ประโยชน์ของโสม Ginseng บำรุงร่างกาย เพิ่มพลังงาน

โสม (Ginseng) สุดยอดสมุนไพรจากตำนานตะวันออก ที่ได้รับการยกย่องมานับพันปีในฐานะ “ราชาแห่งสมุนไพร” ด้วยคุณสมบัติอันน่าทึ่งในการบำรุงร่างกาย เพิ่มพลังงาน และฟื้นฟูสมดุลต่างๆ ภายใน แต่โสมมีดีอย่างไรกันแน่ และเหมาะกับวัยไหนบ้าง? มาเจาะลึกสรรพคุณอันหลากหลายของโสมกัน

โสมคืออะไร?

โสมเป็นพืชรากใต้ดินที่อยู่ในสกุล Panax ซึ่งมาจากภาษากรีก “Pan” ที่แปลว่า ทั้งหมด และ “Axos” ที่แปลว่า รักษา หรือก็คือ “รักษาได้สารพัดโรค” นั่นเอง โสมมีหลายชนิด แต่ที่ได้รับความนิยมและมีการศึกษามากที่สุดคือ:

  • โสมเอเชีย (Panax ginseng) หรือโสมเกาหลี/โสมจีน: เป็นที่รู้จักกันดีในด้านการบำรุงกำลังและปรับสมดุลร่างกาย
  • โสมอเมริกัน (Panax quinquefolius): มักถูกมองว่ามีฤทธิ์เย็นกว่าโสมเอเชีย ช่วยลดความเครียดและปรับปรุงการทำงานของสมอง
  • โสมไซบีเรีย (Eleuthero หรือ Siberian Ginseng): แม้จะใช้ชื่อโสม แต่ไม่ได้อยู่ในสกุล Panax และมีสารออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน แต่ก็มีคุณสมบัติในการปรับตัว (adaptogen) คล้ายคลึงกัน

สารสำคัญที่ทำให้โสมมีสรรพคุณโดดเด่นคือ จินเซนโนไซด์ (Ginsenosides) ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่พบในรากโสม

ประโยชน์ของโสมต่อสุขภาพ: มากกว่าแค่เพิ่มพลัง!

โสมได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางถึงคุณประโยชน์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะในด้านการเป็น อะแดปโตเจน (Adaptogen) ซึ่งหมายถึงสารที่ช่วยให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับความเครียดได้ดีขึ้น ทั้งความเครียดทางกายภาพ จิตใจ และสิ่งแวดล้อม ประโยชน์หลักๆ ของโสม ได้แก่:

  1. เพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้า: โสมช่วยเพิ่มการผลิตพลังงานในระดับเซลล์ ลดความอ่อนเพลียเรื้อรัง และเพิ่มความทนทานของร่างกายในการทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและมีเรี่ยวแรงมากขึ้น
  2. บำรุงสมองและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท: โสมมีส่วนช่วยในการปรับปรุงความจำ สมาธิ และความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยลดอาการสมองล้า ทำให้คุณคิดและตัดสินใจได้ดีขึ้น
  3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: โสมช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น ลดโอกาสการเจ็บป่วย
  4. ปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด: มีการศึกษาพบว่าโสมอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร และปรับปรุงการทำงานของอินซูลิน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2 (ควรปรึกษาแพทย์)
  5. ดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด: โสมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต ช่วยเสริมการไหลเวียนโลหิต ทำให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น
  6. ลดความเครียดและปรับปรุงอารมณ์: ในฐานะอะแดปโตเจน โสมช่วยให้ร่างกายรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น ลดความรู้สึกวิตกกังวล และอาจช่วยปรับปรุงอารมณ์ให้คงที่
  7. เสริมสมรรถภาพทางเพศ: ในบางการศึกษาพบว่าโสมอาจช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

โสมเหมาะกับวัยไหน?

โสมมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายช่วงวัย แต่กลุ่มที่มักได้รับประโยชน์สูงสุดและควรพิจารณาเป็นพิเศษ ได้แก่:

  • วัยทำงาน: ผู้ที่ต้องเผชิญกับความเครียดจากการทำงาน อ่อนเพลีย พักผ่อนน้อย หรือต้องการเพิ่มสมาธิและความจำในการทำงาน
  • ผู้สูงอายุ: ผู้ที่ต้องการบำรุงร่างกาย ลดความเสื่อมตามวัย เพิ่มพลังงาน ฟื้นฟูสมอง และเสริมภูมิคุ้มกัน
  • นักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายหนัก: เพื่อเพิ่มความทนทานของร่างกาย ลดความเหนื่อยล้า และช่วยในการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ
  • ผู้ป่วยพักฟื้น: โสมช่วยฟื้นฟูกำลังวังชาและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในระหว่างการฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วย

ข้อควรระวังในการใช้โสม

แม้โสมจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังที่สำคัญ:

  1. ปฏิกิริยากับยา: โสมอาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด (Warfarin), ยาเบาหวาน, ยาลดความดันโลหิต, ยาต้านซึมเศร้า หรือยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน ห้ามใช้โสมร่วมกับยาเหล่านี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์
  2. ผลข้างเคียง: แม้จะพบน้อย แต่บางรายอาจมีอาการนอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ท้องเสีย หรือความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเมื่อใช้ในปริมาณสูง
  3. สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร: ไม่แนะนำให้ใช้โสมในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่เพียงพอ
  4. ผู้ป่วยบางโรค: ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกง่าย โรคภูมิแพ้ตัวเอง (Autoimmune diseases) หรือผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โสม
  5. ปรึกษาแพทย์: สิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มรับประทานโสมหรือผลิตภัณฑ์เสริมโสม โดยเฉพาะหากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยาอื่นๆ

สรุป

โสมเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่ามหาศาลในการบำรุงสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งการเพิ่มพลังงาน บำรุงสมอง เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยใด การพิจารณาโสมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเสมอ


แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

  • https://www.govinfo.gov/content/pkg/GOVPUB-HE20-PURL-LPS112613/pdf/GOVPUB-HE20-PURL-LPS112613.pdf (สำหรับผู้เชี่ยวชาญ)
  • National Institutes of Health (NIH), Office of Dietary Supplements (ODS) – สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา, สำนักงานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • https://my.clevelandclinic.org/health/drugs/19105-ginseng-capsules-or-tablets
  • https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-1000/panax-ginseng
  • https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-967/american-ginseng
  • Ginseng: Health benefits, facts, and research

เรียบเรียงข้อมูลโดย : www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี