วางแผน เดินทาง ทั้งในและต่างประเทศสำหรับผู้ป่วย เบาหวาน ต้องรู้อะไรบ้าง? มาดูวิธี เตรียมตัว ให้พร้อมเพื่อการท่องเที่ยวที่ ปลอดภัยและสนุก ไร้กังวลเรื่องน้ำตาล
เบาหวานกับการเดินทาง: เตรียมตัวอย่างไรให้เที่ยวได้ปลอดภัยและสนุก?
การวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องงดการเดินทาง หรือเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านตรงกันข้าม การได้ออกไปท่องเที่ยวและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ สามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มคุณภาพชีวิตได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การเดินทางไม่ว่าจะเป็นระยะใกล้หรือไกล จำเป็นต้องมีการ เตรียมตัว ที่ดีกว่าคนทั่วไป เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ตลอดทริป และเที่ยวได้อย่าง ปลอดภัยและสนุก ไร้กังวล บทความนี้จะนำเสนอคำแนะนำที่ครอบคลุมสำหรับผู้ป่วย เบาหวานกับการเดินทาง
ทำไมผู้ป่วย “เบาหวาน” ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษเมื่อ “เดินทาง”?
การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมและกิจวัตรประจำวันระหว่างการเดินทางอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้หลายปัจจัย [1, 2]:
- เวลาที่เปลี่ยนไป (Time Zone Changes): การเดินทางข้ามเขตเวลาอาจส่งผลต่อตารางการกิน การฉีดอินซูลิน หรือการกินยา
- อาหารที่ไม่คุ้นเคย: การลองอาหารท้องถิ่นอาจทำให้การควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตทำได้ยากขึ้น
- กิจกรรมที่เพิ่มขึ้น/ลดลง: การเดินเที่ยวหรือทำกิจกรรมผจญภัยที่มากขึ้น หรือการนั่งพักผ่อนนานๆ อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาล
- อุณหภูมิ: อากาศที่ร้อนหรือเย็นจัดอาจมีผลต่อการเก็บรักษายาอินซูลิน
- ความเครียดจากการเดินทาง: ความกังวลหรือความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
เตรียมตัวอย่างไรให้พร้อมสำหรับ “เบาหวานกับการเดินทาง”
เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ควรเตรียมตัวล่วงหน้าดังนี้ [2, 3, 4]:
1. ปรึกษาแพทย์ล่วงหน้า (อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนเดินทาง):
- แจ้งแผนการเดินทาง: ระยะเวลา จุดหมายปลายทาง และกิจกรรมที่จะทำ
- ขอใบรับรองแพทย์: สำหรับการพกยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะอินซูลินและเข็มฉีดยา (แพทย์อาจแนะนำให้ระบุชนิดของยา ปริมาณ และความจำเป็นในการใช้ยา) เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่สนามบินหรือด่านตรวจคนเข้าเมือง
- ขอใบสั่งยาเพิ่มเติม: เผื่อกรณีทำยาหาย หรือการเดินทางล่าช้า ควรพกยาให้พอดีสำหรับเดินทางและมีสำรองอีก 1-2 สัปดาห์
- ปรับแผนการรักษา: แพทย์อาจปรับขนาดยา หรือตารางการฉีดอินซูลิน โดยเฉพาะการเดินทางข้ามเขตเวลา เพื่อให้เข้ากับเวลาท้องถิ่น
- ขอเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน: ของแพทย์ หรือโรงพยาบาลที่สามารถให้คำปรึกษาได้

2. จัดเตรียมยาและอุปกรณ์ให้พร้อม:
- พกยาและอุปกรณ์ติดตัวเสมอ: ห้ามเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้ท้องเครื่องบิน เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อยาอินซูลิน และหากกระเป๋าหาย คุณจะไม่มีอุปกรณ์ที่จำเป็น [3]
- ยาและอินซูลิน: เตรียมให้เพียงพอต่อการเดินทาง พร้อมยาสำรอง
- อินซูลิน: ควรเก็บในกระเป๋าเก็บความเย็นสำหรับยาที่เหมาะสม (ไม่เย็นจัดเกินไปจนเป็นน้ำแข็ง)
- เข็มฉีดยา/เข็มเจาะเลือด: ควรมีใบรับรองแพทย์กำกับ
- เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด: พกเครื่องวัดน้ำตาล แถบตรวจน้ำตาล และเข็มเจาะเลือดไปให้เพียงพอ พร้อมแบตเตอรี่สำรอง
- อุปกรณ์แก้ไขภาวะน้ำตาลต่ำ: พกของว่างที่สามารถเพิ่มน้ำตาลได้รวดเร็ว เช่น ลูกอม น้ำผลไม้ กลูโคสเจล หรือน้ำตาลก้อน ติดตัวไว้เสมอ
- ชุดตรวจคีโตน (สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1): หากต้องเดินทางไกล
3. การวางแผนเรื่องอาหารและการกิน:
- ศึกษาอาหารท้องถิ่น: พยายามเลือกอาหารที่คุ้นเคย หรืออาหารที่สามารถควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตได้
- พกของว่างที่เหมาะสม: เช่น ถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ที่ไม่หวานจัด เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลต่ำ หรือใช้เป็นของว่างยามฉุกเฉิน
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ: โดยเฉพาะเมื่อเดินทางในสภาพอากาศที่ร้อน หรือมีการเคลื่อนไหวมาก
4. การดูแลเท้า:
- สวมรองเท้าที่สบาย: เลือกใช้รองเท้าที่เคยใส่แล้วและใส่สบาย ไม่กัด หรือบีบรัดเท้า
- ตรวจสอบเท้าทุกวัน: ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ควรตรวจสอบเท้าทุกวัน เพื่อดูว่ามีรอยแดง บาดแผล หรือตุ่มพองหรือไม่
- พกชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น: สำหรับแผลเล็กๆ และหากมีบาดแผลควรรีบพบแพทย์ทันที
5. การเตรียมตัวอื่นๆ:
- แจ้งเพื่อนร่วมเดินทาง/ครอบครัว: ให้ทราบว่าคุณเป็นเบาหวาน และสอนวิธีรับมือหากเกิดภาวะน้ำตาลต่ำหรือฉุกเฉิน
- สวมป้ายหรือพกบัตรประจำตัวผู้ป่วยเบาหวาน: ระบุข้อมูลทางการแพทย์ที่สำคัญ ชื่อยาที่ใช้ และเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน (อาจเป็นภาษาอังกฤษด้วย)
- การจัดการความเครียด: การเดินทางอาจสร้างความเครียดได้ ลองใช้เทคนิคการผ่อนคลายที่คุณคุ้นเคย
ข้อควรระวังพิเศษสำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบิน
- พกยาติดตัวขึ้นเครื่อง: อย่านำอินซูลินและยาอื่นๆ ใส่กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง เพราะอุณหภูมิที่ต่ำมากอาจทำให้ยาเสียหายได้
- แจ้งเจ้าหน้าที่สนามบิน: หากคุณพกเข็มฉีดยาหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้เข็ม อาจต้องแสดงใบรับรองแพทย์
- เตรียมอาหาร/ของว่าง: สายการบินบางแห่งอาจมีข้อจำกัดเรื่องอาหาร ควรเตรียมของว่างที่จำเป็นเผื่อไว้
- เคลื่อนไหวร่างกาย: พยายามลุกเดินหรือขยับตัวบ่อยๆ ระหว่างการเดินทางบนเครื่องบิน เพื่อป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตัน และช่วยควบคุมน้ำตาล
สรุป: วางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
การเป็นโรคเบาหวานไม่ใช่ข้อจำกัดในการใช้ชีวิต หรือการเดินทางท่องเที่ยวครับ เพียงแต่คุณต้องใส่ใจในการ เตรียมตัว ที่ดีกว่าคนทั่วไป การวางแผนล่วงหน้า ปรึกษาแพทย์ จัดเตรียมยาและอุปกรณ์อย่างเหมาะสม และรู้จักการดูแลตัวเองตลอดการเดินทาง จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าทริปของคุณจะเต็มไปด้วยความสุข ความสนุก และปราศจากความกังวลเรื่องระดับน้ำตาลในเลือด เบาหวานกับการเดินทาง จึงเป็นเรื่องที่สามารถเป็นไปได้ด้วยดี หากคุณมีการจัดการที่ดี!
“การเดินทางที่ปลอดภัยเริ่มต้นจากการเตรียมตัวที่ดี! หากคุณมีแผนจะเดินทางและต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการเบาหวานระหว่างทริป หรือต้องการปรึกษาเรื่องยาและอุปกรณ์ที่เหมาะสม ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรของคุณล่วงหน้า เพื่อความมั่นใจตลอดการเดินทางของคุณ”
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- American Diabetes Association. (n.d.). Travel. Retrieved from https://diabetes.org/healthy-living/travel
- Mayo Clinic. (2024, May 09). Diabetes and travel: Your guide to a safe trip. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diabetes/in-depth/diabetes-and-travel/art-20045136
- Centers for Disease Control and Prevention (CDC). (2023, April 20). Traveling with Diabetes. Retrieved from https://www.cdc.gov/diabetes/managing/travel.html
- National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases (NIDDK). (n.d.). Traveling With Diabetes. Retrieved from https://www.niddk.nih.gov/health-information/diabetes/overview/managing-diabetes/travel
- สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ. (น.ด.). การเดินทางของผู้ป่วยเบาหวาน. เข้าถึงได้จาก: https://www.dmthai.org/attachments/article/409/Travel%20with%20DM.pdf
เรียบเรียงข้อมูลโดย www.chulalakpharmacy.com