ทำความรู้จัก Bioflavonoid (ไบโอฟลาโวนอยด์ -วิตามิน P)คืออะไร

หลายๆคนที่ชอบทานวิตามินซี ถ้าสังเกตและใส่ใจในส่วนประกอบของมัน ส่วนใหญ่ก็จะเห็นมีเจ้า Bioflavonoids (ไบโอฟลาโวนอยด์ ) อยู่ด้วยเกือบทุกแบรนด์เลยก็ว่าได้ค่ะใช่มั้ยล่ะคะ เรามาทำความรู้จักกับวิตามินตัวนี้ให้ลึกซึ้งกันเลยค่ะ

ไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) นั้นมาจากตัวอักษร P ของคำว่า Permeability ที่แปลว่าการซึมผ่าน หรือจะเรียกอีกชื่อก็คือ วิตามินพี นั่นเองค่ะ โดยเราอาจจะเรียกมันว่า ตัวควบคุมการซึมผ่านของเส้นเลือดฝอย หรือเราอาจได้ยินวิตามินพีกันในชื่ออื่นๆ เช่น เฮสเพอริดิน ซีคอมเพล็กซ์ ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์  หรือ  รูติน วิตามินพีเป็นวิตามินชนิดที่ละลายในน้ำ วิตามินพีจะประกอบไปด้วย เฮสเพอริดิน ซิตริน รูติน ฟลาโวนอลและฟลาโวน เราอาจจะเคยได้ยินคำว่า ฟลาโวนอยด์ ซึ่งคือวิตามินพีประเภทหนึ่งซึ่งเป็นสารสีเหลืองและสีส้มที่พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ผลไม้ในกลุ่มส้ม เป็นต้น วิตามินพีเป็นสารอาหารสำคัญที่ทำงานเสริมกับวิตามินซี เป็นตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพวิตามินซีอีกด้วยค่ะ 

ประโยชน์ของวิตามินพี– ไบโอฟลาโวนอยด์ 
วิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์ เป็นวิตามินสำคัญที่จำเป็นต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมวิตามินซี และยังช่วยวิตามินซีในการสร้างความแข็งแรงให้กับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินซี และป้องกันวิตามินซีจากการถูกทำลายโดยปฏิกิริยาออกซิเดชันชะลอวัย บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสจากคุณสมบัติการเสริมประสิทธิภาพวิตามินซีคุณสมบัติสำคัญของไบโอฟลาโวนอยด์คือการบำรุงความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือด เส้นเลือดฝอย ป้องกันการเกิดรอยแผลฟกช้ำ 

ประโยชน์ของวิตามินพี (Bioflavonoids) 

  • ช่วยเสริมภูมิต้านทาน ป้องกันโรคติดเชื้อได้
  • ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
  • เพิ่มความแข็งแรงให้ผนังเส้นเลือดฝอย จึงป้องกันการเกิดรอยฟกช้ำ
  • ป้องกันไม่ให้วิตามินซีถูกทำลายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น 
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซีให้ดีขึ้น 
  • ช่วยรักษาอาการบวมน้ำและวิงเวียนศีรษะที่เป็นผลมาจากโรคของหูชั้นใน

วิตามินพียังช่วยควบคุมการดูดซึมสารอาหารต่างๆผ่านผนังหลอดเลือดให้ทำงานได้เป็นปกติ  

  • รักษาและป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
  • แก้บรรเทาอาการปวดหัว วิงเวียนที่มีสาเหตุมาจากโรคในส่วนของหูชั้นใน
  • ลดอาการบวมน้ำในร่างกาย
  • โรคและอาการขาดวิตามินพี
  • เส้นเลือดฝอยเปราะขาดง่าย เลือดกำเดาไหลง่าย
  • ปัญหาเลือดออกตามไรฟัน
  • ผิวพรรณไม่สดใส
  • สุขภาพอ่อนแอ เป็นหวัดง่าย

แหล่งอาหารที่มีวิตามินพี (Bioflavonoids) สูง
เราสามารถทานวิตามินพีได้จากผลไม้เป็นส่วนมาก และที่จำง่ายๆ คือเจ้าวิตามินพี (Bioflavonoids) มีอยู่ในผลไม้ประเภทเดียวกับวิตามินซีอีกด้วย อาหารที่มีวิตามินพี คือ มะนาว ส้ม ส้มโอ ลูกพลับ ฝรั่ง องุ่น มะขามป้อม แอพริคอท พริกหวาน มะเขือเทศ มะละกอ บรอคเคอลี่ แคนตาลูป ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ รวมถึงผักผลไม้ที่มีรสชาติฝาดเปรี้ยวอีกด้วย

แหล่งอาหารธรรมชาติที่พบวิตามินพี– ไบโอฟลาโวนอยด์ 
ในผลไม้รสเปรี้ยวจะพบวิตามินพีได้มาก และแหล่งอื่นๆเช่น ในส่วนกากใยสีขาวของผลไม้ประเภท มะนาว ส้ม แอพริคอต เชอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ เกรปฟรุ้ต โรสฮิป แป้งบัควีท เป็นต้น

ประเภทอาหารเสริมวิตามินพี– ไบโอฟลาโวนอยด์ 
วิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบแยกเดี่ยว และแบบสูตรรวมผสมกับวิตามินซี ซึ่งจะเรียกว่า ซีคอมเพล็กซ์ ปริมาณที่นิยมรับประทานกันคือ เฮสเพอริดินและรูตินปริมาณอย่างละ 100 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 3 มื้อ และในส่วนของไบโอฟลาโวนอยด์มักระบประทานในปริมาณ 500 มิลลิกรัมต่อการรับประทานเฮสเพอริดินและรูตินปริมาณ 50 มิลลิกรัม

ใครควรรับประทานวิตามินพีเสริมบ้าง

  • ผู้หญิงวัยที่หมดประจำเดือนหรือวัยทอง การรับประทานวิตามินพี-ไบโอฟลาโวนอยด์กับวิตามินดีเสริมจะช่วยลดอาการวัยทองต่างๆ โดยเฉพาะอาการร้อนวูบวาบให้น้อยลงได้
  • ผู้ที่มีเลือดออกตามไรฟัน หรือมีเลือดซึมไหลออกจากเหงือกในขณะแปรงฟันบ่อยๆ ควรรับประทานเสริม
  • ผู้ที่เกิดรอยฟกช้ำง่าย ควรรับประทานวิตามินพี – ไบโอฟลาโวนอยด์ ที่มีส่วนประกอบของรูตินและเฮสเพอริดิน ร่วมกับวิตามินซี จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือด ลดปัญหาอาการฟกช้ำดำเขียวให้น้อยลงได้

    สรุปคือ ในอาหารเสริมวิตามินซีทุกรูปแบบ จะสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นหากมีส่วนผสมของวิตามินพีหรือไบโอฟลาโวนอยด์


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– 4life-network.com
– 365wecare.com
– medthai.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี