สามารถกิน Finasteride ร่วมกับ Minoxidil ได้หรือไม่ 

เราสามารถกิน Finasteride ร่วมกับ Minoxidil ได้หรือไม่ ขอข้อมูลเชิงลึก 

การใช้ยา Finasteride ร่วมกับยา Minoxidil ถือเป็น มาตรฐานการรักษา (Gold Standard) สำหรับภาวะผมร่วงจากกรรมพันธุ์ในผู้ชายที่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากยาทั้งสองชนิดมีกลไกการออกฤทธิ์ที่เสริมและเติมเต็มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ [1]

หลักการและเหตุผลเชิงลึกในการใช้ยาร่วมกัน

การรักษาด้วยยาเพียงชนิดเดียวอาจไม่ครอบคลุมสาเหตุและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการร่วงของเส้นผมทั้งหมด แต่การใช้ยาทั้งสองชนิดจะส่งผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบกว่า ดังนี้

  1. Finasteride (ฟิแนสเทอไรด์): แก้ที่ “ต้นตอ” ของปัญหา
    • กลไก: ยา Finasteride ออกฤทธิ์โดยการยับยั้งเอนไซม์ 5-alpha reductase [2] ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการเปลี่ยนฮอร์โมน Testosterone ไปเป็น DHT (Dihydrotestosterone) [3]
    • ผลลัพธ์: เมื่อระดับ DHT ในหนังศีรษะลดลง รูขุมขนที่กำลังจะฝ่อไปก็จะได้รับการปกป้อง ทำให้ผมที่อ่อนแอหลุดร่วงน้อยลงและมีโอกาสกลับมาแข็งแรงขึ้น
    • สรุป: Finasteride แก้ไข สาเหตุภายใน ที่เกิดจากฮอร์โมนโดยตรง

  2. Minoxidil (ไมนอกซิดิล): เสริมสร้าง “สภาพแวดล้อม” ของเส้นผม
    • กลไก: Minoxidil ออกฤทธิ์ภายนอกโดยการเป็น Vasodilator หรือสารที่ช่วยขยายหลอดเลือด [4] เมื่อทาลงบนหนังศีรษะ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและนำสารอาหารที่จำเป็นไปเลี้ยงรากผมได้มากขึ้น
    • ผลลัพธ์: กระตุ้นให้รูขุมขนที่ฝ่อไปแล้วบางส่วนกลับมาทำงาน และช่วยยืดระยะการเจริญเติบโต (Anagen Phase) ของเส้นผมให้ยาวนานขึ้น
    • สรุป: Minoxidil ช่วยปรับปรุง สภาพแวดล้อมภายนอก ให้เอื้อต่อการงอกของเส้นผม

ผลลัพธ์ที่เสริมฤทธิ์กัน (Synergistic Effect)

  • ป้องกันการร่วง + กระตุ้นการงอก: Finasteride ทำหน้าที่เป็นตัวหยุดยั้งการร่วงของผมที่เกิดจากฮอร์โมน DHT ขณะที่ Minoxidil ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้ผมที่เคยอ่อนแอหรือหลุดร่วงไปแล้วงอกกลับมาใหม่
  • ครอบคลุมปัญหา: การรักษาด้วยยาร่วมกันจึงเป็นการแก้ปัญหาแบบองค์รวม ทั้งจากภายใน (สาเหตุทางฮอร์โมน) และจากภายนอก (การกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม)
  • ประสิทธิภาพสูงกว่า: งานวิจัยทางคลินิกหลายฉบับยืนยันว่าการใช้ Finasteride และ Minoxidil ร่วมกันให้ผลลัพธ์ในการเพิ่มความหนาแน่นของเส้นผมและลดการร่วงได้อย่างมีนัยสำคัญ ดีกว่า การใช้ยาชนิดใดชนิดหนึ่งเพียงอย่างเดียว [1]



ข้อควรพิจารณาและข้อควรระวัง

  • ปรึกษาแพทย์: การเริ่มต้นการรักษาด้วยยาทั้งสองชนิดนี้ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลและคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังเท่านั้น เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงของผมร่วง และกำหนดขนาดยาที่เหมาะสม
  • ความสม่ำเสมอและความอดทน: การรักษาด้วยวิธีนี้ต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการใช้ยาเป็นประจำทุกวันเป็นระยะเวลานาน (อย่างน้อย 6-12 เดือน) จึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • ผลข้างเคียง: แม้จะปลอดภัย แต่ยังคงมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ผลข้างเคียงทางเพศจาก Finasteride หรืออาการคัน ระคายเคืองที่หนังศีรษะจาก Minoxidil ซึ่งแพทย์จะคอยติดตามและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
  • สำหรับผู้หญิง: การใช้ยา Finasteride ห้ามใช้ในผู้หญิงโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ ส่วนยา Minoxidil สามารถใช้ได้ในผู้หญิงที่มีภาวะผมร่วง

การใช้ยาร่วมกันจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ แต่ผู้ใช้ควรตระหนักถึงข้อจำกัดและความจำเป็นในการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุดค่ะ

“ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงความรู้เบื้องต้น ไม่สามารถใช้ทดแทนการปรึกษาและวินิจฉัยจากแพทย์หรือเภสัชได้”


ข้อมูลอ้างอิง

  1. Medical News Today. (2023, November 13). Finasteride and minoxidil: How to use them for hair loss. Retrieved from https://www.medicalnewstoday.com/articles/finasteride-vs-minoxidil
  2. American Hair Loss Association. (n.d.). Treatments. Retrieved from https://www.americanhairloss.org/treating-hair-loss/
  3. Mayo Clinic. (2022, November 11). Finasteride (Oral Route). Retrieved from https://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/finasteride-oral-route/how-it-works/drg-20063991
  4. Drugs.com. (n.d.). Minoxidil topical. Retrieved from https://www.drugs.com/minoxidil.html

เรียบเรียงโดย (Compiled by)  : www.chulalakpharmacy.com

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี