“โรคกลัว ไม่ใช่เรื่องขี้กลัว แต่คืออาการทางจิตใจที่รักษาได้” หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้ การขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตคือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูที่ดีที่สุด ความกล้าไม่ใช่การไม่กลัว แต่คือการกล้าที่จะเผชิญกับความกลัวอย่างมีสติและรับมือกับมันได้อย่างเหมาะสม
โรคกลัว (Phobia) คืออะไร
โรคกลัว (Phobia) เป็นอาการทางจิตเวชประเภทหนึ่ง อยู่ในกลุ่มของ โรควิตกกังวล (Anxiety Disorders) โดยผู้ป่วยจะมีความกลัวอย่างรุนแรง และไม่สมเหตุสมผลต่อวัตถุ สถานการณ์ หรือกิจกรรมบางอย่าง แม้ว่าสิ่งนั้นจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายจริงๆ ก็ตาม
การวินิจฉัย
โดยทั่วไปแพทย์สามารถวินิจฉัยโรคกลัวได้จากการซักประวัติและพูดคุยกับผู้ป่วย ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ป่วยจะต้องเล่าอาการต่างๆ ให้แพทย์ฟังให้มากที่สุด และตอบคำถามที่แพทย์ถามเพิ่มเติมอย่างละเอียดและตรงไปตรงมาเพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคกลัวจะกลัวบางสิ่งบางอย่างอย่างรุนแรง ไม่สมเหตุสมผล โดยที่ผู้ป่วยรู้ตัวดีว่าไม่จำเป็นจะต้องกลัวขนาดนั้นแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อพบเจอสิ่งที่กลัวก็จะมีอาการดังกล่าวข้างต้นจนก่อให้เกิดความทุกข์ทรมาน รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจส่งผลให้คิดทำในสิ่งที่ไม่ดี เช่น พยายามฆ่าตัวตาย โดยอาการเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันมาอย่างน้อย 1 เดือน
โรคกลัวแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
- โรคกลัวเฉพาะอย่าง (specific phobia) เป็นชนิดของโรคกลัวที่พบได้บ่อย เช่น กลัวงู แมลงสาบ ผีเสื้อ ของมีคม กลัวเลือด กลัวความสูง ความมืด
- โรคอะโกราโฟเบีย (agoraphobia) เป็นกลุ่มอาการกลัว (cluster of phobias) สถานการณ์หลายๆ อย่างที่มีลักษณะร่วมกัน คือหลบออกไปจากตรงนั้นได้ยาก หรือความช่วยเหลือเข้ามาถึงได้ยาก เช่น กลัวที่ชุมชนที่มีคนเบียดเสียด กลัวที่แคบ ห้องไม่มีหน้าต่าง กลัวการนั่งรถตู้ด้านหลัง การเข้าเครื่อง MRI การขึ้นเครื่องบิน
- โรคกลัวกิจกรรมทางสังคม (social phobia) ผู้ป่วยจะกลัวเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าความสนใจของผู้อื่น เช่น การพูดหน้าชั้น การพูดผ่านไมโครโฟน หรือแม้แต่การขึ้นรถเมล์ประตูด้านหน้า
การรักษาและแนวทางการดูแล
- จิตบำบัด (Psychotherapy)
- CBT (Cognitive Behavioral Therapy): ช่วยปรับความคิดและพฤติกรรม
- Exposure Therapy: การเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อฝึกให้ร่างกายและสมองลดความตื่นกลัว
- การใช้ยา
- ในบางกรณีแพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านความวิตกกังวลหรือยากลุ่ม SSRI
- ในบางกรณีแพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านความวิตกกังวลหรือยากลุ่ม SSRI
- การฝึกผ่อนคลาย
- เช่น การหายใจลึกๆ สมาธิ โยคะ การฝึกสติ (Mindfulness)
หากท่านมีปัญหาสุขภาพ หรือต้องการปรึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์และการใช้ยาอย่างถูกวิธี สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่หน้าร้านขายยาจุฬาลักษณ์เภสัชทุกสาขา หรือใช้บริการให้คำปรึกษา ช่องทางออนไลน์ได้ทุกช่องทางของเรานะคะ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
- คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย : www.chulalakpharmacy.com