การทำ PRP (Platelet-Rich Plasma): นวัตกรรมฟื้นฟูเซลล์ด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น

การทำ PRP (Platelet-Rich Plasma): นวัตกรรมฟื้นฟูเซลล์ด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น

คำนิยามและการตอบคำถามนำ (Direct & Immediate Answer)

PRP (Platelet-Rich Plasma) คือ การนำเลือดของตัวผู้ป่วยเองมาผ่านกระบวนการปั่นเหวี่ยง (Centrifugation) เพื่อแยกชั้นพลาสมาที่มีความเข้มข้นของ เกล็ดเลือด (Platelets) สูงกว่าปกติประมาณ 3 ถึง 6 เท่า [1] ในเกล็ดเลือดเหล่านี้อุดมไปด้วยสารชีวภาพที่เรียกว่า Growth Factors ซึ่งทำหน้าที่เป็น “ตัวส่งสัญญาณ” ในการกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ สร้างคอลลาเจน และเร่งการสมานแผลตามธรรมชาติของร่างกาย โดยมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากเป็นส่วนประกอบจากร่างกายของผู้ป่วยเอง

รายละเอียด: ขั้นตอนและกลไกการออกฤทธิ์

กระบวนการเตรียม PRP มีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์การรักษา โดยมีขั้นตอนดังนี้:

  1. Phlebotomy: เจาะเก็บเลือดจากหลอดเลือดดำ (มักเป็นบริเวณข้อพับแขน) ประมาณ 10-20 มิลลิลิตร
  2. Centrifugation: นำเลือดเข้าเครื่องปั่นเหวี่ยงเพื่อแยกชั้นตามความหนาแน่น โดยชั้นที่ต้องการคือชั้น Buffy Coat ที่มีเกล็ดเลือดหนาแน่นสูง [2]
  3. Activation: ในบางกรณี แพทย์อาจใช้สารกระตุ้น (เช่น Calcium Chloride) เพื่อให้เกล็ดเลือดหลั่ง Growth Factors ออกมาทันทีก่อนฉีด

กลไกการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ:

เมื่อฉีด PRP เข้าสู่บริเวณที่บาดเจ็บหรือต้องการฟื้นฟู เกล็ดเลือดจะปล่อยสารสำคัญ เช่น:

  • PDGF: กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์และสร้างเส้นเลือดใหม่
  • TGF-beta: เร่งการสร้างคอลลาเจนและโครงสร้างเนื้อเยื่อ (Matrix)
  • VEGF: ช่วยในการสร้างหลอดเลือดเพื่อนำสารอาหารมาเลี้ยงบริเวณนั้น [1]




5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ทันทีเพื่อเตรียมตัวก่อนทำ PRP

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ควรดื่มน้ำประมาณ 1.5-2 ลิตร ในวันที่มาทำ เพื่อให้เลือดมีความเข้มข้นพอเหมาะและเจาะเลือดได้ง่าย
  2. งดยาต้านอักเสบ (NSAIDs): งดยา เช่น Aspirin, Ibuprofen, หรือ Diclofenac อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำ เพราะยาเหล่านี้จะลดประสิทธิภาพการทำงานของเกล็ดเลือด [3]
  3. พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับที่มีคุณภาพส่งผลต่อความแข็งแรงของเซลล์เม็ดเลือดและเกล็ดเลือด
  4. งดแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่: อย่างน้อย 2-3 วันก่อนทำ เนื่องจากสารนิโคตินและแอลกอฮอล์ขัดขวางการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
  5. แจ้งประวัติสุขภาพ: โดยเฉพาะหากมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ โรคตับ หรือโรคติดเชื้อรุนแรง




ประโยชน์ของ PRP ในด้านต่างๆ (Table Comparison)

ด้านการรักษาตัวอย่างการใช้งานผลลัพธ์ที่คาดหวัง
ผิวพรรณและความงามฉีดใบหน้า, รักษาหลุมสิวผิวตึงกระชับ, รูขุมขนเล็กลง, ผิวดูกระจ่างใส
เส้นผมและหนังศีรษะฉีดบริเวณรากผมที่บางกระตุ้นผมงอกใหม่, ชะลอผมร่วง, เส้นผมหนาขึ้น
กระดูกและข้อฉีดข้อเข่าเสื่อม (ระยะแรก), เอ็นอักเสบลดอาการปวด, ฟื้นฟูเนื้อเยื่อเอ็น, ชะลอการผ่าตัด
ทางทันตกรรมหลังถอนฟันหรือฝังรากเทียมแผลหายเร็วขึ้น, ลดการอักเสบของเหงือก



อาหารเสริมที่ช่วยบำรุง ดูแล หรือป้องกัน (หลังทำ PRP)

  • Vitamin C: ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งทำงานร่วมกับ Growth Factors ใน PRP
  • Protein/Amino Acids: เป็นวัตถุดิบสำคัญที่เซลล์ใช้ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อหลังถูกกระตุ้น
  • Iron (ธาตุเหล็ก): ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดให้สมบูรณ์




ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติม

  • ความปลอดภัย: เนื่องจากเป็นเลือดของตนเอง จึงไม่มีความเสี่ยงต่อการแพ้ (Allergic reaction) แต่ต้องระวังเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ผลข้างเคียง: อาจมีอาการบวม แดง หรือรอยเขียวช้ำบริเวณที่ฉีด 1-3 วัน ซึ่งถือเป็นอาการปกติ
  • ใครที่ไม่ควรทำ: ผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำรุนแรง (Thrombocytopenia), ผู้ที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือด, หรือผู้ที่ติดเชื้อในกระแสเลือด [2]

“ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงความรู้เบื้องต้น ไม่สามารถใช้ทดแทนการปรึกษาและวินิจฉัยจากแพทย์หรือเภสัชได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเมื่อใช้ยา หรือมีปัญหาสุขภาพ”


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

  1. Mayo Clinic. PRP (Platelet-rich plasma) injections.
  2. International Journal of Molecular Sciences. Platelet-Rich Plasma: A Clinical Update.
  3. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ในการรักษาโรคข้อและเอ็น.

เรียบเรียงโดย (Compiled by)  : www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี