7 สาเหตุนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยมีอาการนอนไม่หลับกันมาบ้าง ที่แม้ว่าจะพยายามข่มตาให้หลับเท่าไรก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี กว่าจะรู้สึกง่วงขึ้นมาก็ใกล้เช้าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นไปทำงานแล้ว ส่งผลให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ หากมีอาการนี้บ่อยๆ ทำให้เกิดผลเสียกับร่างกายหลายๆ อย่างตามมา เนื่องจากวงจรการใช้ชีวิตในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากอดีต จนนำมาสู่การเกิด “โรคนอนไม่หลับ” หรือ Insomnia ซึ่งมีรูปแบบของอาการมากมาย เช่น การนอนไม่หลับ การนอนหลับไม่สนิท การหลับๆ ตื่นๆตลอดทั้งคืน การตื่นขึ้นมากลางดึก การตื่นเช้าผิดปกติ และการตื่นมาแล้วไม่สดชื่น เป็นต้น

โรคนอนไม่หลับสามารถแบ่งได้หลายประเภทตามลักษณะช่วงเวลาของการนอนไม่หลับ

  1. Initial insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยมีปัญหานอนหลับยากใช้เวลานอนนานกว่าจะหลับภาวะดังกล่าวอาจสัมพันธ์กับภาวะวิตกกังวล
  2. Maintinance insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยไม่สามารถนอนหลับได้ยาวมีการตื่นกลางดึกบ่อยภาวะดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาทางกาย เช่นภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น
  3. Terminal insomnia คือภาวะที่ผู้ป่วยตื่นเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่นอาจพบได้ในผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า

สาเหตุของการนอนไม่หลับเกิดจากอะไร
การนอนไม่หลับเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่ปัจจัยทางด้านร่างกาย จิตใจ สภาพแวดล้อมและอุปนิสัยการนอน

  1. สภาพแวดล้อมเสียงดัง แสงสว่าง หรือคับแคบเกินไป
  2. อาการป่วย เช่น ปวดท้อง ปวดเมื่อย โรคเกี่ยวกับการนอน มีปัญหาเรื่องระบบการหายใจ มีอาการไอ
  3. ความเครียด อาการวิตก อาการวิตกกังวล แรงกดดัน หรือมีอาการซึมเศร้าและท้อแท้ หมดกำลังใจ หมดหวังในการใช้ชีวิต คิดว่าตัวเองไร้ค่า ยึดติดและอยู่กับตัวเองมากเกินไป
  4. แอลกอฮอล์ คาเฟอีน ในกาแฟ บุหรี่ หรือยาบางชนิด
  5. ท้องว่าง หรืออิ่มมากเกินไป
  6. ภาวะการนอนหลับ นอนละเมอฝันร้าย หรือนอนไม่หลับจนติดเป็นนิสัย
  7. หน้าที่การงาน ที่ต้องเปลี่ยนเวลาการนอน เช่น พยาบาล ยาม

วิธีแก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับ

  • เข้านอนตรงเวลาและตื่นตรงเวลาเป็นประจำในเวลาใกล้เคียงกันทุกวันทั้งวันธรรมดาและวันหยุด
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นประจำโดยแนะนำการออกกำลังกายแบบแอโรบิค สำหรับเวลาที่เหมาะสมควรเป็นช่วงเวลาเช้าและไม่ควรออกกำลังกายก่อนเวลานอน 2 ชั่วโมง
  • สร้างบรรยากาศห้องนอนที่เหมาะสมโดยมีความเงียบสงบและไม่ร้อนไปหรือหนาวไป
  • ควรปิดไฟขณะนอนหลับ
  • ใช้เตียงนอนสำหรับการนอนหรือกิจกรรมทางเพศเท่านั้นไม่แนะนำให้ทำกิจกรรมอื่นบนเตียงเช่น ดูโทรทัศน์, อ่านหนังสือ เป็นต้น
  • ก่อนเวลานอนซัก 1 ชั่วโมงควรผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลงสบายๆ, อ่านหนังสือ, นั่งสมาธิ, ทำกิจกรรมเบาๆ ที่ทำให้ไม่ตื่นเต้นและไม่เครียด
  • ไม่ควรทำกิจกรรมที่ผลทำให้ตื่นเต้นก่อนนอน เช่น เล่นอินเตอร์เนต, เล่นเกมส์, ดูโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ ที่มีความตื่นเต้น
  • ไม่ควรดื่มชา,กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการนอน
  • ไม่ควรทานอาหารมื้อใหญ่ อย่างน้อย 4 ชม. ก่อนการนอนหลับ
  • สามารถนอนงีบได้ในเวลากลางวันโดยงีบไม่เกิน 20 นาทีและไม่ควรงีบหลับหลังบ่ายสามโมง
  • ระหว่างนอนหลับไม่ควรดูนาฬิกาเนื่องจากจะทำให้เกิดความกังวล
  • ไม่ควรดื่มน้ำมากกว่า 1 แก้วก่อนนอนและแนะนำให้ปัสสาวะก่อนเข้านอน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อช่วยให้หลับถึงแม้ว่าจะช่วยให้หลับได้แต่ทำให้การนอนไม่มีคุณภาพ หากจะดื่มแนะนำให้ดื่มอย่างน้อย 4 ชม. ก่อนเข้านอน
  • หลีกเลี่ยงเลี่ยงแสงจ้าในตอนเย็นและพยายามรับแสงในตอนเช้า เช่นเปิดหน้าต่างรับแสงในตอนเช้า

อาการของผู้ที่มีภาวะนอนไม่หลับ

  1. อ่อนเพลีย
  2. ไม่สามารถมีสมาธิกับการทำงาน, ความจำเปลี่ยนแปลง
  3. ความสามารถในการทำงานลดลง
  4. อารมณ์หงุดหงิดกระสับกระส่าย
  5. ง่วงนอนเวลากลางวัน
  6. ขาดพลังในการใช้ชีวิตอ่อนเพลีย
  7. การเกิดอุบัติเหตุ
  8. กังวลเกี่ยวกับปัญหาการนอนที่เกิดขึ้น

เพราะฉะนั้นจึงต้องดูแลร่างกายให้ดี การพักผ่อนนอนหลับนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่แพ้เรื่องการบริโภคหรือการออกกำลังกายเลย


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– โรงพยาบาลราชวิถี
– โรงพยาบาลนนทเวช
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

ยังไม่มีบัญชี