หมากฝรั่งนิโคติน ตัวช่วยเลิกบุหรี่ได้ แนะนำวิธีใช้ที่ถูกต้อง

เชื่อว่าหลายคนที่ต้องการเลิกบุหรี่ เพราะ “สารนิโคติน”ส่งผลให้สุขภาพแย่ลงและก่อเกิดโรคต่าง ๆ ตามมา อาทิโรคหัวใจและมะเร็งปอด ซึ่งสารชนิดนี้เมื่อร่างกายได้รับแล้ว จะต้องการในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เกิดภาวะเสพติด เมื่อผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ หยุดสูบบุหรี่ จะทำให้เกิดอาการหน้ามืด ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ หงุดหงิด ซึมเศร้า กระสับกระส่าย ซึ่งเรียกว่าภาวะถอนนิโคติน เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เลิกบุหรี่ไม่สำเร็จ

หมากฝรั่งนิโคติน (nicotine gum) ถือเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ หรือเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ซึ่งหมากฝรั่งนิโคตินจัดเป็นยาที่ช่วยเลิกบุหรี่ที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากใช้ง่าย และสะดวก โดยหมากฝรั่งนิโคติน เป็นหมากฝรั่งที่มีส่วนผสมของนิโคติน มี 2 ขนาด ได้แก่ 2 มิลลิกรัม และ 4 มิลลิกรัม ซึ่งขนาดที่ใช้ขึ้นอยู่กับจำนวนบุหรี่ที่สูบ ใช้ทดแทนนิโคตินจากบุหรี่ ซึ่งสารนิโคตินทดแทน (Nicotine replacement therapy-NRT) จะเข้าสู่ร่างกายในขนาดต่ำๆ เพื่อระงับอาการขาดนิโคติน จากนั้นนิโคตินจะลดลงเรื่อยๆ จนหมด ดังนั้นเมื่อเลิกสูบบุหรี่ ก็จะยังได้รับนิโคตินจากหมากฝรั่ง ทำให้เกิดอาการถอนนิโคตินน้อยลงหรือไม่เกิดเลย จึงสามารถช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น แต่ต้องใช้อย่างถูกวิธีจึงจะเห็นผล อย่างไรก็ตาม หมากฝรั่งนิโคตินก็ยังมีข้อควรรู้ที่ผู้ใช้ควรทำความเข้าใจก่อนเริ่มใช้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพบางอย่าง เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายและลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการใช้หมากฝรั่งนิโคติน

หมากฝรั่งนิโคติน  (Nicotine gum) เหมาะสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่น้อยกว่า 20 มวนต่อวัน  หมากฝรั่ง 1 ชิ้น ประกอบด้วยนิโคติน ขนาด 2 mg โดยการเคี้ยว 1–2 ชิ้น เมื่อมีอาการอยากบุหรี่ และไม่ควรใช้เกินวันละ 25 ชิ้น รวมถึงไม่ควรใช้นานเกิน 6 เดือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้หมากฝรั่งนิโคติน

ก่อนที่จะใช้หมากฝรั่งนิโคติน ผู้ที่มีอาการติดบุหรี่ควรแจ้งประวัติทางด้านสุขภาพให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อน เนื่องจากสารบางชนิดในหมากฝรั่งนิโคตินอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังต่อไปนี้ ไม่ควรใช้หมากฝรั่งนิโคติน

  • ผู้ที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้หมากฝรั่งนิโคติน หรือมีประวัติแพ้ยาและอาหารต่าง ๆ
  • มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เช่น มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีภาวะความดันโลหิตสูง มีประวัติเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตกหรือภาวะหัวใจขาดเลือด หรือมีอาการเจ็บหน้าอก
  • ผู้ที่กำลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีนิโคตินเป็นส่วนผสม
  • ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคตับ โรคไต เบาหวาน มีความผิดปกติเกี่ยวกับข้อต่อขากรรไกร มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟัน มีแผลในกระเพาะอาหาร ไทรอยด์เป็นพิษ โรคลมชัก หรือมีเนื้องอกต่อมหมวกไตชนิดฟีโอโครโมไซโตมา

ผู้ที่ต้องการใช้หมากฝรั่งนิโคตินควรปฏิบัติดังนี้

1.เคี้ยวหมากฝรั่งช้า ๆ จนเริ่มมีรสเผ็ดซ่า

2.เมื่อรู้สึกถึงรสเผ็ดซ่าให้หยุดเคี้ยว แล้วนำหมากฝรั่งไปพักไว้ที่กระพุ้งแก้มข้างใดข้างหนึ่ง

3.เมื่อรสเผ็ดซ่าหายไปให้นำหมากฝรั่งมาเคี้ยวใหม่

4.เคี้ยวหมากฝรั่งจนมีรสเผ็ดซ่าแล้วนำไปพักไว้ที่กระพุ้งแก้มเช่นเดิม สลับกันไป ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

5.ห่อหมากฝรั่งด้วยกระดาษให้มิดชิดก่อนทิ้ง เพื่อป้องกันเด็กหรือสัตว์เลี้ยงนำไปเคี้ยวและอาจเกิดอันตรายได้จากนิโคตินที่ค้างอยู่ในหมากฝรั่ง

สำหรับความถี่และระยะเวลาในการใช้หมากฝรั่งนิโคติน ควรใช้หมากฝรั่งให้ครบ 12 สัปดาห์ โดยในช่วง 6 สัปดาห์แรก ให้เคี้ยวหมากฝรั่ง 1 ชิ้นทุก ๆ 1–2 ชั่วโมง หรือ 8-12 ชิ้นต่อวัน และเมื่อครบ 6 สัปดาห์ ให้ปรับความถี่เป็นทุก ๆ 2–4 ชั่วโมงหรือ 4-6 ชิ้นต่อวันติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ จากนั้นให้ปรับเป็นทุก ๆ 4–8 ชั่วโมงหรือ 1-3 ชิ้นต่อวันต่อเนื่องไปอีกเป็นเวลา 3 สัปดาห์ จนสามารถหยุดใช้ได้ในที่สุด

ทั้งนี้ ความถี่และระยะเวลาการใช้หมากฝรั่งนิโคตินอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน เนื่องจากแพทย์จะต้องดูความเหมาะสมต่อผู้ป่วยแต่ละคนประกอบไปด้วย อีกทั้งแพทย์อาจจำเป็นต้องนัดผู้ป่วยเป็นระยะ ๆ เพื่อตรวจการตอบสนองต่อการใช้งาน ดังนั้น ผู้ป่วยควรปฏิตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษาอย่างเคร่งครัดเป็นหลัก

ก่อนเริ่มใช้สารทดแทนนิโคตินควรหยุดสูบบุหรี่ทันที เพราะหากสูบบุหรี่ควบคู่ไปกับการเคี้ยวหมากฝรั่งนิโคติน อาจทำให้ร่างกายได้รับสารนิโคตินมากขึ้นจนนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ และควรงดเครื่องดื่มที่มีความเป็นกรด เช่น กาแฟ น้ำส้ม น้ำอัดลม ก่อนเคี้ยวหมากฝรั่ง 15 นาที เนื่องจากทำให้การดูดซึมนิโคตินลดลง และควรกลืนน้ำลายช้า ๆ ไม่กลืนน้ำลายมากเกินระหว่างเคี้ยว เพื่อลดการระคายเคืองทางเดินอาหาร และไม่ควรหยุดหรือปรับเปลี่ยนการใช้หมากฝรั่งเองแม้อาการอยากบุหรี่จะดีขึ้นแล้วก็ตาม

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการใช้หมากฝรั่งนิโคติน

การใช้หมากฝรั่งนิโคตินอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้ เช่น รู้สึกระคายเคืองในช่องปากบริเวณที่สัมผัสกับหมากฝรั่งบ่อย ๆ รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มบริเวณปาก เจ็บคอ ปวดท้อง ท้องเสีย เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ปวดหลัง หรือปวดตามข้อ ซึ่งผู้ที่เกิดอาการในลักษณะนี้ควรไปพบแพทย์ หากอาการเป็นมาก ไม่ดีขึ้น หรือแย่ลง

อย่างไรก็ตาม ควรหยุดใช้หมากฝรั่งนิโคตินแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที หากพบการเกิดอาการที่รุนแรง เช่น

  • สัญญาณของอาการแพ้ เช่น ผื่นขึ้น คันผิว ผิวบวมแดง เกิดแผลพุพอง ผิวลอก มีไข้ หายใจมีเสียงหวีด หายใจไม่ออก กลืนลำบาก พูดลำบาก เสียงแหบ รู้สึกแน่นหน้าอกหรือบริเวณลำคอ หรือเกิดอาการบวมบริเวณ ใบหน้า ปาก ลิ้น และลำคอ
  • สัญญาณของภาวะเป็นพิษจากนิโคติน เช่น ปวดท้องมาก คลื่นไส้ อาเจียน มีเหงื่อออกผิดปกติ ปวดศีรษะขั้นรุนแรง เวียนศีรษะ สับสน อ่อนเพลีย หูแว่ว เห็นภาพหลอน รู้สึกใจสั่นหรืออัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
  • สัญญาณของภาวะความดันโลหิตสูง เช่น ระดับความดันโลหิตสูงขึ้นมากเมื่อวัดด้วยตนเอง เวียนศีรษะหรือปวดศีรษะขั้นรุนแรง เกิดอาการผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็น หรือเป็นลม
  • อาการอื่น ๆ เช่น เจ็บคอ น้ำลายไหล ตัวสั่น สับสน อารมณ์แปรปรวน เจ็บขากรรไกร เจ็บหรือแน่นหน้าอก หรือรู้สึกแสบร้อน ชา คล้ายมีเข็มทิ่มตามร่างกาย และรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

หมากฝรั่งนิโคตินเป็นเพียงทางเลือกอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ แต่การเลิกบุหรี่ก็มีอีกหลากหลายวิธี หากสนใจควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– web pptvhd36
– web pobpad
– web hd mall
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี