ยาแก้แพ้ถือว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านที่หลาย ๆ คนก็เคยใช้บรรเทาอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น แพ้อากาศหรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย ทำให้มีอาการน้ำมูกและน้ำตาไหลไม่หยุด เยื่อตาอักเสบ หรืออาการผื่นคันตามผิวหนัง แต่การกินยาแก้แพ้บ่อย ๆ จะส่งผลต่อสมองและอาจทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมได้หากเราบริโภคบ่อยๆ
ผลข้างเคียงของยาที่เกิดขึ้นนั้น อาจไม่เห็นผลในทันที เพราะสารต้านฮิสตามีน (antihistamine) ในยาแก้แพ้บางชนิด จะเข้าไปกดสารสื่อประสาท ชื่อ แอซิติลโคลีน (acetylcholine) ในสมอง จากงานวิจัยเราพบว่าหากบริโภคยาตัวนี้บ่อยๆ เป็นเวลานาน สารสื่อประสาทในสมองของเราจะถูกบั่นทอนประสิทธิภาพลงไปเรื่อยๆ อาจทำให้ระบบของสมองที่การทำงานด้านการจำเสื่อมถอย อาจทำให้มีอาการความจำสั้น เสื่อม มีอาการว้าวุ่น ย้ำคิดย้ำทำ
ดังนั้นการทานยาแก้แพ้ หรือยาสามัญประจำบ้านประเภทอื่นๆ ควรปรึกษาเภสัชกร หรือ ระบุวิธีการทานให้ชัดเจน เพื่อประสิทธิภาพในการใช้ยา และไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย การซื้อยาทานเองอาจจะง่าย และสะดวกสำหรับชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน การพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างถูกวิธีนั้นย่อมปลอดภัยและรักษาตรงจุดกว่าวิธีอื่นแน่นอน
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– กรมสุขภาพจิต : 6 โอสถลดความจำ กินประจำอาจกลายเป็นโรคสมองเสื่อม
– โรงพยาบาลเปาโล
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM