สังคัง (Jock Itch) มีชื่อทางการแพทย์ว่า Tinea Cruris เป็นโรคติดเชื้อราที่ผิวหนัง (Dermatophytosis) ที่พบได้บ่อยบริเวณ ขาหนีบ อวัยวะเพศ และก้น สาเหตุหลักเกิดจากเชื้อรากลุ่ม Dermatophytes (มักเป็น Trichophyton rubrum) ซึ่งเจริญเติบโตได้ดีในสภาวะที่ ร้อน อับ และชื้น
ลักษณะเด่นที่สุด คือ ผื่นแดงหรือน้ำตาลแดง มีขอบเขตชัดเจน มักมีขอบนูนเล็กน้อยและมีอาการ คันรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณขาหนีบและพับก้น [1]


กลไกการออกฤทธิ์ผ่านพฤติกรรม
เชื้อรา Dermatophytes ซึ่งเป็นสาเหตุของสังคัง จะเติบโตและสร้างความเสียหายต่อผิวหนังผ่านกลไกต่อไปนี้:
- การย่อยเคราติน (Keratin Degradation): เชื้อราจะปล่อยเอนไซม์ที่ชื่อว่า Keratinase ออกมาย่อยสลายเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนหลักของผิวหนังชั้นนอก (Stratum Corneum) ทำให้เชื้อราสามารถแพร่กระจายและเจริญเติบโตได้
- การกระตุ้นการอักเสบ: การเจริญเติบโตของเชื้อราและผลพลอยได้จากการย่อยสลายเคราตินจะกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน นำไปสู่การอักเสบ ผื่นแดง และอาการคันอย่างรุนแรง
พฤติกรรมที่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดสังคัง:
- เหงื่อออกมาก: ความชื้นสูงทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี
- การใส่เสื้อผ้าคับแน่น: โดยเฉพาะเสื้อผ้าชั้นในที่ทำจากวัสดุที่ไม่ระบายอากาศ (เช่น ไนลอน) กักเก็บเหงื่อและความร้อน
- การติดเชื้อร่วมกับโรคกลาก (Tinea Pedis/Athlete’s Foot): เชื้อราที่เท้าสามารถแพร่มายังบริเวณขาหนีบได้ง่ายจากการใช้มือหรือผ้าเช็ดตัว
5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ทันทีเพื่อรักษาและป้องกันสังคัง
- ทายาฆ่าเชื้อรา (Topical Antifungals): ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของ Clotrimazole, Miconazole, Terbinafine, หรือ Ketoconazole ทาบริเวณรอยโรคและบริเวณขอบรอยโรค (ที่ขยายตัว) วันละ $1-2$ ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย $2-4$ สัปดาห์ แม้อาการจะดีขึ้นแล้ว [2]
- รักษาความแห้งและลดความชื้น: หลังอาบน้ำหรือออกกำลังกาย ควรเช็ดบริเวณขาหนีบให้แห้งสนิทที่สุด อาจใช้แป้งฝุ่นที่ไม่มีส่วนผสมของแป้งข้าวโพด (Cornstarch) เพื่อช่วยดูดซับความชื้น
- สวมใส่เสื้อผ้าหลวมและระบายอากาศได้ดี: เลือกเสื้อผ้าชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย (Cotton) หรือผ้าใยสังเคราะห์ที่ออกแบบมาเพื่อระบายเหงื่อโดยเฉพาะ
- ห้ามเกาและห้ามใช้ยาสเตียรอยด์: การเกาจะทำให้ผื่นอักเสบรุนแรงขึ้น และการใช้ยาสเตียรอยด์เฉพาะที่โดยไม่จำเป็นจะทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดีขึ้นและทำให้อาการแย่ลง
- รักษาโรคเชื้อราที่เท้า (ถ้ามี): หากมีโรคกลากที่เท้า ควรทำการรักษาไปพร้อมกันเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อซ้ำไปมา
อาหารเสริมที่ช่วยบำรุง ดูแล หรือป้องกัน
สังคังเป็นการติดเชื้อที่ผิวหนังภายนอก จึงเน้นการรักษาด้วยยาเฉพาะที่ อย่างไรก็ตาม การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและสุขภาพผิวที่ดีอาจช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำได้:
- Zinc (สังกะสี): ช่วยในการซ่อมแซมผิวหนังและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน
- Probiotics (โพรไบโอติกส์): ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย ซึ่งอาจมีผลต่อสุขภาพผิวหนังและลดการติดเชื้อราซ้ำ [3]
ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติม
- ปรึกษาแพทย์หากไม่หาย: หากใช้ยาทาต่อเนื่อง $4$ สัปดาห์แล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือรอยโรคมีขนาดกว้างและรุนแรงมาก แพทย์อาจพิจารณาให้ ยาฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน (เช่น Terbinafine หรือ Itraconazole) ซึ่งต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
- สุขอนามัยส่วนตัว: อย่าใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หรือเครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เพราะสังคังสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อรา

“ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงความรู้เบื้องต้น ไม่สามารถใช้ทดแทนการปรึกษาและวินิจฉัยจากแพทย์หรือเภสัชได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเมื่อใช้ยา หรือมีปัญหาสุขภาพ”
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- ราชวิทยาลัยแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย. โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา. [ข้อมูลอาการและสาเหตุของสังคัง]
- Haamor.com. สังคัง (Tinea cruris). [ข้อมูลยาที่ใช้รักษาและการดูแลตนเอง]
- บทความทางการแพทย์จาก Healthline. Jock Itch (Tinea Cruris): Symptoms, Causes, and Treatment. [ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดเชื้อและการดูแลสุขอนามัย]
เรียบเรียงโดย (Compiled by) : www.chulalakpharmacy.com











