ลดน้ำตาลในเลือดเร่งด่วน: ทำอย่างไรเมื่อน้ำตาลพุ่งสูง?

น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงกะทันหัน? มาดู อาการ ที่บ่งบอกและ วิธีลดน้ำตาลในเลือดเร่งด่วน ที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันและดูแลสุขภาพของคุณอย่างปลอดภัย

ลดน้ำตาลในเลือดเร่งด่วน: ทำอย่างไรเมื่อน้ำตาลพุ่งสูง? (อาการและการรับมือที่ถูกต้อง)

สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ แต่บางครั้งก็อาจมีสถานการณ์ที่ น้ำตาลในเลือดพุ่งสูง ขึ้นอย่างกะทันหัน ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การกินอาหารมากเกินไป การลืมฉีดอินซูลิน การเจ็บป่วย หรือความเครียด หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการแก้ไข ภาวะนี้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ การรู้ว่า “ทำอย่างไรเมื่อน้ำตาลพุ่งสูง” และรู้วิธี ลดน้ำตาลในเลือดเร่งด่วน อย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่คุณต้องเตรียมพร้อม

สัญญาณอันตราย: อาการบ่งบอกว่าน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง

เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ร่างกายจะเริ่มแสดงอาการเตือน [1, 2]:

  • ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ: ร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ
  • กระหายน้ำมากผิดปกติ: เป็นผลจากการสูญเสียน้ำจากการปัสสาวะบ่อย
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยล้าผิดปกติ: แม้จะพักผ่อนแล้วก็ยังรู้สึกไม่มีแรง
  • ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด: ระดับน้ำตาลที่สูงส่งผลต่อเลนส์ตาชั่วคราว
  • คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นภาวะน้ำตาลสูงรุนแรงและมีภาวะคีโตนในเลือดสูง (Diabetic Ketoacidosis – DKA)
  • ผิวหนังแห้ง ปากแห้ง: เป็นสัญญาณของการขาดน้ำในร่างกาย
  • ลมหายใจมีกลิ่นผลไม้ (คล้ายกลิ่นอะซิโตน): นี่เป็นสัญญาณอันตรายของภาวะคีโตนในเลือดสูง (DKA) ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์

หากคุณมีอาการเหล่านี้และตรวจพบว่าน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 250 mg/dL ขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ควรเริ่มดำเนินการแก้ไขและเตรียมพร้อมสำหรับการพบแพทย์

วิธีลดน้ำตาลในเลือดเร่งด่วนที่บ้าน (กรณีที่ยังไม่รุนแรง)

หากคุณตรวจพบว่าน้ำตาลในเลือดสูง แต่ยังไม่มีอาการรุนแรง เช่น คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง หรือหมดสติ คุณสามารถลองปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้ก่อนได้ [3, 4]:

  1. ดื่มน้ำเปล่าให้มาก: การดื่มน้ำเปล่ามากๆ จะช่วยให้ร่างกายขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะและช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำ
  2. ออกกำลังกายเบาๆ (หากไม่มีคีโตนในปัสสาวะ): การเดินเบาๆ หรือการเคลื่อนไหวร่างกายจะช่วยให้เซลล์ตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้นและดึงน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ แต่ ห้ามออกกำลังกายหนัก หากคุณมีภาวะคีโตนในเลือดสูง (ซึ่งสามารถตรวจได้ด้วยแถบตรวจคีโตนในปัสสาวะ) เพราะอาจทำให้อาการแย่ลง
  3. ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะ: วัดระดับน้ำตาลทุกๆ 2-4 ชั่วโมง เพื่อติดตามผล
  4. ตรวจสอบคีโตนในปัสสาวะ: หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 250 mg/dL และคุณใช้ยาฉีดอินซูลิน ควรตรวจหาคีโตนในปัสสาวะ การมีคีโตนในปัสสาวะบ่งบอกว่าร่างกายเริ่มใช้ไขมันเป็นพลังงานแทนน้ำตาล ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะ DKA ได้ [4]
  5. ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที: หากคุณใช้ยาอินซูลิน แพทย์หรือเภสัชกรอาจแนะนำให้คุณฉีดอินซูลินเพิ่มในปริมาณที่เหมาะสม หรือปรับแผนการใช้ยาของคุณ

เมื่อไหร่ที่ต้องรีบไปโรงพยาบาลฉุกเฉิน? (ภาวะอันตราย)

หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันที่รุนแรง [1, 2]:

  • ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 300 mg/dL ขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
  • มีคีโตนในปัสสาวะในระดับปานกลางถึงสูง
  • คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง
  • หายใจหอบลึก หายใจมีกลิ่นผลไม้
  • สับสน หมดสติ หรือตอบสนองช้า

ภาวะเหล่านี้คือ ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตนในผู้ป่วยเบาหวาน (Diabetic Ketoacidosis – DKA) ซึ่งต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลทันที

การป้องกันที่ดีที่สุด: ควบคุมน้ำตาลอย่างสม่ำเสมอ

การ ลดน้ำตาลในเลือดเร่งด่วน เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันไม่ให้น้ำตาลพุ่งสูงตั้งแต่แรก ด้วยการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ [5]:

  • ใช้ยาเบาหวานตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด: ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดหรืออินซูลิน การใช้ยาอย่างสม่ำเสมอและถูกต้องคือหัวใจสำคัญ
  • ควบคุมอาหาร: เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัด แป้งขัดขาว และอาหารแปรรูป
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ: ช่วยให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้ได้ดีขึ้น
  • ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ: เพื่อติดตามผลและปรับแผนการดูแล
  • จัดการความเครียด: หาทางผ่อนคลายความเครียดอย่างเหมาะสม

สรุป: รู้ทัน รับมือถูก เพื่อชีวิตที่ปลอดภัย

การเผชิญหน้ากับภาวะ น้ำตาลพุ่งสูง อาจน่าตกใจ แต่หากคุณรู้จัก อาการ และ วิธีลดน้ำตาลในเลือดเร่งด่วน ที่ถูกต้อง ก็จะสามารถรับมือได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้เสมอ สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อวางแผนการดูแลและใช้ยาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัยจากเบาหวานครับ


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

  1. American Diabetes Association. (n.d.). Hyperglycemia (High Blood Glucose). Retrieved from https://diabetes.org/diabetes/hyperglycemia
  2. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). (2023, April 20). Signs and Symptoms of High Blood Sugar. Retrieved from https://www.cdc.gov/diabetes/basics/high-blood-sugar-symptoms.html
  3. Mayo Clinic. (2024, May 09). Diabetic coma – First aid. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-diabetic-coma/basics/art-20056637
  4. National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases (NIDDK). (n.d.). Diabetic Ketoacidosis (DKA) and Hyperosmolar Hyperglycemic State (HHS). Retrieved from https://www.niddk.nih.gov/health-information/diabetes/overview/emergencies/diabetic-ketoacidosis-dka
  5. สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ. (น.ด.). การป้องกันและควบคุมเบาหวาน. เข้าถึงได้จาก: https://www.dmthai.org/attachments/article/409/1.Prevention%20and%20Control.pdf

เรียบเรียงข้อมูลโดย  www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี