ยารักษาสิวที่ได้ผล คือยาที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมกลไกการเกิดสิวทั้ง 4 ด้าน

ยารักษาสิวที่ได้ผล คือยาที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมกลไกการเกิดสิวทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การลดการอุดตัน, การฆ่าเชื้อแบคทีเรีย $P$. $acnes$, การลดการอักเสบ และการลดการผลิตน้ำมัน โดยยารักษาหลักที่แพทย์ผิวหนังแนะนำคือกลุ่ม อนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) และ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) ซึ่งมักใช้ร่วมกันเพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดและป้องกันการดื้อยา

รายละเอียด: การจัดกลุ่มยาตามความรุนแรงของสิว

การเลือกใช้ยาที่ได้ผลต้องพิจารณาตามความรุนแรงของสิว ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับ:

1. ยาทาภายนอก (Topical Medications): สำหรับสิวเล็กน้อยถึงปานกลาง

ยาทาเป็นทางเลือกแรกในการรักษาสิว โดยควรใช้ยาสูตรผสม (Combination therapy) เพื่อให้ครอบคลุมการออกฤทธิ์:

ประเภทสิวเป้าหมายการรักษาหลักยาที่ได้ผล (ตัวยาสำคัญ)
สิวอุดตัน (สิวหัวขาว, สิวหัวดำ)ลดการอุดตันของรูขุมขนอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) เช่น Tretinoin, Adapalene (Differin), Tazarotene, กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)
สิวอักเสบเล็กน้อยถึงปานกลางฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide – BP) ความเข้มข้น $2.5\%-10\%$
สิวอักเสบปานกลางฆ่าเชื้อร่วมกับการลดอักเสบยาปฏิชีวนะชนิดทา (เช่น Clindamycin, Erythromycin) ควรใช้ร่วมกับ BP เสมอ เพื่อลดการดื้อยา [1]




2. ยารับประทาน (Oral Medications): สำหรับสิวปานกลางถึงรุนแรง

แพทย์จะพิจารณายากลุ่มนี้เมื่อสิวไม่ตอบสนองต่อยาทา หรือเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ (Nodules, Cysts):

ยารับประทานกลไกการออกฤทธิ์หลักข้อบ่งใช้/ข้อควรระวังสำคัญ
ยาปฏิชีวนะชนิดกินฆ่าเชื้อ $P$. $acnes$ และลดการอักเสบDoxycycline, Minocycline, Tetracycline มักใช้ไม่เกิน 3-4 เดือน ต้องใช้ร่วมกับยาทา BP เพื่อป้องกันการดื้อยา [2]
Isotretinoin (อนุพันธ์วิตามินเอชนิดกิน)ลดการผลิตน้ำมัน (Sebum) อย่างรุนแรงและถาวร, ลดการอุดตันใช้รักษาสิวรุนแรงมาก หรือดื้อต่อการรักษาอื่น ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีผลข้างเคียงสูง (โดยเฉพาะผลต่อตับและหญิงตั้งครรภ์)
ยาคุมกำเนิด (ในผู้หญิง)ปรับสมดุลฮอร์โมนแอนโดรเจน (ฮอร์โมนเพศชาย)ใช้ได้ผลในสิวที่เกิดจากฮอร์โมน (มักขึ้นบริเวณคางและกราม) [3]

กลไกการออกฤทธิ์ผ่านพฤติกรรม: การใช้ยาให้ได้ผลจริง

การรักษาสิวจะได้ผลดีที่สุดเมื่อผู้ป่วยปรับพฤติกรรมควบคู่ไปกับการใช้ยา:

  1. ความสม่ำเสมอ: ต้องทายาและรับประทานยาอย่างต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง เป็นเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน ก่อนจะเห็นผลเต็มที่ (มักใช้เวลา 4-12 สัปดาห์)
  2. ป้องกันการดื้อยา: หากต้องใช้ยาปฏิชีวนะ (ทั้งทาและกิน) ต้องใช้ควบคู่กับ Benzoyl Peroxide เสมอ เพื่อทำลายเชื้อ $P$. $acnes$ และป้องกันเชื้อดื้อยา
  3. การป้องกันแสงแดด: ยาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (ทั้งทาและกิน) ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมาก ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF $30+$ และเป็นสูตร Non-comedogenic ทุกวัน


5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ทันทีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา

  1. ใช้ Benzoyl Peroxide ล้างหน้า/ทาทิ้งไว้ก่อนล้างหน้า (Short Contact Therapy): ช่วยลดแบคทีเรียและลดโอกาสแพ้ หากผิวบอบบาง
  2. ทาอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) ก่อนนอน: ทาบาง ๆ ทั่วใบหน้า (ไม่ใช่แค่บริเวณสิว) เพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่และสลายสิวอุดตัน
  3. ใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตร Non-comedogenic: เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ลดการระคายเคืองและอาการหน้าแห้งจากยาทา
  4. หลีกเลี่ยงการแกะบีบสิว: การแกะบีบทำให้สิวอักเสบรุนแรงขึ้น เพิ่มโอกาสเกิดรอยแดง รอยดำ และแผลเป็นหลุม
  5. รักษาความสะอาดของสิ่งของที่สัมผัสใบหน้า: หมั่นเปลี่ยนปลอกหมอนบ่อย ๆ และเช็ดทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ


อาหารเสริมที่ช่วยบำรุง ดูแล หรือป้องกัน

  • Zinc (สังกะสี): มีบทบาทในการควบคุมการทำงานของต่อมไขมันและการอักเสบ พบว่าการเสริม Zinc อาจช่วยลดความรุนแรงของสิวได้ โดยเฉพาะสิวอักเสบ [3]
  • Fish Oil (โอเมก้า 3): มีฤทธิ์ต้านการอักเสบอ่อน ๆ ซึ่งอาจช่วยลดอาการบวมแดงของสิวอักเสบ
  • Probiotics: ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut-Skin Axis) ซึ่งอาจส่งผลดีต่อสุขภาพผิวและลดการเกิดสิว


ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติม

  • ปรึกษาแพทย์: การใช้ยา Isotretinoin หรือยาปฏิชีวนะชนิดกิน ต้องได้รับคำแนะนำและการติดตามผลจากแพทย์ผิวหนังเท่านั้น
  • หลีกเลี่ยงสเตียรอยด์: ไม่ควรใช้ยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์โดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้สิวเห่อรุนแรงขึ้นเมื่อหยุดใช้ และมีผลข้างเคียงต่อผิวในระยะยาว

“ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงความรู้เบื้องต้น ไม่สามารถใช้ทดแทนการปรึกษาและวินิจฉัยจากแพทย์หรือเภสัชได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเมื่อใช้ยา หรือมีปัญหาสุขภาพ”


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

  1. American Academy of Dermatology (AAD). Acne: Diagnosis and treatment. [ข้อมูลยารักษาสิวชนิดทาและยากินที่ได้ผล]
  2. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี. หมอรามาฯ บอกให้ “ยารักษาสิว ใช้อย่างไรให้ดี”. [ข้อมูลยาทาและยากินรักษาสิว]
  3. HDmall.co.th. รักษาสิวแบบไหนดี? เทียบให้ชัด ยาทา ยากิน ทรีตเมนต์ หรือเลเซอร์. [ข้อมูลยารักษาสิวและยาคุมกำเนิด]

เรียบเรียงโดย (Compiled by)  : www.chulalakpharmacy.com 

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

ยังไม่มีบัญชี