มะเร็งช่องปาก 10 อันดับแรกของมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย

มะเร็งช่องปากเป็นโรคที่ติด 10 อันดับแรกของมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่มีความรุนแรง และมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากกว่าร้อยละ 50 

อาการ

  • ลักษณะเด่น แดง-ขาว-แผล-ก้อน
  • รอยโรคคล้ายแผลร้อนใน แต่ไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์
  • แผลจะใหญ่ขึ้นเป็นก้อนเนื้อบวมโต ผู้ป่วยอาจรู้สึกเหมือนมีก้อนติดอยู่ในลำคอ
  • อาจมีอาการชา เจ็บปวด หรือมีเลือดไหลในช่องปากโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • มีอาการกลืน เคี้ยวอาหารลำบาก พูดและอ้าปากได้น้อย เสียงเปลี่ยน เจ็บในหู 
  • น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว 

ปัจจัยเสี่ยง

  1. การสูบบุหรี่ จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งช่องปากมากขึ้นถึง 6 เท่า 
  2. การดื่มสุรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูบบุหรี่ร่วมกับดื่มสุรา เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น 15 เท่า
  3. การเคี้ยวหมากพลู สูบยาเส้นหรือยาฉุน ซึ่งมีสารก่อมะเร็งเจือปนอยู่
  4. พันธุกรรม ผู้ป่วยที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งช่องปาก มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมากกว่าคนทั่วไป 
  5. มีบาดแผลเรื้อรังในช่องปากจากพันผุ ฟันบิ่น ฟันปลอมหลวม ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองซ้ำๆ จนเนื้อเยื่อเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็ง
  6. โรคติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก พบว่าสามารถทำให้เกิดมะเร็งในช่องปากได้ โดยเฉพาะสายพันธุ์ 16 (HPV 16)

การป้องกันเพื่อลดความเสี่ยง

  1. ลดความเสี่ยงในการทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก เช่น ลดการสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การเคี้ยวหมากพลู การสูบยาเส้น หรือ ยาฉุน
  2. รับประทานอาหาร ผักและผลไม้หลากหลายชนิดที่อุดมไปด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ
  3. ดูแลรักษาสุขภาพของช่องปากและฟันด้วยตนเองให้สะอาดอยู่เสมอ ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันทุก 6 เดือน หากมีความผิดปกติใดๆ เช่น ฟันผุ ฟันบิ่น ฟันปลอมหลวม ให้รีบพบทันตแพทย์

การรักษา

มีหลายวิธี เช่น การผ่าตัด การให้รังสีวิทยา การรักษาด้วยเคมีบำบัด การใช้ยาเจาะจงเซลล์มะเร็ง (Target Drug Therapy)


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– ทพญ.วิภาพร พรสินศิริรักษ์
– web pobpad

เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี