LDL (Low-Density Lipoprotein) คืออะไร?

LDL หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ไขมันเลว” (Bad Cholesterol) เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ ลำเลียงคอเลสเตอรอลจากตับไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย

      แต่ถ้ามี LDL สูงเกินไป จะทำให้คอเลสเตอรอลส่วนเกินสะสมตามผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดคราบไขมัน (Plaque) ซึ่งนำไปสู่ภาวะ หลอดเลือดแข็งตัว และ ตีบแคบ เป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงหลายอย่าง
    แล้วในเลือกควรมี LDL อยู่ปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าปลอดภัย งั้นมาดูค่ามาตราฐาน LDL ในเลือดตามตารางด้านล่างกันเลย

       ค่า LDL ในเลือด: แปลผลอย่างไร?

ระดับ LDLคำอธิบายความเสี่ยง
< 100 mg/dLเหมาะสมมากต่ำที่สุด
100–129 mg/dLค่อนข้างเหมาะสมยอมรับได้ในคนไม่มีโรคประจำตัว
130–159 mg/dLค่อนข้างสูงเริ่มมีความเสี่ยง
160–189 mg/dLสูงเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
≥ 190 mg/dLสูงเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด


  หมายเหตุ:
ในผู้ที่มี ความเสี่ยงสูงมาก (เช่น เบาหวาน, โรคหัวใจ, สูบบุหรี่, มีประวัติครอบครัว) แพทย์อาจตั้งเป้าหมาย LDL

     แล้วถ้า LDL สูง (Low-Density Lipoprotein Cholesterol) เกินไปร่างกายจะได้รับผลกระทบอย่างไร  และเมื่อระดับ LDL ในเลือดสูง จะทำให้คอเลสเตอรอลส่วนเกิน สะสมบริเวณผนังหลอดเลือด เกิดเป็น คราบไขมัน (Plaque) และนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดตีบตัน (Atherosclerosis) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงหลายชนิด ดังนี้:

1. โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease)

  • หลอดเลือดหัวใจตีบหรือตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ
  • อาการ: แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก หายใจเหนื่อยง่าย
  • หากรุนแรงอาจเกิด กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Heart Attack) ซึ่งอันตรายถึงชีวิต

 2. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

  • ไขมันสะสมในหลอดเลือดสมองทำให้หลอดเลือดตีบหรือแตก
  • อาการ: ชาครึ่งซีก พูดไม่ชัด เดินเซ ตาบอดชั่วคราว
  • อาจทำให้ อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิตได้ทันที

3. โรคหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral Artery Disease – PAD)

  • หลอดเลือดที่ขาตีบ ทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงปลายขาไม่พอ
  • อาการ: ปวดขาเวลายืนหรือเดิน ขาเย็น เท้าซีด
  • ในรายรุนแรง อาจเกิดแผลเรื้อรัง หรือเนื้อตายจนต้องตัดอวัยวะ

4. ภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis)

  • เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดในหลอดเลือดทั่วร่างกาย
  • ส่งผลต่อ สมอง หัวใจ ไต ขา และระบบไหลเวียนเลือดโดยรวม

 5. เสี่ยงภาวะสมองเสื่อมในระยะยาว

  • เมื่อเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ สมองจะทำงานลดลง
  • มีผลต่อความจำ การตัดสินใจ และอาจนำไปสู่ ภาวะสมองเสื่อม (Dementia)

 6. ผลข้างเคียงต่ออวัยวะอื่น

  • ตับ: ไขมันสะสมในตับ (Fatty Liver) เสี่ยงตับอักเสบ
  • ตับอ่อน: ถ้าไตรกลีเซอไรด์ร่วมด้วยสูงมาก อาจเสี่ยง ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน

“LDL สูงไม่ได้แค่เพิ่มไขมันในเลือด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของโรคหัวใจ หลอดเลือด และอวัยวะสำคัญทั่วร่างกาย”แม้จะไม่มีอาการในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา จะเพิ่มโอกาสเกิดโรคเฉียบพลันที่อันตรายถึงชีวิต เช่น หัวใจวาย หรือเส้นเลือดในสมองแตก

เมื่อคนไข้รู้ตัวว่า มี LDL ที่สูงแล้ว จะมีวิธีลดอย่างไร?
      วิธีการลด LDL นั้นมีหลายวิธี มาลองดูว่าคนไข้จะสามารถใช้วิธีไหนได้บ้างที่เหมาะกับตัวเอง
วิธีการลด LDL (ไขมันเลว) อย่างปลอดภัยและยั่งยืน

1. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต (วิธีธรรมชาติ)

เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะในระยะเริ่มต้น หรือใช้ควบคู่กับการรักษาด้วยยา

1.1 ปรับอาหาร

·        ลดอาหารไขมันอิ่มตัว: เช่น เนื้อแดงติดมัน หนังไก่ ของทอด ครีม นมข้น

·        หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์: เช่น เบเกอรี่ มาการีน ขนมกรุบกรอบ

·        เพิ่มไฟเบอร์: เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ไม่หวานจัด ธัญพืชไม่ขัดสี (ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต)

·        เลือกไขมันดี: เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง

·        กินปลา 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก (แซลมอน, ทูน่า)

1.2 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

·        แนะนำ: วันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน

·        ประเภทที่ช่วยลด LDL และเพิ่ม HDL (ไขมันดี):

o   เดินเร็ว

o   ปั่นจักรยาน

o   ว่ายน้ำ

o   เต้นแอโรบิก

o   โยคะ + คาร์ดิโอ

1.3 ควบคุมน้ำหนัก

·        ลดน้ำหนัก 5–10% ของน้ำหนักตัว → ช่วยลด LDL ได้อย่างชัดเจน

·        ควบคุม รอบเอวไม่เกิน:

o   ชาย: < 90 ซม.

o   หญิง: < 80 ซม.

1.4 เลิกบุหรี่และลดแอลกอฮอล์

·        การสูบบุหรี่ทำให้ไขมันดี (HDL) ลดลง และหลอดเลือดเสียหาย

·        แอลกอฮอล์มากเกินไป เพิ่มไตรกลีเซอไรด์

2. การรักษาด้วยยา (ภายใต้คำแนะนำของแพทย์)  ใช้ในกรณีที่:

  • LDL สูงมาก
  • มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หัวใจ
  • ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยวิธีธรรมชาติ
กลุ่มยาตัวอย่างยาผลต่อ LDL
StatinsAtorvastatin, Simvastatin, Rosuvastatinลด LDL ได้ดีที่สุด
EzetimibeEzetimibeลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากอาหาร
PCSK9 InhibitorsEvolocumab, Alirocumabยาฉีดสำหรับผู้มีความเสี่ยงสูงมาก

3. ตรวจติดตามเป็นประจำ

  • ตรวจไขมันในเลือดทุก 3–6 เดือน (ในผู้ที่เริ่มรักษาหรือมีความเสี่ยง)
  • ปรับการรักษาตามคำแนะนำแพทย์

คำแนะนำจากแพทย์และเภสัชกร“ลดมัน ลดหวาน เดินทุกวัน งดบุหรี่ หาหมอเป็นประจำ”เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถควบคุมระดับ LDL ให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย และลดความเสี่ยงโรคร้ายแรงได้อย่างยั่งยืน


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– เว็บไซต์: https://ddc.moph.go.th เรื่องแนวทางเวชปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยไขมันในเลือดสูง
– เว็บไซต์: https://www.nhlbi.nih.gov/files/docs/guidelines/atp3xsum.pdf-กำหนดค่า LDL เป้าหมายตามความเสี่ยงโรคหัวใจ
– เว็บไซต์: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/cardiovascular-diseases-(cvds) เรื่องข้อมูลเรื่องโรคหัวใจและหลอดเลือด และบทบาทของไขมันในเลือดสูง
– เว็บไซต์: https://www.heart.org-แหล่งข้อมูลสุขภาพหัวใจอันดับต้นของโลก ให้คำแนะนำเรื่อง LDL อย่างครอบคลุม

เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี