โรคเริมในกลุ่ม LGBTQ  เข้าใจอย่างถูกต้อง ป้องกันได้ ไม่ตีตรา

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) เพิ่มมากขึ้น โดยหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยแต่ถูกพูดถึงน้อยคือ “โรคเริม” (Herpes) ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนหรือรสนิยมทางเพศใด

โรคเริมคืออะไร?

โรคเริม (Herpes Simplex) เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes Simplex Virus (HSV) แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก:

  • HSV-1: มักก่อให้เกิดแผลรอบปาก หรือที่เรียกว่า “เริมที่ปาก”
  • HSV-2: มักก่อให้เกิดแผลบริเวณอวัยวะเพศ เรียกว่า “เริมที่อวัยวะเพศ”

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองสายพันธุ์สามารถติดกันได้ทั้งบริเวณปากและอวัยวะเพศจากการมีเพศสัมพันธ์ทั้งทางปาก ช่องคลอด หรือทวารหนัก

ทำไมกลุ่ม LGBTQ จึงถูกพูดถึงในบริบทโรคเริมบ่อย?

กลุ่ม LGBTQ ไม่ได้มีความเสี่ยงมากกว่าเพราะรสนิยมทางเพศ แต่ปัจจัยเสี่ยงเกิดจาก “พฤติกรรมทางเพศ” ที่อาจมีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น:

  • มีคู่นอนหลายคนหรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน (ไม่ใช้ถุงยาง)
  • การมีเพศสัมพันธ์ทางปากหรือทวารหนัก ซึ่งสามารถแพร่เชื้อ HSV ได้
  • การเข้าถึงข้อมูลหรือบริการสุขภาพที่ยังไม่เท่าเทียมในบางพื้นที่หรือบางกลุ่ม

อาการของโรคเริม

  • แผลพุพองหรือเป็นตุ่มน้ำใสบริเวณปาก อวัยวะเพศ หรือทวารหนัก
  • เจ็บ แสบร้อน หรือคันบริเวณแผล
  • บางคนไม่มีอาการเลย แต่สามารถแพร่เชื้อได้
  • อาจมีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หรือต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย โดยเฉพาะครั้งแรกที่ติดเชื้อ

เริมไม่หายขาด แต่ควบคุมได้

เชื้อเริมจะยังคงอยู่ในร่างกายตลอดชีวิต แต่อาการสามารถควบคุมได้ด้วย:

  • การทานยาต้านไวรัส (เช่น Acyclovir)
  • การรักษาเมื่อมีอาการ หรือทานยาต่อเนื่องเพื่อลดการกลับมาเป็นซ้ำ
  • การหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางเพศขณะมีแผล
  • การแจ้งคู่ของตนเพื่อช่วยป้องกันการแพร่เชื้อ

วิธีป้องกันการติดเชื้อเริม

  1. ใช้ถุงยางอนามัยหรือแผ่นยางทันตกรรม (Dental Dam) ทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
  2. งดมีเพศสัมพันธ์ขณะมีอาการเริม หรือมีแผลที่สงสัย
  3. หลีกเลี่ยงการจูบหรือออรัลเซ็กซ์ขณะมีแผลเริมที่ปาก
  4. ตรวจสุขภาพทางเพศอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหากมีคู่นอนใหม่
  5. เปิดใจพูดคุยกับคู่ เกี่ยวกับสถานะสุขภาพทางเพศของกันและกัน

LGBTQ และการดูแลสุขภาพทางเพศ

การส่งเสริมสุขภาพในกลุ่ม LGBTQ ไม่ใช่แค่เรื่องของการป้องกันโรคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการ

  • เข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและปลอดจากอคติ
  • เข้าถึงบริการตรวจและรักษาโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ
  • สนับสนุนให้เกิดความเข้าใจในเรื่องสิทธิของผู้ป่วย โดยไม่ตีตราว่าเป็น “กลุ่มเสี่ยง” เพียงเพราะรสนิยมทางเพศ

เริมไม่ใช่เรื่องน่าอาย และไม่ใช่โรคของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ความเข้าใจและการป้องกันอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ทุกคนมีชีวิตทางเพศที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ

หากท่านมีปัญหาสุขภาพ หรือต้องการปรึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์และการใช้ยาอย่างถูกวิธี สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่หน้าร้านขายยาจุฬาลักษณ์เภสัชทุกสาขา หรือใช้บริการให้คำปรึกษา ช่องทางออนไลน์ได้ทุกช่องทางของเรานะคะ


แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

  1. มูลนิธิการศึกษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIEF)

เรียบเรียงข้อมูลโดย : www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี