มีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นเริมได้ไหม? ควรหลีกเลี่ยงหรือป้องกันอย่างไร?

เริม (Herpes Simplex Virus – HSV) เป็นไวรัสที่ติดต่อผ่านทางผิวหนังและของเหลวในร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงที่มีแผลหรือผื่นชัดเจน จึงทำให้การมีเพศสัมพันธ์เป็นช่องทางการแพร่เชื้อสำคัญ โดยเฉพาะเริมอวัยวะเพศ (HSV-2)

มีเพศสัมพันธ์ตอนเป็นเริมได้ไหม?

ไม่แนะนำอย่างยิ่ง ในช่วงที่มีอาการ เช่น แผลเริม ผื่น แสบ คัน หรือรู้สึกตึงที่อวัยวะเพศ เพราะเชื้อสามารถแพร่ได้ง่ายมากผ่านการสัมผัสโดยตรง แม้จะไม่มีการสอดใส่ก็ตาม

การแพร่เชื้อเริมระหว่างมีเพศสัมพันธ์

• เชื้อ HSV-2 มักแพร่โดยตรงผ่านแผล หรือผิวหนังที่มีไวรัส
• แม้ไม่มีแผลให้เห็น (ระยะฟักตัว) ก็ยังสามารถแพร่เชื้อได้
• การใช้ถุงยางอนามัยสามารถลดความเสี่ยงได้ “แต่ไม่ป้องกัน 100%” เพราะเริมอาจอยู่ที่บริเวณนอกเหนือถุงยาง เช่น ขาหนีบ ต้นขา หรือทวารหนัก

คำแนะนำหากคุณหรือคู่ของคุณมีเริม

1. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีอาการ โดยเฉพาะช่วงมีแผลหรือตุ่มใส
2. หากมีอาการเตือน เช่น ปวดตึง คัน หรือระคายเคือง ควรงดไว้ก่อน
3. หากจำเป็น ต้อง ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
4. พิจารณาการใช้ ยาต้านไวรัสแบบต่อเนื่อง (suppressive therapy) หากเป็นเริมบ่อย
5. ปรึกษาด้านยา หรือเภสัชกรได้ที่ร้านขายยาคุณภาพ เพื่อเลือกแนวทางลดโอกาสแพร่เชื้อให้คู่

สิ่งที่ไม่ควรทำ

• 🚫 คิดว่าไม่มีตุ่มหรือแผลแสดงว่าไม่แพร่เชื้อ
• 🚫 มีเพศสัมพันธ์โดยไม่บอกคู่ถึงประวัติการเป็นเริม
• 🚫 ใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีเดียวในการป้องกันโดยไม่รู้วิธีอื่นเสริม
• 🚫 ปล่อยให้แผลกำเริบบ่อยโดยไม่รักษา

อ่านเพิ่มเติม: [เริมกับการตั้งครรภ์ – อันตรายต่อลูกไหม? ต้องดูแลอย่างไร?]

ถาม-ตอบสั้น ๆ

Q: หากเคยเป็นเริมแล้ว ต้องป้องกันตลอดชีวิตไหม?
A: ใช่ เพราะเริมไม่มีทางหายขาด และอาจกำเริบหรือแพร่เชื้อแม้ไม่มีแผล

Q: มีเริมที่ปาก จะติดที่อวัยวะเพศได้ไหม?
A: ได้ หากมีการสัมผัสปากกับอวัยวะเพศ (oral sex)

ข้อมูลอ้างอิง (References):

1. CDC. Herpes and Sexual Activity. cdc.gov
2. Mayo Clinic. Genital herpes and safe sex. mayoclinic.org
3. NHS. Herpes Simplex Virus and sexual transmission. nhs.uk

เรียบเรียงข้อมูลโดย  www.chulalakpharmacy.com