ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) เดิมทีถูกใช้ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โดยกลไกการออกฤทธิ์ของไมนอกซิดิลจะไปช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว เมื่อหลอดเลือดขยายตัวทำให้เลือดสามารถไหลเวียนได้มากและดีขึ้น และเลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้นจึงทำให้ความดันโลหิตต่ำลงนั่นเอง
แต่ในภายหลังพบว่าผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ใช้ยาไมนอกซิดิลไประยะหนึ่งแล้วพบผลข้างเคียงจากการใช้ยานี้คือมีผมงอกออกมาใหม่ แพทย์ที่เห็นถึงผลข้างเคียงที่เป็นประโยชน์นี้จึงมีการนำยาไมนอกซิดิลมาพัฒนาเพื่อเป็นยาแก้ผมร่วง หัวล้าน โดยรูปแบบของยาไมนอกซิดิลนั้นมีหลายประเภทขึ้นอยู่ลักษณะการใช้งานและการรักษา ประเภทของยาไมนอกซิดิลจะยกไปกล่าวในหัวข้อถัด ๆ ไป
ข้อบ่งใช้
อย่างที่กล่าวไปว่ายาไมนอกซิดิลเดิมทีใช้เป็นยารักษาโรคความดันโลหิตสูงแต่ก็มีผลข้างเคียงที่สามารถมองได้ว่าเป็นประโยชน์ในการรักษาภาวะผมร่วงผมบาง หัวล้านได้ ในหัวข้อนี้จะมากล่าวถึงสรรพคุณและผลข้างเคียงที่นับว่าเป็นอีกสรรพคุณหนึ่งของยาไมนอกซิดิล ดังนี้
1. ลดความดันโลหิต ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
หนึ่งในสาเหตุของความดันโลหิตสูงเกิดจากหลอดเลือดเกิดการหด ตีบ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และเพื่อให้เลือดสามารถไหลเวียนผ่านหลอดเลือดได้ต่อไป จึงเกิดความดันโลหิตสูงนั่นเอง ไมนอกซิดิลจะมีกลไกการออกฤทธิ์ให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว เมื่อหลอดเลือดขยายตัวก็จะส่งผลให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดีขึ้น และเมื่อเลือดสามารถไหลเวียนได้ดี ความดันโลหิตจึงลดลง
2. รักษาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน
ด้วยฤทธิ์ของยาไมนอกซิดิล ช่วยให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงทำให้รากขน รากผมบริเวณผิวหนังได้รับสารอาหารจากการที่เลือดไหลเวียนผ่านมากขึ้น และไปกระตุ้นให้เกิดการงอกของขนและเส้นผมนั่นเอง
โดยยาไมนอกซิดิลที่ใช้สำหรับรักษาผมร่วง หรือปลูกผมนั้นจะมีปริมาณของสารสำคัญ ไมนอกซิดิล (Minoxidil) ที่น้อยกว่ายาไมนอกซิดิลที่ใช้เพื่อลดความดันโลหิต เพื่อลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงอื่น ๆ จากการใช้ยา

ประเภทของยาไมนอกซิดิล
ยาไมนอกซิดิลที่ใช้รักษาผมร่วง หรือใช้เพื่อปลูกผมที่มีการใช้ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้
- ยาไมนอกซิดิล แบบกิน ยาไมนอกซิดิลแบบกิน จะมาในรูปแบบของยาเม็ด โดยตัวยาไมนอกซิดิลที่ทานเข้าไปสามารถละลายและดูดซึมได้ง่ายและเร็ว ทำให้เห็นผลของการรักษาได้เร็ว นอกจากนี้ยังไม่ต้องเสียเวลาทา ทำให้เหนียวเหนอะหนะในบริเวณที่ต้องทา อาจทำให้รู้สึกไม่สบายบริเวณที่ทา และอาจระคายเคืองหรือคันได้
แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากการกินไม่สามารถกำหนดจุดที่ต้องการให้เส้นผมหรือขนขึ้นตรงไหน จึงทำให้ขนและผมขึ้นทั้งตัว ทั้งในจุดที่ต้องการและจุดที่ไม่ต้องการ แต่เมื่อหยุดใช้ยา ผลข้างเคียงจากการมีขนขึ้นในบริเวณต่าง ๆ ก็จะหลุดไปเอง
- ยาไมนอกซิดิลแบบทา มีทั้งแบบน้ำ แบบสเปรย์ และแบบโฟมให้เลือกใช้ โดยจุดเด่นของยาไมนอกซิดิลแบบทาคือสามารถกำหนดบริเวณที่ต้องการให้ผมและขนขึ้นได้เลย บางคนจึงนิยมนำยาไมนอกซิดิลมาใช้เพื่อปลูกคิ้วและปลูกหนวดด้วยเช่นกัน
ปริมาณการใช้ยา Minoxidil
ยารับประทาน รักษาความดันโลหิตสูงรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อยาอื่น ๆ
- เด็ก อายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 12 ปี ใช้ร่วมกับยาที่ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ได้แก่ ยาเบต้า บล็อกเกอร์ (Beta Blocker) หรือยาเมทิลโดปา (Methyldopa) และยาขับปัสสาวะ ขนาดรับประทานเพื่อการรักษาเริ่มต้น: ใช้ 0.2 มิลลิกรัม ใช้ 1 ครั้ง หรือแบ่งเป็น 2 ครั้ง และเพิ่มขึ้นครั้งละ 0.1-0.2 มิลลิกรัม ในช่วงเวลาอย่างน้อย 3 วัน ใช้ยาสูงสุดไม่เกิน 1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หรือ 50 มิลลิกรัม ต่อวัน
- ผู้ใหญ่ ใช้ร่วมกับยาที่ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ได้แก่ ยาเบต้า บล็อกเกอร์ (Beta Blocker) หรือยาเมทิลโดปา (Methyldopa) และยาขับปัสสาวะ ขนาดรับประทานเพื่อการรักษาเริ่มต้น: ใช้ 5 มิลลิกรัม ต่อวัน จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นในช่วงเวลาอย่างน้อย 3 วัน เพิ่มเป็น 40 มิลลิกรัม หรือ 50 มิลลิกรัม รับประทานในครั้งเดียว หรือแบ่งเป็น 2 ครั้ง ตามแพทย์สั่ง รับประทานได้สูงสุดไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้สูงอายุ ขนาดรับประทานเพื่อการรักษาเริ่มต้น 2.5 มิลลิกรัมต่อวัน และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณตามแพทย์สั่ง
ยาใช้เฉพาะที่ รักษาศีรษะล้าน
ผู้ชาย
- ใช้ยาชนิดสารละลายบนหนังศีรษะ 2% หรือ 5% ใช้ปริมาณ 1 มิลลิลิตรที่หนังศีรษะ
- ยาชนิดโฟมหรือสเปรย์พ่นลงบนหนังศีรษะ 5% ใช้ปริมาณครึ่งถ้วยลงบนหนังศีรษะ
- ยาชนิดโฟมหรือสเปรย์พ่นลงบนหนังศีรษะ 5% ใช้ปริมาณครึ่งถ้วยลงบนหนังศีรษะ
ผู้หญิง
- ยาชนิดสารละลายใช้บนหนังศีรษะ 2% ใช้ปริมาณ 1 มิลลิลิตรที่หนังศีรษะ
- ยาชนิดโฟมหรือสเปรย์พ่นลงบนหนังศีรษะ 5% ใช้ปริมาณครึ่งถ้วยลงบนหนังศีรษะ วันละครั้ง
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Minoxidil
หากพบว่ามีอาการแพ้ยา ได้แก่ ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม ปากบวม ลิ้นบวม หรือคอบวม ให้ติดต่อเพื่อรับการช่วยเหลือทางการแพทย์โดยเร็วที่สุด และหากพบว่ามีอาการต่อไปนี้ ให้รีบพบแพทย์
ยารับประทาน
มีอาการเจ็บหน้าอก ทั้งที่เพิ่งเป็น หรือที่เป็นอยู่แล้วมีอาการแย่ลง ซึ่งจะเจ็บที่หน้าอกและอาจลามไปที่กรามหรือไหล่
- หัวใจเต้นเร็ว
- เกิดอาการบวมที่ขา ข้อเท้า หรือเท้า
- น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- หายใจถี่
- รู้สึกหวิว
- มีของเหลวเกิดขึ้นที่ปอด รู้สึกเจ็บเวลาหายใจ หายใจเร็ว หอบเหนื่อย เวลาเอนตัวนอน หอบ ไอมีเสมหะ
- เกิดปฏิกริยากับผิวรุนแรง มีไข้ เจ็บคอ บวมที่ใบหน้าหรือลิ้น แสบตา แสบหรือเจ็บผิว พร้อมกับมีผื่นสีแดงหรือม่วง
ยาใช้เฉพาะที่
- ผมเปลี่ยนสีหรือผิวสัมผัสที่เปลี่ยนแปลงไป
- โรคหัวใจ เนื่องจากอาจมีการดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกาย
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจต้องใช้อย่างระมัดระวัง ต้องมีการประเมินความปลอดภัยก่อนการใช้
อาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้นอกเหนือจากนี้ หากผู้ป่วยพบว่ามีความผิดปกติหรือผลข้างเคียงใด ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาทางแก้ไขต่อไป
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– web absolutehairclinic
– web pobpad
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM