กลิ่นตัวแรงสาเหตุเกิดจากอะไร วิธีลดกลิ่นตัวแรง

กลิ่นตัวเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน บางครั้งมันอาจส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเองและทำให้รู้สึกอับอาย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องพบปะผู้คนหรือทำกิจกรรมต่างๆ การเข้าใจสาเหตุและวิธีการจัดการกับปัญหานี้จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพและเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง

กลิ่นตัวเกิดขึ้นจากกลิ่นของสารที่ถูกสร้างจากต่อมไขมัน และกลิ่นของโปรตีนเคราตินที่อยู่บนผิวหนังที่ถูกย่อยสลายโดยเชื้อแบคทีเรีย และกลิ่นของอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เช่น กระเทียม เครื่องเทศ ที่ถูกขับออกมาทางต่อมเหงื่อธรรมดา 

เนื่องจากบนร่างกายเรามีต่อมเหงื่อมากกว่า 40,000 ต่อม กระจายทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณ รักแร้ ศีรษะ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า ที่จะมีมากเป็นพิเศษ ซึ่งเหงื่อออกมากๆเข้า ก็จะทำให้เราเสียบุคลิกภาพ ไม่ว่าจะเป็นการมีกลิ่นเหม็น หรือเสื้อบริเวณรักแร้เปียก จึงเป็นปัญหาที่หลายคนแก้ไม่ตก จนทำให้เสียความมั่นใจไปทันที

สาเหตุหลักในการเกิดปัญหากลิ่นตัว

1. แบคทีเรียประจำถิ่นบริเวณรักแร้ จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากความร้อนและความชื้นของอากาศ

2. การสร้างเหงื่อจากต่อมเหงื่อชนิดอะโพครายน์ ผู้ที่มีกลิ่นตัวจะมีต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังขนาดใหญ่และมีจำนวนมากต่อมเหงื่อนี้ยังถูกกระตุ้นได้ด้วยฮอร์โมนเพศชาย Androgrn

ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดกลิ่นตัว

  • อาหารรสจัด เช่น แกงกะหรี่ แกงเผ็ดต่างๆ ที่มีส่วนผสมของขมิ้น กระเทียม และเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง เมื่อผ่านการย่อยจะเกิดแก๊สซัลเฟอร์ปนอยู่กับออกซิเจนในเลือดที่ไปอยู่ตามรูขุมขน หากทานอาหารรสจัดทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาโดยเฉพาะใต้วงแขน
  • โรคอ้วน คนอ้วนมักมีกลิ่นตัวแรงกว่าคนที่ผอมกว่า เพราะคนอ้วนมีโอกาสที่อวัยวะภายนอกมีส่วนอับชื้น สร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตามรักแร้ ชั้นพุง ขาหนีบ มากกว่าคนผอม และต่อมเหงื่อยังผลิตเหงื่อมากกว่าคนที่ผอมอีกด้วย
  • โรคเบาหวาน ในกรณีโรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษา ร่างกายจะเริ่มขับไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานส่งผลให้ระดับคีโตน (Ketone) ในร่างกายสูงขึ้น หลังจากนั้นสิ่งที่สะสมไว้ก็จะเปลี่ยนเป็นกลิ่นตัว
  • ยาบางชนิด ยาสามารถรักษาโรคได้แต่ก็สามารถทำให้มีกลิ่นได้ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น มอร์ฟีน หรือยาลดไข้ ที่สามารถทำให้เหงื่อออกจนเกิดกลิ่นตัวขึ้นได้
  • ความเครียด เหงื่อที่ออกตามปกติจะมีกลิ่นน้อยกว่าเหงื่อที่ออกจากความเครียด ต่อมเหงื่อชนิดนี้เรียกว่า ต่อมอะโพไครน์ (Apocrine glands) ของเหลวจากต่อมนี้มีน้ำน้อยกว่า แต่ดึงดูดแบคทีเรียได้สูงกว่า ทำให้เกิดกลิ่นได้มากกว่า 

วิธีแก้ปัญหาลดกลิ่นตัว 

1.หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีกลิ่นฉุน 

อาหารบางประเภท เช่น กระเทียม หัวหอม หรืออาหารที่มีเครื่องเทศรุนแรง อาจทำให้กลิ่นตัวของคุณเปลี่ยนไปได้ เนื่องจากสารบางชนิดในอาหารเหล่านี้จะถูกขับออกมาผ่านเหงื่อและลมหายใจ การหลีกเลี่ยงการกินอาหารเหล่านี้จึงมีส่วนที่จะช่วยลดกลิ่นตัวได้

2.ดื่มชาเขียวเป็นประจำ 

ชาเขียวมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระและมีสารประกอบที่ช่วยลดการผลิตเหงื่อ ชาเขียวจึงมีส่วนช่วยลดกลิ่นตัวได้ด้วยการขจัดสารพิษจากร่างกาย ดังนั้นการดื่มชาเขียวบ่อยๆ อาจช่วยให้กลิ่นตัวของคุณดีขึ้นได้

3.ทำความสะอาดบริเวณที่มีกลิ่น 

การทำความสะอาดร่างกายบริเวณที่มีกลิ่น เช่น รักแร้ หรือบริเวณที่เหงื่อออกมาก ถือเป็นวิธีพื้นฐานที่จะช่วยลดกลิ่นตัวได้ดี ควรเลือกใช้สบู่ที่มีสารฆ่าเชื้อหรือมีส่วนผสมของสมุนไพร เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและลดกลิ่นตัวได้ดียิ่งขึ้น

4.เช็ดตัวให้แห้งหลังจากอาบน้ำ 

หลังจากที่อาบน้ำควรเช็ดตัวให้แห้งอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น ใต้รักแร้หรือบริเวณขาหนีบ เพราะความชื้นเป็นแหล่งที่ทำให้แบคทีเรียเติบโตได้ดี ส่งผลให้เกิดกลิ่นตัว

5.รักษาความสะอาดเสื้อผ้า

การรักษาความสะอาดของเสื้อผ้าก็มีส่วนสำคัญในการช่วยลดกลิ่นตัว เพราะเสื้อผ้าที่สกปรกหรือไม่สะอาดสามารถเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียและกลิ่นต่างๆ ได้ ดังนั้นการดูแลเสื้อผ้าให้สะอาดจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดกลิ่นตัวได้ดี

6.ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เช่น สเปรย์ระงับกลิ่น หรือโรลออน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยลดและป้องกันกลิ่นตัวได้เป็นอย่างดี เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยควบคุมกลิ่นจากเหงื่อและยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว

7.ลดความเครียด 

การลดความเครียดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดการเกิดกลิ่นตัวได้ เนื่องจากเหงื่อที่ออกจากความเครียดที่เรียกว่า ต่อมอะโพไครน์ (Apocrine glands) ของเหลวจากต่อมนี้จะดึงดูดแบคทีเรียได้สูง ส่งผลให้ต่อมเหงื่อทำงานมากขึ้นและทำให้เหงื่อออกมากกว่าปกติ ทำให้เกิดกลิ่นตัวขึ้น ดังนั้น การหาวิธีลดความเครียด เช่น การฝึกโยคะ การทำสมาธิ หรือการออกกำลังกายจะช่วยลดการเกิดกลิ่นตัวจากเหงื่อได้

8.ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว 

ในกรณีที่เหงื่อออกมากจนเป็นปัญหาและเกิดกลิ่นตัวรุนแรง การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดเหงื่อก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาได้ การฉีดโบท็อกซ์รักแร้ คือการใช้ Botulinum toxin type A ซึ่งเป็นสารเดียวกับที่ใช้ลดริ้วรอย ฉีดไปที่บริเวณรักแร้ เพื่อยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท Acetylcholine ที่ควบคุมการผลิตเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกน้อยลง ส่งผลให้มีส่วนช่วยในการลดเหงื่อและลดกลิ่นตัวได้

9.เปลี่ยนชุดทุกครั้งหลังการเล่นกีฬาที่มีเหงื่อออกเยอะ และซักด้วยน้ำส้มสายชู

การซักด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชู จะทำให้กลิ่นหายไปได้ดีกว่า รวมทั้งคราบเหลืองที่เกิดขึ้นกับเสื้อ บริเวณรักแร้ จุ่มลงไปในน้ำส้มสายชูที่อุ่น ขยี้เบาๆ หรือแช่ไว้ จะทำให้คราบเหลืองดังกล่าวหายไปได้

10.กำจัดขนบริเวณที่มีกลิ่น

เพื่อลดการสะสมตัวของแบคทีเรีย ทำให้เกิด กลิ่นตัว


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– โรงพยาบาลบางปะกอก
– web hdmall
– web rattinan.
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี