ตลอดช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา มะเร็งในลำคอที่เกิดจากพฤติกรรมทางเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำโอษฐกามหรือออรัลเซ็กซ์ (oral sex) กำลังแพร่ระบาดหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกตะวันตก โดยพบผู้ป่วยโรคมะเร็งคอหอยส่วนบนหลังช่องปาก(oropharyngeal cancer) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งเพศชายและเพศหญิง
สาเหตุของโรคนี้คือการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกด้วยนั่นเอง แต่ในปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยมะเร็งคอหอยส่วนบนหลังช่องปากในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร มีสูงกว่าผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกเป็นอย่างมาก
เชื้อ HPV มีอยู่มากกว่า 100 ชนิด ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อได้ แต่ส่วนใหญ่จะมีระบบภูมิคุ้มกันช่วยป้องกัน ยกเว้นจะโชคร้ายปล่อยให้ร่างกายอ่อนแอ ติดเชื้อได้ง่าย โดยเชื้อที่เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็ง ได้แก่ HPV-16 และ HPV-18 โดยเฉพาะ HPV-16 เชื่อว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกประมาณ 60% เป็นสาเหตุของมะเร็งทวารหนักราว 80% และประมาณ 60% ของมะเร็งในช่องปากและคอ ซึ่งมีผู้ป่วยเป็นโรคนี้จำนวนมาก เฉพาะในอังกฤษมีผู้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ราว 1,500 คนต่อปี และเสียชีวิตประมาณ 470 คนต่อปี

ศาสตราจารย์ ไฮแชม เมฮันนา จากสถาบันมะเร็งและวิทยาศาสตร์พันธุกรรมแห่งมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ผู้ทำการวิจัยในประเด็นนี้บอกว่า เชื้อไวรัส HPV นั้นติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์ ทำให้ปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคมะเร็งคอหอยส่วนบน ขึ้นอยู่กับจำนวนคู่นอนที่ชายหญิงแต่ละคนมีกิจกรรมทางเพศแบบออรัลเซ็กซ์ด้วย หากตลอดช่วงชีวิตหนึ่งของเขาหรือเธอมีคู่ทำออรัลเซ็กซ์มากกว่า 6 คนขึ้นไป จะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งคอหอยส่วนบนสูงกว่าผู้ที่ไม่มีกิจกรรมทางเพศแบบนี้ถึง 8.5 เท่า
ออรัลเซ็กซ์คือสาเหตุหลักของการติดเชื้อในคอหอยส่วนบนหลังช่องปาก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมทอนซิลตั้งอยู่นั่นเอง แต่จะมีคนบางส่วนที่ภูมิคุ้มกันไม่สามารถขจัดเชื้อไวรัส HPV ออกจากลำคอไปได้ทั้งหมด ทำให้ไวรัสเพิ่มจำนวนสะสมในเซลล์บริเวณดังกล่าว และส่งผลเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของเซลล์จนกลายเป็นมะเร็งไปในที่สุด
สำหรับวิธีการป้องกันมะเร็งคอหอยส่วนบนนั้น นอกจากจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศ โดยทำออรัลเซ็กซ์อย่างปลอดภัยด้วยการสวมถุงยางอนามัยแล้ว หลายประเทศยังมีการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ในทั้งชายและหญิง ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยรุ่นอีกด้วย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– web bbc news
– web hfocus
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM