ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนไม่ใช่แค่ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับลักษณะภายนอกเท่านั้น แต่มีหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมระบบต่างๆ ทั่วทั้งร่างกาย
บทบาทสำคัญของเทสโทสเตอโรนแบบเจาะลึก
- ต่อระบบสืบพันธุ์และการทำงานทางเพศ
- การสร้างอสุจิ (Spermatogenesis): เทสโทสเตอโรนเป็นฮอร์โมนหลักที่จำเป็นต่อการสร้างอสุจิอย่างต่อเนื่องในอัณฑะ
- ความต้องการทางเพศ (Libido): เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของความต้องการทางเพศและมีส่วนสำคัญต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
- การพัฒนาอวัยวะเพศชาย: มีบทบาทสำคัญตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นในการพัฒนาขนาดของอัณฑะ, องคชาต และต่อมลูกหมาก
- ต่อสุขภาพกล้ามเนื้อและกระดูก
- การสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อ: เทสโทสเตอโรนช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ ทำให้มวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงเพิ่มขึ้น
- ความหนาแน่นของมวลกระดูก: มีส่วนช่วยในการรักษาความหนาแน่นของกระดูก ช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนเมื่อมีอายุมากขึ้น
- ต่อระบบเผาผลาญและไขมัน
- การกระจายตัวของไขมัน: มีอิทธิพลต่อการสะสมไขมันในร่างกาย โดยช่วยให้มีไขมันในช่องท้องน้อยลง
- การสร้างเม็ดเลือดแดง: มีบทบาทในการกระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดแดงในไขกระดูก ซึ่งจำเป็นต่อการขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย
- ต่อสุขภาพจิตและอารมณ์
- ระดับพลังงานและความมีชีวิตชีวา: การมีระดับฮอร์โมนที่เหมาะสมส่งผลโดยตรงต่อระดับพลังงานและความกระฉับกระเฉง
- อารมณ์: ระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุลอาจเกี่ยวข้องกับอาการหงุดหงิด, ซึมเศร้า หรืออารมณ์แปรปรวนได้
ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone Deficiency)
คือภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุทั้งจากอัณฑะเองหรือจากต่อมใต้สมอง อาการที่พบบ่อยและบ่งชี้ถึงภาวะนี้ได้แก่:
- ความต้องการทางเพศลดลงอย่างมาก
- อ่อนเพลียเรื้อรังและขาดพลังงาน
- มวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงลดลง
- อารมณ์แปรปรวนหรือมีอาการคล้ายภาวะซึมเศร้า
- ภาวะโลหิตจางที่ไม่ทราบสาเหตุ
การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัยภาวะพร่องฮอร์โมนต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น โดยแพทย์จะพิจารณาจากอาการที่ผู้ป่วยเป็น รวมถึงการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในตอนเช้า [1] หากพบว่ามีภาวะนี้ การรักษาหลักคือ การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทน (Testosterone Replacement Therapy หรือ TRT) ซึ่งมีทั้งรูปแบบยาฉีด, ยาทาเจล หรือยาแผ่นแปะ เพื่อช่วยให้ระดับฮอร์โมนกลับมาเป็นปกติและบรรเทาอาการต่างๆ ได้ [2]
“ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงความรู้เบื้องต้น ไม่สามารถใช้ทดแทนการปรึกษาและวินิจฉัยจากแพทย์หรือเภสัชได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเมื่อใช้ยา หรือมีปัญหาสุขภาพ”
ข้อมูลอ้างอิง (References)
- Mayo Clinic. (2022, November 10). Testosterone: What It Is and How It Affects Your Health. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/sexual-health/in-depth/testosterone/art-20045842
- American Urological Association (AUA). (2018). Testosterone Deficiency. Retrieved from https://www.auanet.org/guidelines/testosterone-deficiency
เรียบเรียงโดย (Compiled by) : www.chulalakpharmacy.com