รักษาหูดหงอนไก่: ทาอย่างไรให้หายไวและไม่ผิวไหม้

ยา Imiquimod 5% เป็นยากระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิดครีม ใช้สำหรับรักษาหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก ยานี้จะไม่ได้กัดหูดให้หลุดทันทีเหมือนยาจี้ แต่จะไปกระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้มาจัดการกินเชื้อไวรัส HPV จนหูดค่อยๆ ยุบลงและหายไปเอง ซึ่งวิธีนี้ช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำได้ดีที่สุด

ตารางการทายา (สูตร 3 วัน/สัปดาห์) ให้เลือกวันทาเป็นวันเว้นวัน หรือวันเว้น 2 วัน เช่น:

• สูตร A: จันทร์ – พุธ – ศุกร์ (หยุด เสาร์-อาทิตย์)
• สูตร B: อังคาร – พฤหัส – เสาร์ (หยุด อาทิตย์-จันทร์) (ทาก่อนนอนเท่านั้น)

กรณีที่เป็นเยอะ อาจมีการทาทุกว้นเป็นเวลา 3 วัน (แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัช)

5 ขั้นตอนการทายาอย่างถูกวิธี (Step-by-Step)

1. ล้างและซับ: อาบน้ำทำความสะอาดบริเวณที่เป็นหูดและซับให้ “แห้งสนิท” (ความชื้นอาจทำให้ยาซึมมากเกินไปจนแสบ)
2. บีบยานิดเดียว: บีบครีมออกมาปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว หรือพอเคลือบบางๆ (ห้ามทาหนาเตอะ เพราะจะทำให้ผิวไหม้)
3. ทาบางๆ นวดจนซึม: ทาครีมลงบนเม็ดหูดและบริเวณรอบๆ ฐานหูดเล็กน้อย นวดวนเบาๆ จนเนื้อครีมหายไปกับผิว ระวังอย่าให้โดนผิวดีบริเวณอื่นมากเกินไป
4. ทิ้งไว้ข้ามคืน: ปล่อยทิ้งไว้ 6-10 ชั่วโมง (แนะนำให้ทาก่อนนอน) ห้ามปิดพลาสเตอร์ทับแผลเด็ดขาด ให้ใส่กางเกงชั้นในผ้าฝ้ายโปร่งๆ
5. ล้างออกตอนเช้า: ตื่นเช้ามา ต้องล้างครีมออก ด้วยน้ำสะอาดและสบู่เหลวอ่อนๆ เสมอ (ห้ามทาทิ้งไว้ข้ามวัน)
   
   

อาการปกติที่ต้องเจอ (ไม่ต้องตกใจ) เนื่องจากยากำลังเรียกภูมิคุ้มกันมาทำงาน บริเวณที่ทาอาจเกิดอาการเหล่านี้ ซึ่งถือว่า “ยาออกฤทธิ์ดี”:

• แดงระเรื่อ
• บวมเล็กน้อย
• คันยิบๆ หรือแสบพอทนได้
• อาจมีสะเก็ด หรือผิวลอก

ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติม

1. เพศสัมพันธ์: งดมีเพศสัมพันธ์ขณะที่มียาอยู่บนผิวหนัง และควรทราบว่ายานี้อาจทำให้ถุงยางอนามัยเปื่อยขาดง่าย
2. ถ้าแสบมาก: หากทาแล้วเกิดแผลเปื่อย แสบร้อนจนทนไม่ไหว ให้ “หยุดยา” ทันที 2-3 วัน รอให้แผลหายดีก่อนค่อยกลับมาทาใหม่ (ไม่ต้องฝืนทาซ้ำบนแผลสด)
3. การเก็บรักษา: 1 ซอง หากใช้ไม่หมด ให้พับปากซองให้สนิท ติดสก็อตเทป หรือใส่ถุงซิปล็อค แช่ตู้เย็นช่องธรรมดา สามารถเก็บไว้ใช้ต่อได้ประมาณ 1 สัปดาห์ (ประหยัดกว่าทิ้งเลย)
4. ระยะเวลา: ต้องใช้ความอดทน ปกติจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในสัปดาห์ที่ 4-6 และอาจต้องใช้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 16 สัปดาห์

“ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงความรู้เบื้องต้น ไม่สามารถใช้ทดแทนการปรึกษาและวินิจฉัยจากแพทย์หรือเภสัชได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเมื่อใช้ยา หรือมีปัญหาสุขภาพ”

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

1. 3M Pharmaceuticals. (2002). Aldara (imiquimod) Cream, 5% Product Information.
2. Edwards, L. (2000). Imiquimod in clinical practice. Journal of the American Academy of Dermatology.

เรียบเรียงโดย (Compiled by)  : www.chulalakpharmacy.com