ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย: รู้จักอาการ สาเหตุ และแนวทางการรักษา

ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย หรือ Hypogonadism คือภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมน เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย, สุขภาพทางเพศ และคุณภาพชีวิตโดยรวม [1]

อาการของภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย

อาการที่บ่งชี้ถึงภาวะนี้สามารถสังเกตได้จากทั้งด้านร่างกายและสุขภาพจิต:

  • อาการทางเพศ: ความต้องการทางเพศลดลง (Libido), ภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว (Erectile Dysfunction), และจำนวนอสุจิลดลง
  • อาการทางร่างกาย: กล้ามเนื้อและความแข็งแรงลดลง, มวลกระดูกลดลง (เสี่ยงต่อกระดูกพรุน), อ่อนเพลียเรื้อรัง, ผมร่วง, และมีไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง
  • อาการทางอารมณ์: ซึมเศร้า, หงุดหงิด, ขาดสมาธิ หรือมีปัญหาด้านความจำ

สาเหตุของภาวะพร่องฮอร์โมน

สาเหตุหลักของภาวะพร่องฮอร์โมนสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก [2]:

  • ภาวะตามวัย (Age-Related): เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เนื่องจากระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะค่อยๆ ลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการตามธรรมชาติ
  • สาเหตุจากอัณฑะ (Primary Hypogonadism): เกิดจากปัญหาที่อัณฑะเอง ทำให้ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนได้ตามปกติ สาเหตุอาจเกิดจากการบาดเจ็บที่อัณฑะ, การติดเชื้อ (เช่น คางทูม), หรือความผิดปกติทางพันธุกรรม (เช่น กลุ่มอาการ Klinefelter)
  • สาเหตุจากสมอง (Secondary Hypogonadism): เกิดจากความผิดปกติของต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland) หรือไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณให้แก่อัณฑะผลิตฮอร์โมน สาเหตุอาจมาจากเนื้องอกในต่อมใต้สมอง, ยาบางชนิด, หรือโรคเรื้อรัง


แนวทางการรักษา

เมื่อได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้ว แพทย์จะพิจารณาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม โดยแนวทางหลักคือ การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทน (Testosterone Replacement Therapy หรือ TRT) โดยมีรูปแบบต่างๆ เช่น:

  • ยาฉีด: เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมที่สุด เช่น Testoviron Depot หรือ Testosterone Enanthate ซึ่งจะให้ผลที่คงที่และยาวนาน
  • เจลทาผิว: สำหรับทาลงบนผิวหนังเพื่อดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด
  • แผ่นแปะผิวหนัง: คล้ายแผ่นแปะนิโคตินที่จะค่อยๆ ปล่อยฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกาย

สิ่งสำคัญ: การรักษาด้วยวิธีนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลและสั่งจ่ายของแพทย์อย่างใกล้ชิดเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับปริมาณยาที่เหมาะสมและเพื่อติดตามผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น [1]

อาหารเสริมที่ช่วยบำรุง ดูแล หรือป้องกัน

อาหารเสริมไม่สามารถรักษาภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายที่เกิดจากสาเหตุทางการแพทย์ได้โดยตรง แต่สามารถช่วยบำรุงร่างกายและสนับสนุนการทำงานของฮอร์โมนได้หากได้รับไม่เพียงพอ:

  • สังกะสี (Zinc): แร่ธาตุที่จำเป็นต่อการผลิตเทสโทสเตอโรนและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • วิตามินดี (Vitamin D): มีบทบาทคล้ายฮอร์โมนและสัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนเพศชายที่สูงขึ้น
  • แมกนีเซียม (Magnesium): ช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยในเรื่องคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งส่งผลดีต่อระดับฮอร์โมนโดยรวม

“ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงความรู้เบื้องต้น ไม่สามารถใช้ทดแทนการปรึกษาและวินิจฉัยจากแพทย์หรือเภสัชได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเมื่อใช้ยา หรือมีปัญหาสุขภาพ”


ข้อมูลอ้างอิง

  1. Mayo Clinic. (2022, November 10). Testosterone: What It Is and How It Affects Your Health. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/sexual-health/in-depth/testosterone/art-20045842
  2. Cleveland Clinic. (n.d.). Low Testosterone. Retrieved from https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/15603-low-testosterone-hypogonadism

เรียบเรียงโดย (Compiled by)  : www.chulalakpharmacy.com

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี