เริมที่อวัยวะเพศ (Genital Herpes) เป็นอีกหนึ่งโรคที่เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยมักจะเกิดขึ้นกับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โรคนี้สามารถหายได้ แต่เมื่อภูมิต้านทานต่ำลง อาจเสี่ยงต่อการกลับมาติดเชื้อซ้ำ
เริมที่อวัยวะเพศ เกิดจากสาเหตุใด
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เฮอร์ปีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus : HSV) จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีแผลเริม ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้ จะแฝงตัวอยู่ที่บริเวณปมประสาทได้อย่างถาวร และสามารถถูกกระตุ้นให้กลับมาเป็นซ้ำได้หากภูมิต้านทานต่ำลง
โดยเชื้อไวรัสแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด
- HSV-1 ทำให้เกิดรอยโรคที่ปาก และจมูก
- HSV-2 จะทำให้เกิดรอยโรคที่ภายนอกของอวัยวะเพศ สามารถแพร่กระจายได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะไม่มีบาดแผลเปิด
ระยะการฟักตัวของเริมที่อวัยวะเพศ
ระยะฟักตัวจะอยู่ที่ 2-14 วัน หลังจากมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีแผลเริม
เริมที่อวัยวะเพศ อาการเป็นอย่างไร
- มีไข้ต่ำ ร่วมกับการปวดเมื่อยตามร่างกาย
- เกิดรอยแตก และแดงบริเวณรอบอวัยวะเพศ
- เกิดตุ่มน้ำใส โดยตุ่มนี้จะแตกเองภายใน 24-48 ชั่วโมงซึ่งอาจส่งผลให้บริเวณนั้น เกิดอาการบวม, แดง หรือแสบร้อน
- ชา และคันบริเวณรอบอวัยวะเพศ หรือทวารหนัก
- เกิดการอักเสบ, แสบบริเวณปากช่องคลอด และยังส่งผลให้มีอาการแสบขณะปัสสาวะร่วมด้วย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเริมอวัยวะเพศ
1.เริมที่ปากเกิดจากอะไร
คำตอบ : เริมที่ปากเกิดจากเชื้อไวรัส ชื่อ Herpes simplex virus สามารถติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง เช่น การรับประทานอาหารร่วมกันโดยใช้ช้อนหรือแก้วน้ำเดียวกัน การใช้ของร่วมกัน การจูบปากและการมี Oral sex
2.เริมที่อวัยวะเพศหญิง กี่วันหาย
คำตอบ : เป็นเริมกี่วันถึงจะหาย โดยทั่วไปผื่นจะยุบตัวลงได้ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังจากที่มีอาการ การใช้ยารักษาโรคเริมโดยเฉพาะจะช่วยทำให้ผื่นหายเร็วขึ้นได้
3.เริมเกิดได้ที่ไหนบ้าง
คำตอบ : ตำแหน่งที่คนมักเป็นเริมบ่อยๆ ส่วนมากมี 2 ตำแหน่ง ได้แก่ ปากและอวัยวะเพศ ซึ่งการติดเชื้อทั้งสองตำแหน่งยังสามารถนำไปสู่การติดเชื้อบริเวณอื่นได้ เช่น ที่จมูก ตา ในลำคอ
4.โรคเริม เสี่ยงเป็นเอดส์ ไหม
คำตอบ : การติดเชื้อเริมอาจทำให้เพิ่มความเสียงต่อการติดเชื้อไวรัส HIV เนื่องจากภาวะภูมิคุ้มกันต้านทานโรคบกพร่องทำให้สามารถรับเชื้ออื่นได้โดยง่าย
5.เป็นเริมที่อวัยวะเพศ ห้ามกินอะไร
คำตอบ : อาหารแปรรูป น้ำตาลและของหวานทุกชนิด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ของหมักดอง มีส่วนเป็นตัวกระตุ้นให้โรคเริมกำเริบ ดังนั้นคนที่เป็นเริมบ่อยมาก โดยเฉพาะเริมที่อวัยวะเพศหญิง ควรงดค่ะ
6.ยาทาเริมที่อวัยวะเพศหญิง ยาทาเริมที่ปาก
คำตอบ : แพทย์จะจ่ายยาต้านไวรัส ช่วยเร่งการฟื้นฟูผิวหนังแผลจากเริม บรรเทาความรู้สึกเจ็บปวด คัน หรือแสบ เช่น อะไซโคลเวียร์ครีม (Acyclovir)
7.เริมที่อวัยวะเพศหญิง อันตรายไหม
คำตอบ : เริมที่อวัยวะเพศ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถแพร่เชื้อได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ปากมดลูกอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ ในกรณีของผู้ที่ตั้งครรภ์อาจแพร่เชื้อไปยังทารกและอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
8.เป็นเริมที่อวัยวะเพศจะลามขึ้นมาที่ริมฝีปากได้หรือไม่
คำตอบ : ไวรัสเริมมี 2 ชนิด คือHv1 อาการจะเริ่มที่ริมฝีปากก่อน และสามารถลามไปติดเชื้อที่อวัยวะเพศได้ผ่านกิจกรรมทางเพศที่ใช้ปากหรือออรัลเซ็กส์ ส่วนไวรัส HSV2 ซึ่ง อาการจะกำเริบที่อวัยวะเพศก่อนแต่ลามมาติดเชื้อที่ริมฝีปากพบได้น้อยมาก
เริมที่อวัยวะเพศ เป็นโรคทางเพศสัมพันธ์ที่มีความอันตราย และน่ากลัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรี แต่ไม่ใช่ว่าคุณผู้ชายจะไว้วางใจได้ เพราะท่านสามารถติดโรคนี้ได้เช่นกัน ซึ่งจะเห็นว่าโรคนี้ติดต่อกันได้ แม้ไม่ได้มีการสอดใส่ และยังมีความอันตรายต่อทารกในครรภ์ ถ้าพบว่าคุณแม่มีการติดเชื้อนี้อยู่ หากท่านใดที่สงสัย หรือคิดว่าตนเองเข้าข่ายว่าจะเป็นโรคเริมที่อวัยวะเพศ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ รักษา และรับคำแนะนำจากแพทย์
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– โรงพยาบาลเพชรเวช
– web intouchmedicare
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM