แผลเริมแตกแล้วต้องทำอย่างไร? ห้ามปล่อยไว้เฉย ๆ

เริมแตกคืออะไร?

แผลเริมเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HSV และมักเริ่มจากตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ บริเวณผิวหนัง เช่น ริมฝีปาก อวัยวะเพศ หรือใบหน้า
เมื่อแผลเข้าสู่ระยะ “แตก” จะมีน้ำใสซึมออกมา ซึ่งเป็นช่วงที่มี ไวรัสจำนวนมาก และสามารถแพร่เชื้อได้สูงที่สุด

ทำไมช่วงแผลแตกจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ?

  • เชื้อไวรัสอยู่ในของเหลวจากแผลมากที่สุด
  • เสี่ยงแพร่เชื้อให้ผู้อื่นหรือผิวหนังส่วนอื่นของตัวเอง
  • หากดูแลไม่ดี อาจติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน ทำให้แผลลุกลาม หายช้า และเกิดแผลเป็น

สิ่งที่ควรทำทันทีเมื่อแผลเริมแตก

1. ล้างมือก่อนสัมผัสแผล
2. ใช้น้ำเกลือปราศจากเชื้อล้างแผลเบา ๆ
3. ซับแผลให้แห้งด้วยกระดาษทิชชู่สะอาดหรือผ้าสะอาดเฉพาะบุคคล
4. ทายาต้านไวรัสทันที เช่น Acyclovir cream
5. หลีกเลี่ยงการแตะ-เกา-แกะสะเก็ดแผล
6. ใช้ก้านสำลีหรือคอตตอนบัดแทนนิ้วในการทายา
7. เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และของใช้ส่วนตัวบ่อยขึ้นในช่วงนี้
8. ปรึกษาด้านยา หรือเภสัชกรได้ที่ร้านขายยาคุณภาพ หากแผลใหญ่ เจ็บมาก หรือมีหนอง

ระหว่างแผลแตก ควรเลี่ยงอะไร?

  • การมีเพศสัมพันธ์ (รวมถึง oral sex)
  • การจูบ หากแผลอยู่ที่ปาก
  • การใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว
  • การแต่งหน้าหรือปิดแผลด้วยเครื่องสำอาง
  • การใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผล
  • การปิดแผลแน่นโดยไม่ระบายอากาศ

เมื่อไรควรพบแพทย์?

  • แผลเจ็บมากผิดปกติ
  • มีไข้ร่วมกับอาการแผล
  • แผลมีหนองหรือกลิ่นผิดปกติ
  • แผลไม่ดีขึ้นภายใน 7–10 วัน
  • มีแผลเริมกำเริบเกิน 6 ครั้ง/ปี

อ่านเพิ่มเติม:[เริมกับการจูบ – แพร่เชื้อได้ไหมถ้าไม่มีแผล? ต้องระวังอย่างไร?]


ข้อมูลอ้างอิง (References):

  1. CDC. Herpes Simplex: Lesion care and prevention. cdc.gov
  2. Mayo Clinic. Cold sore management when blisters burst. mayoclinic.org
  3. NHS. Cleaning and treating open herpes sores. nhs.uk

เรียบเรียงข้อมูลโดย  www.chulalakpharmacy.com

แชร์

ยังไม่มีบัญชี