อย่าสับสน… ยาฆ่าเชื้อ ไม่ใช่ ยาแก้อักเสบ นะจ๊ะ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักเรียกยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อว่าเป็นยาแก้อักเสบ ซึ่งเป็นการเรียกที่ไม่ถูกต้อง เพราะ “ยาปฏิชีวนะ” ไม่ใช่ “ยาแก้อักเสบ” ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าการใช้ยานี้จะทำให้โรคที่เป็นอยู่หายเร็วขึ้น เพราะยาจะไปรักษาหรือแก้การอักเสบได้
ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส และไม่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ แก้ปวด ลดไข้ ใช้รักษาเฉพาะโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น เช่น ทอนซิลอักเสบเป็นหนอง
ยาแก้อักเสบ หรือ ยาต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory drugs)
เป็นยาที่ออกฤทธิ์ลดการอักเสบ ลดไข้ บรรเทาปวด ลดบวมแดง เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ลักษณะการอักเสบมี 2 แบบ คือ
- อักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
- อักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
การอักเสบส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่การอักเสบเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น โรคภูมิแพ้ คออักเสบจากเชื้อไวรัส ผิวหนังอักเสบจากการแพ้แดดหรือสารเคมี กล้ามเนื้ออักเสบจากการยกของหนัก
สรุปง่ายๆก็คือ
- ไม่เรียกยาปฏิชีวนะว่ายาแก้อักเสบ
- ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะในโรคติดเชื้อไวรัส
- ใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น
สุดท้ายนี้จะแยกให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างยาปฏิชีวนะกับยาแก้อักเสบค่ะ
ยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อ)
- เป็นยาฆ่าเชื้อแบททีเรีย
- -ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้
- -ไม่มีฤทธิ์แก้อักเสบ แก้ปวดได้
ยาแก้อักเสบ
- มีฤทธิ์แก้ปวด ลดการอักเสบ ลดไข้
- ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรียได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– thainakorn.com
– โรงพยาบาลเปาโล
– vibhavadi.com
– สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข(สวรส.)
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM