1-3
- ข้อดี: แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ความเสียหายต่อเนื้อเยื่อน้อย
- ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีอื่น
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม
การเลือกวิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัดที่เหมาะสมนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะของริดสีดวงทวาร อาการที่เป็น ความรุนแรง และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านลำไส้ใหญ่และทวารหนัก แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ เพื่อให้คุณได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้โดยเร็ว
อย่าปล่อยให้อาการริดสีดวงทวารรบกวนชีวิต หากการดูแลตัวเองไม่เห็นผล ลองพิจารณาทางเลือกการรักษาแบบไม่ผ่าตัดเหล่านี้ และปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณครับ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- Mayo Clinic. (2024, May 14). Hemorrhoids – Symptoms & causes. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hemorrhoids/symptoms-causes/syc-20360262
- National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases (NIDDK). (2024, February). Hemorrhoids. Retrieved from https://www.niddk.nih.gov/health-information/digestive-diseases/hemorrhoids
- Cleveland Clinic. (2023, September 29). Hemorrhoids. Retrieved from https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/15124-hemorrhoids
- American Society of Colon and Rectal Surgeons (ASCRS). (n.d.). Hemorrhoids. Retrieved from https://fascrs.org/patients/diseases-and-conditions/hemorrhoids
เรียบเรียงข้อมูลโดย www.chulalakpharmacy.com