บาร์โธลินอักเสบ เป็นฝีที่อวัยวะเพศ ความผิดปกติที่สาวๆ ไม่ควรมองข้าม

บาร์โธลินคือต่อมในอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิงที่มีหน้าที่ผลิตเมือกหรือสารหล่อลื่น ออกมาเมื่อมีการกระตุ้นให้เกิดอารมทางเพศ โดยต่อมจะมีลักษณะคล้ายกับเม็ดถั่วมีอยู่ด้วยกันสองข้างในแคมใหญ่ ซึ่งข้างในต่อมจะมีท่อยาวประมาณ 2 เซนติเมตรยื่นเข้ามาในช่องคลอดของเพศหญิงเพื่อคอยส่งเมือกเข้าไปหล่อลื่นในช่องคลอดนั่นเอง และหากต่อมนี้มีการอักเสบเป็นฝีเกิดขึ้น สาวๆ ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจส่งผลร้ายแรงต่ออวัยวะเพศและอาจลุกลามติดเชื้อใหญ่โตได้ บาร์โธลินอักเสบ ได้ยังไงจะมีวิธีรักษาด้วยวิธีไหน ในบทความนี้เรามีคำตอบให้

บาร์โธลินอักเสบ คืออะไร

บาร์โธลินเป็นต่อมที่เพศหญิงทุกคนจะต้องมี โดยต่อมนี้จะทำหน้าที่ผลิตเมือกหรือสารหล่อลื่นส่งไปยังช่องคลอดเพื่อป้องกันเนื้อเยื่อช่องคลอดในเวลามีเพศสัมพันธ์ ต่อมบาร์โธลินอักเสบ คือการที่ต่อมบาร์โธลินบวมจนกลายเป็นถุงน้ำออกมาบริเวณปากช่องคลอด เนื่องจากเมือกไม่สามารถส่งผ่านออกมาได้ ส่งผลทำให้เกิดการบวม อักเสบ เป็นเม็ดฝี และแตกในที่สุด และอาจลุกลามใหญ่โตกลายเป็นการติดเชื้อที่รุนแรงได้ บาร์โธลินอักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้ 3 กรณีคือ เกิดจากต่อมบาร์โธลินอุดตัน ซึ่งจะพบมากในช่วงวัยเจริญพันธุ์ เกิดจากการติดจากการติดเชื้อ และเกิดขึ้นจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง หรือปล่อยไว้ อาจจะเป็นอันตรายต่อระบบสืบพันธุ์ได้นั่นเอง

อาการต่อมบาร์โธลินอักเสบ

โดยภาวะปกติแล้วเราไม่สามารถคลำหาต่อมบาร์โธลินเจอ แต่หากมีการอักเสบเกิดขึ้น สาวๆ จะสามารถคลำเจอก้อนในบริเวณปากช่องคลอดได้ ซึ่งก้อนนี้เองสร้างความเจ็บปวดให้กับสาวๆ ได้ไม่น้อย หากมีอาการ บาร์ธโธลินอักเสบ ก็จะมีอาการแสดงออกดังนี้

  • คลำเจอก้อนขนาดใหญ่ขึ้นบริเวณปากช่องคลอดแคมใหญ่ และมีอาการเจ็บหน่วงๆ จะนั่งหรือเดินทีก็ไม่สะดวก และจะเจ็บมากหากใส่กางเกงรัดรูปเกินไป
  • ต่อมบาร์โธลินบวม จนเป็นก้อน และมีอาการปวดอย่างรุนแรงมากขึ้น
  • ต่อมบาร์โธลินอักเสบ อาจจะทำให้ฝีแตก และมีหนองออกมา ซึ่งในกรณีนี้เสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อมากขึ้น
  • หากมีอาการรุนแรง หรือถุงน้ำบวมแดง หรือรู้สึกปวดอย่างรุนแรงมีอาการไข้หนาวสั่นร่วมด้วยควรรีบมาพบแพทย์ด่วนเพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง

วิธีการรักษา

สำหรับสาวๆ หากคลำเจอต่อม บาร์โธลินอักเสบ เป็นก้อนบริเวณปากมดลูก หากเป็นก้อนขนาดเล็กไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ สามารถรักษาด้วยตัวเองด้วยการนำน้ำอุ่นมานั่งแช่วันละ 2 – 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 15 – 20 นาที ทำเป็นประจำ 2 – 3 วันก็จะหายเพราะความร้อนจะทำให้ก้อนยุบลงไปได้

หากคลำเจอเป็นก้อนขนาดใหญ่และมีอาการบวม อักเสบร่วมด้วย หรือลองแช่น้ำอุ่นแล้วก็ไม่หาย ให้รีบมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง โดยแพทย์จะทำการวินิจฉัยว่าเป็นฝีก้อนใหญ่หรือก้อนเล็ก มีหนองหรือไม่ และเสี่ยงที่จะอักเสบติดเชื้อมากน้อยแค่ไหน หากก้อนมีขนาดใหญ่จนเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์อาจจะรักษาด้วยการกรีดถึงน้ำ และทำการเย็บผนังถุงน้ำติดกับผิวหนังอีกครั้งหนึ่งเพื่อช่วยเปิดปากแผล เพื่อให้เมือกที่คั่งค้างอยู่ข้างในได้ไหลออกมา ส่งผลทำให้ก้อนยุบตัวลง อย่างไรก็ตามหากยังมีอาการต่อมบาโรลินอักเสบซ้ำอีก แพทย์จะทำการรักษาผ่าตัดขูดหัวหนองหรือถุงน้ำในต่อมบาร์โธลิน เพื่อลดโอกาสการเกิด บาร์โธลินอักเสบ ซ้ำอีก

แนวทางการป้องกัน

อย่างที่สาวๆ ทราบกันดีกว่า ต่อมบาร์โธลินอักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้กับสาวๆ ทุกคนโดยเฉพาะสาวๆ ที่อยู่ในช่วงเจริญพันธุ์ หากต่อมบาร์โธลินอุดตันหรือเกิดการติดเชื้อก็เสี่ยงที่จะเกิด บาร์โธลินอักเสบ ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สาวๆ ทำได้ก็คือการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดโรคดังกล่าวเกิดขึ้น โดยแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดบาร์โธลินอักเสบนั้น สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ดังนี้

  • หมั่นรักษาสุขอนามัยบริเวณช่องคลอดให้ดี
  • หลีกเลี่ยงการนั่งอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ หมั่นเดินหรือขยับร่างกาย เพื่อให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้อย่างเต็มที่
  • ไม่สวมกางเกงที่รัดตึงเกินไป หรือใส่เสื้อผ้าที่อึดอัด อากาศไม่สามารถที่จะถ่ายเทได้อย่างสะดวก เพราะจะทำให้เกิดการหมักหมม และการติดเชื้อเกิดขึ้น
  • เมื่อมีประจำเดือนควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ 1 – 2 ชั่วโมงเพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยชิ้นเดิมเป็นเวลานานๆ
  • หากป่วยเป็น บาร์โธลินอักเสบ ไม่ควรสวมใส่กางเกงเปียกชื้นเป็นเวลานานๆ เพราะเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อเกิดขึ้น
  • ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ควรป้องกันทุกครั้ง โดยการสวมถุงยางอนามัย เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศได้แล้ว ยังสามารถป้องกันการเกิด บาร์โธเลียอักเสบ ได้อีกด้วย

บาร์โธลินอักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะสาวๆ ที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ ถึงแม้ว่าสาวๆ หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับอาการของโรคดังกล่าว แต่ก็ควรป้องกันเอาไว และหากมีอาการบาร์โธลินเกิดการอักเสบ หากไม่รุนแรงก็สามารถดูและตัวเองด้วยวิธีที่เราได้แนะนำมาข้างต้น แต่หากรุนแรงควรเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง เพราะจะทำให้ปลอดภัยมากขึ้นนั่นเอง


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
– kapook
– คนท้อง.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี