การขาดแคลเซียมรุนแรง มักเกิดปัญหาทางการแพทย์ หรือการรักษา เช่น ยา (ยาขับปัสสาวะ) การผ่าตัดเอากระเพาะออก หรือไตวาย อาการของการขาดสารอาหารอย่างรุนแรง เช่น ตะคริวของกล้ามเนื้อ ชา รู้สึกเสียวซ่าที่นิ้ว ความเหนื่อยล้า เบื่ออาหาร จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติหลายคนคิกว่าแคลเซียมช่วยแค่เรื่องสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงเท่านั้น จริงๆไม่ใช่แค่นั้นนะ มันยังเป็นตัวช่วยสำคัญในระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาท และช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เป็นปกติอีกด้วย
แคลเซียม
จำเป็นสำหรับกระดูกและฟันที่แข็งแรง นอกจากนี้ยังสนับสนุนการทำงานที่เหมาะสมของหลอดเลือด กล้ามเนื้อ เส้นประสาท และฮอร์โมน แหล่งแคลเซียมธรรมชาติ ได้แก่ นม โยเกิร์ต ชีส และปลาขนาดเล็กที่มีกระดูก ถั่ว อาหารบางชนิดยังเสริมแร่ธาตุด้วย เช่น เต้าหู้ ซีเรียล และน้ำผลไม้
การขาดแคลเซียม ทำให้เกิดอาการที่ชัดเจนเพียงเล็กน้อยในระยะสั้น เป็นเพราะร่างกายของคุณควบคุมปริมาณแคลเซียมในเลือดอย่างระมัดระวัง การขาดแคลเซียมในระยะยาวอาจทำให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลง ซึ่งเรียกว่า ภาวะกระดูกพรุน เพิ่มความเสี่ยงกระดูกหักโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ
แต่หลายคนอาจไม่รู้ตัวเลยว่าร่างกายกำลังขาดแคลเซียมอยู่ ถ้าคุณมีอาการตามที่เหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังขาดแคลเซียม วันนี้มาเช็กกันว่าคุณมี 5 อาการนี้หรือไม่ แล้วควรแก้ไขยังไงดี
1. กล้ามเนื้อกระตุก ชา หรือเป็นตะคริวบ่อย
เคยไหมครับ กำลังหลับสบาย ๆ อยู่ดี ๆ ก็สะดุ้งตื่นเพราะเป็นตะคริวที่ขา หรืออยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกกล้ามเนื้อกระตุกแบบไม่มีเหตุผล อาการแบบนี้อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายของคุณกำลังขาดแคลเซียม
อันนี้เป็นเพราะ แคลเซียมมีบทบาทสำคัญต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ถ้าขาดแคลเซียม เส้นประสาทจะส่งสัญญาณผิดปกติ ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวโดยไม่ตั้งใจ เกิดเป็นตะคริว กล้ามเนื้อกระตุก หรืออาการชาได้
วิธีแก้ไข
•กินอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม โยเกิร์ต ชีส เต้าหู้ และผักใบเขียว
•อย่าลืมรับแสงแดดตอนเช้า เพราะวิตามินดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
•ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะการขาดน้ำอาจทำให้เป็นตะคริวได้เช่นกัน

2. กระดูกเปราะ แตกหักง่าย
บางคนล้มเบา ๆ แต่กระดูกหัก หรือรู้สึกว่ากระดูกของตัวเองไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน ถ้าคุณเริ่มมีอาการปวดข้อ หรือรู้สึกว่ากระดูกอ่อนแอลง อันนี้อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายขาดแคลเซียม
ต้องอธิบายแบบนี้นะว่า กระดูกของเราต้องการแคลเซียมตลอดเวลา ถ้าร่างกายไม่ได้รับแคลเซียมเพียงพอ มันจะดึงแคลเซียมจากกระดูกมาใช้ ส่งผลให้กระดูกบางลง เปราะขึ้น และเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน
วิธีป้องกัน
•กินอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียม เช่น อัลมอนด์ งาดำ ปลาเล็กปลาน้อย
•ออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก เช่น การยกน้ำหนัก หรือโยคะ
•หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน เพราะอาจทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมากขึ้น

3. ฟันไม่แข็งแรง เสียวฟันง่าย
หลายคนดูแลความสะอาดช่องปากดีแล้ว ไปหาหมอฟันก็บ่อย แต่ก็ยังฟันผุบ่อยๆ ฟันแตกง่ายๆ นี่อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายของคุณกำลังขาดแคลเซียม
ต้องบอกแบบนี้นะว่า ฟันของเรามีเคลือบฟันที่ช่วยปกป้องจากการสึกหรอ ซึ่งแคลเซียมเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้เคลือบฟัน หากขาดแคลเซียม เคลือบฟันจะบางลง
ทำให้เสียวฟันง่าย ฟันผุเร็ว และอาจทำให้ฟันเปราะแตกได้
วิธีดูแลฟันให้แข็งแรง
•ดื่มนม หรือเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม เช่น ใบยอ ปลาเล็กปลาน้อย
•หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรดสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำมะนาว หรืออาหารที่มีน้ำตาลมาก เพราะอาจทำให้เคลือบฟันสึกกร่อนเร็วขึ้น
•แปรงฟันอย่างถูกวิธี และใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ช่วยเสริมความแข็งแรงของฟัน
4. อารมณ์แปรปรวน เครียดง่าย และนอนไม่หลับ
บางคนอาจจะมีเรื่องของรู้สึกหงุดหงิดง่าย เครียดบ่อยๆแบบไม่มีสาเหตุ หรือมีปัญหานอนไม่หลับอาจ อันนี้ก็เป็นอีกสัญญาณว่าร่างกายกำลังขาดแคลเซียม
อธิบายง่ายๆคือ แคลเซียมมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางและช่วยควบคุมสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเกี่ยวข้องกับอารมณ์และความรู้สึกสงบ
ถ้าขาดแคลเซียม อาจทำให้เกิดอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ
วิธีแก้ไข
•รับประทานอาหารที่ช่วยให้สมองผ่อนคลาย เช่น อาหารที่มีแคลเซียมสูง ปลา และถั่ว
•หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหรือชาเยอะเกินไป โดยเฉพาะก่อนนอน
•ลองฝึกสมาธิหรือโยคะเพื่อลดความเครียด
5. เล็บเปราะ ผมร่วง และผิวแห้ง
ถ้าคุณสังเกตว่าเล็บของตัวเองหักง่ายขึ้น ผมร่วงมากขึ้น หรือผิวแห้งจนแตกลอก ร่างกายอาจจะกำลังขาดแคลเซียมนะ
เพราะว่าแคลเซียมช่วยให้เซลล์ในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ รวมถึงเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเส้นผม เล็บ และผิวหนัง ถ้าขาดแคลเซียม อาจทำให้เล็บเปราะ ผมร่วง และผิวขาดความชุ่มชื้น
วิธีแก้ไข
•ดื่มน้ำให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น งาดำ อัลมอนด์
•ใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุ เช่น แคลเซียมและแมกนีเซียม
•หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรงกับผิวและเส้นผม
ต้องบอกแบบนี้นะว่า ร่างกายของเราต้องการแคลเซียมทุกวัน ถ้าคุณมีอาการข้างต้น อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณต้องการแคลเซียมเพิ่ม ลองปรับพฤติกรรมการกิน ออกกำลังกาย และรับแสงแดดให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเหมาะสม รวมถึงถ้าใครอยากกินเป็นอาหารเสริมอันนี้ก็ทำได้นะ แต่ต้องเลือกรูปแบบให้ดีๆ และกินในปริมาณที่เหมาะสม แคลเซียมไม่ใช่แค่เรื่องของกระดูก แต่เกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยรวมของเรา การดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ จะช่วยให้เราแข็งแรงและมีชีวิตที่มีคุณภาพไปอีกยาว ๆ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– โรงพยาบาลบางปะกอก1
– เพจ หมอเจด
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM