ไขมันในเลือดสูงคืออะไร? รู้จักคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ อาการ และวิธีลดไขมันเพื่อสุขภาพดี

ไขมันในเลือดสูงคืออะไร สำคัญแค่ไหน? ทำความเข้าใจ คอเลสเตอรอล (LDL, HDL) และ ไตรกลีเซอไรด์ พร้อม อาการไขมันในเลือดสูง ที่อาจไม่แสดงออก และ วิธีลดไขมัน อย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด





ไขมันในเลือดสูงคืออะไร? รู้จักคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ อาการ และวิธีลดไขมันเพื่อสุขภาพดี

คุณเคยไปตรวจสุขภาพแล้วพบว่าค่า “ไขมันในเลือด” ของคุณสูงกว่าปกติหรือไม่? หรืออาจได้ยินคำว่า “คอเลสเตอรอลสูง” และ “ไตรกลีเซอไรด์สูง” จนทำให้เกิดความกังวลใจ? ไขมันในเลือดสูง เป็นภาวะที่พบได้บ่อยมากในปัจจุบัน และมักไม่มี อาการ แสดงที่ชัดเจนในระยะแรกเริ่ม ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากไม่รู้ตัวว่ากำลังมีภัยเงียบซ่อนอยู่ และอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคต บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจอย่างละเอียดว่า ไขมันในเลือดสูงคืออะไร รู้จักชนิดของไขมันที่สำคัญในร่างกาย สาเหตุ ที่ทำให้ไขมันสูง และที่สำคัญคือ วิธีลดไขมัน ในเลือดอย่างถูกวิธี เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ

ไขมันในเลือดสูงคืออะไร? ทำความรู้จักกับประเภทของไขมัน

ไขมันในเลือด หรือที่เรียกว่า “ไขมันในระบบไหลเวียนโลหิต” เป็นสารประกอบสำคัญที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย แต่การมีปริมาณที่มากเกินไป โดยเฉพาะไขมันบางชนิด จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ [1] โดยทั่วไปเมื่อพูดถึงไขมันในเลือดสูง เราจะพิจารณาจาก 4 ค่าหลักๆ ในรายงานผลเลือด [2]:

  1. คอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol): คือปริมาณคอเลสเตอรอลทั้งหมดในเลือด
    • เป้าหมาย: น้อยกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร (mg/dL)


  2. ไขมันความหนาแน่นต่ำ (LDL-Cholesterol) หรือ “ไขมันเลว”:
    • เป็นคอเลสเตอรอลที่นำไขมันไปสะสมตามผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง และเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด
    • เป้าหมาย: น้อยกว่า 100 mg/dL (หรือน้อยกว่า 70 mg/dL ในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง)


  3. ไขมันความหนาแน่นสูง (HDL-Cholesterol) หรือ “ไขมันดี”:
    • เป็นคอเลสเตอรอลที่ช่วยนำไขมันส่วนเกิน รวมถึงคอเลสเตอรอลที่สะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือด กลับไปที่ตับเพื่อขับออก เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
    • เป้าหมาย: มากกว่า 40 mg/dL สำหรับผู้ชาย และมากกว่า 50 mg/dL สำหรับผู้หญิง (ยิ่งสูงยิ่งดี)

  1. ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides):
    • เป็นไขมันอีกชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นจากคาร์โบไฮเดรตและไขมันส่วนเกินที่กินเข้าไป ถูกเก็บสะสมไว้ในเซลล์ไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงาน
    • ระดับไตรกลีเซอไรด์ที่สูงมากสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะเมื่อมีระดับ HDL ต่ำร่วมด้วย
    • เป้าหมาย: น้อยกว่า 150 mg/dL


ภาวะไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia) คือภาวะที่ค่าไขมันใดค่าหนึ่งหรือหลายค่าข้างต้นอยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสม เช่น LDL สูง, HDL ต่ำ, ไตรกลีเซอไรด์สูง หรือคอเลสเตอรอลรวมสูง





อาการไขมันในเลือดสูง: ภัยเงียบที่มักไม่แสดงออก

นี่คือเหตุผลที่ทำให้ ไขมันในเลือดสูง ถูกเรียกว่า “ฆาตกรเงียบ” เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วภาวะนี้ ไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจน ในระยะแรกเริ่ม [3] ผู้ป่วยหลายคนอาจมีระดับไขมันสูงมานานหลายปีโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งไขมันสะสมในหลอดเลือดจนเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น หลอดเลือดหัวใจตีบ หรือหลอดเลือดสมองตีบ ซึ่งอาจแสดงอาการดังต่อไปนี้:

  • อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ: เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยง่าย ใจสั่น (เมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบ)
  • อาการของโรคหลอดเลือดสมอง: ชาครึ่งซีก อ่อนแรงซีกเดียว ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด เวียนศีรษะรุนแรง (เมื่อหลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก)
  • อาการของหลอดเลือดส่วนปลายตีบ: ปวดขาเมื่อเดิน (ปวดน่อง ปวดตะโพก) อาการจะดีขึ้นเมื่อหยุดพัก
  • มีก้อนไขมันสะสมใต้ผิวหนัง (Xanthoma) หรือรอบดวงตา (Xanthelasma): เป็นอาการที่พบน้อยและมักพบในผู้ที่มีภาวะไขมันสูงจากพันธุกรรมรุนแรง

สิ่งสำคัญคือ: เนื่องจากไม่มีอาการ การตรวจสุขภาพประจำปีจึงเป็นวิธีเดียวที่จะทราบได้ว่าคุณมีภาวะไขมันในเลือดสูงหรือไม่ และควรเริ่มต้นตรวจคัดกรองตั้งแต่ยังไม่มีอาการ





สาเหตุไขมันในเลือดสูง: มาจากอะไรได้บ้าง?

สาเหตุ ของ ไขมันในเลือดสูง มีได้หลายปัจจัย ทั้งจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ [1, 4]:

1. ปัจจัยที่ควบคุมได้ (จากพฤติกรรมการใช้ชีวิต):

  • การกินอาหารที่ไม่เหมาะสม:
    • ไขมันอิ่มตัวสูง: พบในเนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ ผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันสูง เนย น้ำมันหมู น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว
    • ไขมันทรานส์: พบในอาหารแปรรูป เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว อาหารทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำ (แม้ปัจจุบันกฎหมายจะห้ามผลิตแล้ว แต่ก็ยังต้องระวัง)
    • คอเลสเตอรอลสูง: พบในเครื่องในสัตว์ ไข่แดง (แต่ไข่แดงไม่ได้มีผลต่อคอเลสเตอรอลในเลือดเท่าไขมันอิ่มตัว)
    • คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลมากเกินไป: การกินคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย จะถูกเปลี่ยนไปเก็บสะสมในรูปของไตรกลีเซอไรด์

  • ขาดการออกกำลังกาย: การใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานน้อยลง ไขมันจึงสะสมได้ง่าย
  • โรคอ้วน / น้ำหนักเกิน: โดยเฉพาะไขมันสะสมบริเวณช่องท้อง มักสัมพันธ์กับระดับ LDL และไตรกลีเซอไรด์ที่สูงขึ้น และ HDL ที่ต่ำลง
  • การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป: การดื่มหนักเป็นประจำ โดยเฉพาะไตรกลีเซอไรด์
  • การสูบบุหรี่: ทำลายหลอดเลือด ลดระดับ HDL และเพิ่มระดับ LDL


2. ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้:

  • กรรมพันธุ์: หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นไขมันในเลือดสูง หรือมีภาวะทางพันธุกรรมที่ทำให้ระดับไขมันสูงมากผิดปกติ (เช่น Familial Hypercholesterolemia)
  • อายุ: ระดับคอเลสเตอรอลมักสูงขึ้นตามอายุ
  • เพศ: ก่อนวัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงมักมี HDL สูงกว่าผู้ชาย แต่หลังหมดประจำเดือน ระดับไขมันอาจสูงขึ้น
  • โรคประจำตัวบางชนิด: เช่น เบาหวาน (น้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงและ HDL ต่ำ), ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์, โรคไตเรื้อรัง, โรคตับ
  • ยาบางชนิด: เช่น ยาคุมกำเนิดบางชนิด, ยาสเตียรอยด์, ยาขับปัสสาวะบางชนิด





การวินิจฉัยไขมันในเลือดสูง: ตรวจเลือดเท่านั้นที่บอกได้

การวินิจฉัย ไขมันในเลือดสูง ทำได้โดยการตรวจเลือดที่เรียกว่า “การตรวจระดับไขมันในเลือด” (Lipid Profile) ซึ่งโดยทั่วไปควรอดอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) ประมาณ 9-12 ชั่วโมงก่อนการเจาะเลือด [1, 5] แพทย์จะพิจารณาค่า LDL, HDL, ไตรกลีเซอไรด์ และคอเลสเตอรอลรวม เพื่อประเมินภาวะและกำหนดแนวทางการรักษา

ใครบ้างที่ควรตรวจระดับไขมันในเลือด?

  • ผู้ใหญ่ทุกคน: ควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป และตรวจซ้ำทุก 4-6 ปี หากผลปกติ
  • ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง: เช่น มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ/ไขมันสูง, เป็นโรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, โรคอ้วน, สูบบุหรี่ หรือมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ดี ควรตรวจบ่อยขึ้นตามคำแนะนำของแพทย์
  • เด็กและวัยรุ่น: หากมีประวัติครอบครัวเป็นไขมันสูงหรือโรคหัวใจตั้งแต่อายุน้อย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการตรวจคัดกรอง






การจัดการและวิธีลดไขมันในเลือดสูง: เพื่อสุขภาพที่ดีของหัวใจและหลอดเลือด

เป้าหมายหลักของการ จัดการไขมันในเลือดสูง คือการลดระดับไขมันที่ไม่ดี (LDL, ไตรกลีเซอไรด์) และเพิ่มไขมันที่ดี (HDL) เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย [6] แนวทางการจัดการจะประกอบด้วย:


1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม (Lifestyle Modifications): (สำคัญที่สุดและเป็นพื้นฐานของการรักษา!)

  • เลือกกินอาหารสุขภาพหัวใจ:
    • ลดไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: เลือกกินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, ปลา, ไก่ไม่ติดหนัง, ใช้น้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก (ในปริมาณที่พอเหมาะ)
    • เพิ่มใยอาหาร: กินผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสีให้มากขึ้น ใยอาหารชนิดละลายน้ำช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล
    • ลดคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล: ควบคุมปริมาณข้าว แป้ง น้ำตาล และเครื่องดื่มรสหวาน เพื่อลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์
    • กินโอเมก้า 3: พบในปลาทะเลน้ำลึก (แซลมอน แมคเคอเรล ซาร์ดีน) ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์และดีต่อสุขภาพหัวใจ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ (เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน) การออกกำลังกายช่วยลด LDL และไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่ม HDL
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม: การลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยให้ระดับไขมันดีขึ้นได้
  • งดสูบบุหรี่: การเลิกบุหรี่ช่วยเพิ่มระดับ HDL และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
  • จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์: ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง


2. การใช้ยา (Medication):

  • หากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่เพียงพอในการควบคุมระดับไขมันให้อยู่ในเป้าหมาย แพทย์จะพิจารณาใช้ ยาลดไขมันในเลือด ซึ่งมีหลายกลุ่ม
  • ยากลุ่มสแตติน (Statins): เป็นยาหลักที่ใช้ในการลด LDL-Cholesterol ที่มีประสิทธิภาพสูง และช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ชัดเจน
  • ยาอื่นๆ: เช่น ยาลดไตรกลีเซอไรด์ (Fibrates), ยาที่ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้ (Ezetimibe), หรือยาฉีดกลุ่มใหม่ๆ (PCSK9 Inhibitors) ในกรณีที่ไขมันสูงมากและไม่ตอบสนองต่อยาอื่น
  • สิ่งสำคัญ: การกินยาจะต้องควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรม และต้องกินยาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ ห้ามหยุดยาเองเด็ดขาด

3. การตรวจติดตามและพบแพทย์ตามนัด:

  • ผู้ป่วยควรตรวจเลือดเพื่อดูระดับไขมันอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์
  • พบแพทย์ตามนัด เพื่อประเมินผลการรักษา ปรับขนาดยา และตรวจหาภาวะแทรกซ้อน






ยาที่ใช้สำหรับรักษาโรคไขมันในเลือดสูง

ภาวะไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia หรือ Hyperlipidemia) เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับไขมันในเลือดบางชนิดมากเกินไป ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน การรักษาไขมันในเลือดสูงมักเริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่หากยังไม่ได้ผล แพทย์จะพิจารณาใช้ยาเพื่อช่วยควบคุมระดับไขมันครับ

ขอย้ำว่าข้อมูลยี่ห้อและประเภทยาเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น การใช้ยาลดไขมันในเลือดสูงจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ห้ามซื้อยามาใช้เองโดยเด็ดขาด

นี่คือประเภทยาลดไขมันในเลือดที่นิยมใช้และมีจำหน่าย พร้อมตัวอย่างชื่อสามัญและชื่อการค้าที่พบบ่อย:

1. ยากลุ่มสแตติน (Statins)

เป็นยาหลักที่ใช้ในการลดไขมัน LDL-C (ไขมันไม่ดี) และไตรกลีเซอไรด์ รวมถึงช่วยเพิ่ม HDL-C (ไขมันดี) เล็กน้อย ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งเอนไซม์ในตับที่ใช้ในการสร้างคอเลสเตอรอล

  • ชื่อสามัญที่พบบ่อย: Simvastatin, Atorvastatin, Rosuvastatin, Pravastatin, Fluvastatin, Pitavastatin
  • ตัวอย่างชื่อการค้า:
    • Simvastatin: Zocor, Zimmex, Zimva, Bestatin
    • Atorvastatin: Lipitor, Xarator, Chlovas, Atorsan, Atorvin
    • Rosuvastatin: Crestor, Otagil, Rovas, Vivacor, Cavstat
    • Pravastatin: Mevalotin, Pravachol, Cholstat
    • Fluvastatin: Lescol XL, Vastin
    • Pitavastatin: Pitasor
  • ผลข้างเคียงที่พบได้: ปวดกล้ามเนื้อ (Myalgia), ตับอักเสบ, ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเล็กน้อย (ในผู้ป่วยบางราย)

2. ยากลุ่มไฟเบรท (Fibrates)

ใช้เป็นหลักในการลดระดับไตรกลีเซอไรด์สูง และเพิ่ม HDL-C มักใช้ในผู้ป่วยที่มีไตรกลีเซอไรด์สูงมาก หรือใช้ร่วมกับสแตติน

  • ชื่อสามัญที่พบบ่อย: Fenofibrate, Gemfibrozil, Pemafibrate
  • ตัวอย่างชื่อการค้า:
    • Fenofibrate: Lipidil, Antara, Tricor

  • ผลข้างเคียงที่พบได้: ปวดท้อง, คลื่นไส้, อาจเพิ่มความเสี่ยงของนิ่วในถุงน้ำดี, อาจเพิ่มความเสี่ยงของกล้ามเนื้ออักเสบหากใช้ร่วมกับสแตติน


3. ยายับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอล (Cholesterol Absorption Inhibitors)

ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากอาหารที่ลำไส้เล็ก มักใช้ร่วมกับสแตตินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลด LDL-C

  • ชื่อสามัญที่พบบ่อย: Ezetimibe
  • ตัวอย่างชื่อการค้า: Ezetrol, Ezentia, Ezetimibe Sandoz, Mibeaz
  • ยาผสม (Ezetimibe + Statin): Atozet (Atorvastatin + Ezetimibe), Vytorin (Simvastatin + Ezetimibe), Rosuzet (Rosuvastatin + Ezetimibe)
  • ผลข้างเคียงที่พบได้: ปวดท้อง, ท้องเสีย, ปวดข้อ, อาจมีผลต่อตับเล็กน้อยหากใช้ร่วมกับสแตติน

4. ยากลุ่มเรซิน (Bile Acid Sequestrants / Resins)

จับกับกรดน้ำดีในลำไส้ ทำลายวงจรการดูดกลับกรดน้ำดี ทำให้ตับต้องดึงคอเลสเตอรอลมาสร้างกรดน้ำดีเพิ่มขึ้น จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

  • ชื่อสามัญที่พบบ่อย: Cholestyramine, Colestipol
  • ตัวอย่างชื่อการค้า: Questran
  • ผลข้างเคียงที่พบได้: ท้องผูก, ท้องอืด, คลื่นไส้


5. ยากลุ่ม PCSK9 Inhibitors

เป็นยาชีวภาพที่ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งโปรตีน PCSK9 ทำให้ตับสามารถนำ LDL-C ออกจากกระแสเลือดได้มากขึ้น มีประสิทธิภาพสูงมากในการลด LDL-C มักใช้ในผู้ป่วยที่มีระดับ LDL-C สูงมากและไม่ตอบสนองต่อยาอื่น หรือแพ้ยาอื่น

  • ชื่อสามัญที่พบบ่อย: Alirocumab, Evolocumab, Inclisiran
  • ตัวอย่างชื่อการค้า: Praluent (Alirocumab), Repatha (Evolocumab), Leqvio (Inclisiran)
  • รูปแบบการใช้: เป็นยาฉีดใต้ผิวหนัง
  • ข้อดี: ลด LDL-C ได้อย่างมาก, มีประโยชน์ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงมาก
  • ผลข้างเคียงที่พบได้: เจ็บปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด, มีอาการคล้ายไข้หวัด


6. กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 Fatty Acids)

ในขนาดสูงที่เป็นยา (ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วไป) สามารถช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ได้

  • ชื่อสามัญที่พบบ่อย: Icosapent Ethyl หรือผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาที่ได้มาตรฐานยา
  • ตัวอย่างชื่อการค้า (รูปแบบยา): Vascepa (Icosapent Ethyl)
  • ตัวอย่างชื่อการค้า (รูปแบบเสริมอาหาร/ยาบางประเภท): Blackmores Fish Oil, Vistra Salmon Fish Oil, Mega We Care Maxx Omega-3 (ชื่อเหล่านี้เป็นตัวอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั่วไปที่อาจมีปริมาณโอเมก้า 3 ที่แตกต่างกัน โปรดปรึกษาแพทย์ว่าจำเป็นต้องใช้ยาในขนาดสูงหรือไม่)
  • ผลข้างเคียงที่พบได้: เรอมีกลิ่นปลา, ท้องเสีย, คลื่นไส้

สิ่งสำคัญที่สุด:

  • การเลือกใช้ยาและขนาดยา แพทย์จะพิจารณาจากระดับไขมันในเลือด, โรคประจำตัวอื่นๆ (เช่น โรคหัวใจ, เบาหวาน, โรคไต), ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด, ผลข้างเคียงของยา, และยาอื่นๆ ที่ผู้ป่วยใช้อยู่
  • ห้ามหยุดยาเองหรือปรับยาเอง แม้ระดับไขมันจะลดลงแล้ว เพราะไขมันอาจกลับมาสูงได้อีก และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน







สรุป: ไขมันในเลือดสูงไม่ใช่เรื่องไกลตัว การป้องกันคือหัวใจสำคัญ

ไขมันในเลือดสูง เป็นภาวะที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของประชากร การทำความเข้าใจว่า ไขมันในเลือดสูงคืออะไร รู้จัก อาการ ที่มักไม่แสดงออก สาเหตุ ที่เป็นไปได้ และแนวทาง การจัดการ ด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และการใช้ยาตามความจำเป็น จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมระดับไขมันให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย และมีชีวิตที่มีสุขภาพดี ห่างไกลจากโรคร้ายแรงครับ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ

“หากคุณยังไม่เคยตรวจระดับไขมันในเลือด หรือกังวลเกี่ยวกับภาวะ ไขมันในเลือดสูง ของคุณ อย่ารอช้า! ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรใกล้บ้านคุณ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของคุณตั้งแต่วันนี้”





แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

  1. American Heart Association. (n.d.). Cholesterol. Retrieved from https://www.heart.org/en/health-topics/cholesterol
  2. สมาคมโรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์. (2565). แนวทางเวชปฏิบัติภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ พ.ศ. 2565. เข้าถึงได้จาก: https://thaiheart.org/images/column_1270729119/2022_Guideline_Dyslipidemia.pdf (อ้างอิงเกณฑ์ค่าไขมัน)
  3. Mayo Clinic. (2024, May 09). High cholesterol. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/high-blood-cholesterol/symptoms-causes/syc-20350800
  4. Centers for Disease Control and Prevention (CDC). (2023, April 20). High Cholesterol Facts. Retrieved from https://www.cdc.gov/cholesterol/cholesterol_facts.htm
  5. National Heart, Lung, and Blood Institute (NHLBI). (n.d.). High Blood Cholesterol: What You Need to Know. Retrieved from https://www.nhlbi.nih.gov/health/high-blood-cholesterol
  6. American College of Cardiology. (2024). ACC Expert Consensus Decision Pathway for the Management of Atherosclerotic Cardiovascular Disease Risk Reduction in Patients With Type 2 Diabetes. Retrieved from https://www.acc.org/latest-in-cardiology/articles/2024/01/29/18/39/acc-expert-consensus-decision-pathway-for-the-management-of-atherosclerotic-cardiovascular-disease-risk-reduction-in-patients-with-type-2-diabetes (อ้างอิงข้อมูลทั่วไปของการจัดการไขมันเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจ)

เรียบเรียงข้อมูลโดย  www.chulalakpharmacy.com

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี