โรคเบาหวานคืออะไร? สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม

กำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นเบาหวานอยู่หรือเปล่า? ทำความเข้าใจ “โรคเบาหวานคืออะไร” อาการเบื้องต้นที่พบบ่อย และสัญญาณเตือนที่คุณต้องรู้ เพื่อการตรวจพบและดูแลสุขภาพอย่างทันท่วงที

โรคเบาหวานคืออะไร? สัญญาณเตือนที่คุณไม่ควรมองข้าม เพื่อสุขภาพที่ดีวันนี้!

ในโลกที่วิถีชีวิตเร่งรีบและอาหารการกินที่เปลี่ยนแปลงไป โรคเบาหวาน ได้กลายเป็นภาวะสุขภาพที่คนไทยจำนวนมากต้องเผชิญ คุณเคยสงสัยไหมว่าอาการที่คุณกำลังเป็นอยู่ เป็นสัญญาณของโรคร้ายนี้หรือไม่? การทำความเข้าใจว่า โรคเบาหวานคืออะไร และรู้จัก สัญญาณเตือนเบาหวาน ที่สำคัญ จะช่วยให้คุณสามารถตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และเข้ารับการดูแลที่เหมาะสมได้อย่างทันท่วงที เพื่อชีวิตที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น

โรคเบาหวานคืออะไร? ทำความเข้าใจภาวะที่ร่างกายใช้น้ำตาลไม่ได้

โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) คือภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง [1] โดยปกติแล้ว ร่างกายของเราจะเปลี่ยนอาหารที่เรากินให้เป็นน้ำตาลกลูโคส เพื่อใช้เป็นพลังงาน ซึ่งต้องอาศัย “อินซูลิน” ฮอร์โมนที่ผลิตจากตับอ่อน ในการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์

แต่เมื่อเป็นโรคเบาหวาน ร่างกายจะเกิดความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้:

  • ตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ หรือไม่ผลิตเลย (พบบ่อยใน เบาหวานชนิดที่ 1)
  • ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน คือผลิตอินซูลินได้ปกติ แต่อินซูลินทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร (พบบ่อยใน เบาหวานชนิดที่ 2)

เมื่ออินซูลินทำงานผิดปกติ น้ำตาลจึงไม่สามารถเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานได้ แต่มักจะสะสมอยู่ในกระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเรื่อยๆ และหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน จะนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงตามมา [1, 2]

สัญญาณเตือนเบาหวานที่พบบ่อย: อย่ามองข้ามเด็ดขาด!

สิ่งสำคัญคือการสังเกต อาการเบาหวาน ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและดูแลอย่างรวดเร็ว แม้บางอาการอาจดูไม่ร้ายแรง แต่หากมีหลายข้อควรรีบปรึกษาแพทย์ [3, 4]:

  1. ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ โดยเฉพาะตอนกลางคืน: ร่างกายพยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ จึงทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
  2. กระหายน้ำบ่อย ดื่มน้ำมากผิดปกติ: เป็นผลจากการปัสสาวะบ่อย ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและรู้สึกคอแห้ง กระหายน้ำตลอดเวลา
  3. หิวบ่อย กินจุแต่น้ำหนักลดลง: แม้จะกินมาก แต่น้ำตาลไม่สามารถเข้าสู่เซลล์เพื่อสร้างพลังงานได้ ทำให้ร่างกายยังคงรู้สึกหิว และดึงพลังงานจากไขมันและกล้ามเนื้อมาใช้ น้ำหนักจึงลดลง
  4. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง: เซลล์ร่างกายขาดพลังงาน เนื่องจากน้ำตาลไม่สามารถนำไปใช้ได้ ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าตลอดเวลา
  5. ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดเจน: ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อเลนส์ตา ทำให้การมองเห็นเปลี่ยนแปลงไป
  6. ชาปลายมือปลายเท้า หรือปวดแสบปวดร้อน: เป็นสัญญาณของเส้นประสาทที่เริ่มถูกทำลายจากระดับน้ำตาลที่สูงเป็นเวลานาน
  7. แผลหายยาก หรือเป็นฝีบ่อยๆ: ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่เมื่อมีน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้แผลหายช้า และติดเชื้อได้ง่าย
  8. ผิวหนังแห้ง คัน หรือเกิดการติดเชื้อราง่าย: โดยเฉพาะบริเวณที่อับชื้น เช่น ซอกนิ้ว ขาหนีบ
  9. สมรรถภาพทางเพศลดลง: ในเพศชาย อาจมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ


หากคุณพบว่ามีอาการเหล่านี้แม้เพียงบางข้อ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะการตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้การดูแลและควบคุมโรคทำได้ง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงในอนาคตได้มากครับ

สรุป: รู้เร็ว ดูแลเร็ว ชีวิตดีขึ้นได้

การทำความเข้าใจว่า โรคเบาหวานคืออะไร และรู้จัก สัญญาณเตือนเบาหวาน ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป การหมั่นสังเกตสุขภาพของตนเอง และหากพบความผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์โดยไม่ชักช้า จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการปกป้องสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคุณจากภัยเงียบของโรคเบาหวานครับ




แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

  1. American Diabetes Association. (n.d.). What is Diabetes?. Retrieved from https://diabetes.org/diabetes
  2. Mayo Clinic. (2024, May 09). Diabetes. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diabetes/symptoms-causes/syc-20371444
  3. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). (2023, April 20). Symptoms of Diabetes. Retrieved from https://www.cdc.gov/diabetes/basics/symptoms.html
  4. สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ. (n.d.). อาการของโรคเบาหวาน. เข้าถึงได้จาก: https://www.dmthai.org/attachments/article/409/Symptoms%20of%20Diabetes_V2.pdf

เรียบเรียงข้อมูลโดย  www.chulalakpharmacy.com

บทความที่คุณอาจสนใจ

  • แชร์

    ยังไม่มีบัญชี