เป็นริดสีดวงแล้วหายขาดได้จริงหรือ? ไขข้อสงสัยที่พบบ่อย

เป็นริดสีดวงแล้วหายขาดได้จริงหรือ? ไขข้อสงสัยที่พบบ่อย

สำหรับผู้ที่เผชิญกับอาการ ริดสีดวงทวาร ไม่ว่าจะเป็นอาการปวด คัน หรือมีเลือดออก คำถามหนึ่งที่มักผุดขึ้นในใจคือ “ริดสีดวงทวารหายขาดได้จริงหรือ?” เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันบ่อยครั้ง เพราะหลายคนคาดหวังว่าจะ “หายขาด” และไม่ต้องกังวลกับมันอีกต่อไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว แนวคิดเรื่อง “หายขาด” ของริดสีดวงทวารนั้นมีรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจ วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยนี้ เพื่อให้คุณมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและสามารถดูแลตัวเองได้อย่างยั่งยืนครับ

ทำความเข้าใจ “หายขาด” ในบริบทของริดสีดวงทวาร

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อพูดถึง “หายขาด” ในทางการแพทย์ หมายถึงการที่โรคหายไปอย่างสมบูรณ์ และไม่มีโอกาสกลับมาเป็นอีก แต่สำหรับ ริดสีดวงทวาร แนวคิดนี้จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย:

  1. อาการหายไป: เมื่อคุณได้รับการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรม การใช้ยา การรักษาแบบไม่ผ่าตัด หรือการผ่าตัด อาการต่างๆ เช่น ปวด บวม คัน หรือเลือดออก จะ ทุเลาลงหรือหายไป สิ่งนี้ทำให้คุณรู้สึกสบายขึ้นและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  2. ก้อนริดสีดวงหายไป (จากการรักษา): หากได้รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การรัดยาง การฉีดยา หรือการผ่าตัด ก้อนริดสีดวงที่เป็นปัญหาจะ ฝ่อลง ยุบไป หรือถูกตัดออกไป ทำให้ไม่มีก้อนยื่นออกมาอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ริดสีดวงทวารเป็นภาวะที่เกิดจากการโป่งพองของหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนัก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างทางกายภาพในร่างกายของเรา [1] ตราบใดที่ยังคงมีปัจจัยกระตุ้น เช่น ท้องผูกเรื้อรัง การเบ่งถ่ายรุนแรง การนั่งนาน หรือน้ำหนักเกิน หลอดเลือดดำที่เหลืออยู่บริเวณนั้นก็ ยังมีโอกาสที่จะโป่งพองและกลับมาเป็นริดสีดวงได้อีก

ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า การรักษาริดสีดวงทวารคือการ “กำจัดปัญหาในปัจจุบัน” และ “ควบคุมปัจจัยเสี่ยงเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำในอนาคต” มากกว่าที่จะเป็นการ “หายขาด” แบบถาวรที่ไม่มีวันกลับมาเป็นอีกเลย

ทำอย่างไรให้ริดสีดวง “ไม่กลับมากวนใจอีก”?

แม้จะไม่มีคำว่า “หายขาด” แบบ 100% ในความหมายที่เข้าใจกัน แต่คุณสามารถทำให้ริดสีดวง “ไม่กลับมากวนใจอีก” ได้ด้วยการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง:

  1. จัดการกับอาการท้องผูกอย่างเด็ดขาด: นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดในการป้องกันริดสีดวงกลับมาเป็นซ้ำ [3]
    • เพิ่มใยอาหาร: กินผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และถั่วต่างๆ ให้เพียงพอ
    • ดื่มน้ำเยอะๆ: อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อให้อุจจาระนิ่ม

  2. สร้างนิสัยการขับถ่ายที่ดี:
    • ไม่เบ่งถ่ายแรงๆ: ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
    • ไม่นั่งนานในห้องน้ำ: ไม่ควรเกิน 5-10 นาที
    • ไปห้องน้ำทันทีเมื่อปวด: อย่าอั้นอุจจาระ

  3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และลดท้องผูก [4]

  4. รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ: น้ำหนักเกินเพิ่มแรงดันบริเวณทวารหนัก [5]

  5. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มแรงดัน: เช่น การยกของหนัก การไอหรือจามอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง

  6. รักษาสุขอนามัยที่ดี: ทำความสะอาดบริเวณทวารหนักอย่างอ่อนโยนหลังขับถ่าย

บทบาทของแพทย์และเภสัชกรในการช่วยให้คุณ “ห่างไกลริดสีดวง

  • แพทย์: จะช่วยวินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับระยะและความรุนแรงของริดสีดวงของคุณ เพื่อกำจัดปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้หมดไป
  • เภสัชกร: สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาบรรเทาอาการ การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมใยอาหารที่เหมาะสม รวมถึงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันท้องผูกและการกลับมาเป็นซ้ำ

สรุปคือ แม้ว่าริดสีดวงทวารอาจไม่ได้ “หายขาด” ในความหมายที่จะไม่กลับมาเป็นอีกเลย แต่คุณสามารถควบคุมและป้องกันไม่ให้มันกลับมากวนใจได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพลำไส้ของคุณอย่างต่อเนื่อง การตระหนักถึงความจริงนี้จะช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่การดูแลตัวเองอย่างถูกจุด และใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจโดยไม่มีริดสีดวงทวารเป็นอุปสรรคครับ


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

  1. Mayo Clinic. (2024, May 14). Hemorrhoids – Symptoms & causes. Retrieved from https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/hemorrhoids/symptoms-causes/syc-20360262
  2. National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases (NIDDK). (2024, February). Hemorrhoids. Retrieved from https://www.niddk.nih.gov/health-information/digestive-diseases/hemorrhoids
  3. Harvard Health Publishing. (2023, January 10). Hemorrhoids and what to do about them. Retrieved from https://www.health.harvard.edu/diseases-and-conditions/hemorrhoids-and-what-to-do-about-them
  4. American Society of Colon and Rectal Surgeons (ASCRS). (n.d.). Hemorrhoids. Retrieved from https://fascrs.org/patients/diseases-and-conditions/hemorrhoids
  5. Cleveland Clinic. (2023, September 29). Hemorrhoids. Retrieved from https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/15124-hemorrhoids

เรียงข้อมูลโดย  www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี