เริม (Herpes Simplex Virus – HSV) เป็นไวรัสที่ติดต่อผ่านทางผิวหนังและของเหลวในร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงที่มีแผลหรือผื่นชัดเจน จึงทำให้การมีเพศสัมพันธ์เป็นช่องทางการแพร่เชื้อสำคัญ โดยเฉพาะเริมอวัยวะเพศ (HSV-2)
มีเพศสัมพันธ์ตอนเป็นเริมได้ไหม?
ไม่แนะนำอย่างยิ่ง ในช่วงที่มีอาการ เช่น แผลเริม ผื่น แสบ คัน หรือรู้สึกตึงที่อวัยวะเพศ เพราะเชื้อสามารถแพร่ได้ง่ายมากผ่านการสัมผัสโดยตรง แม้จะไม่มีการสอดใส่ก็ตาม
การแพร่เชื้อเริมระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- เชื้อ HSV-2 มักแพร่โดยตรงผ่านแผล หรือผิวหนังที่มีไวรัส
- แม้ไม่มีแผลให้เห็น (ระยะฟักตัว) ก็ยังสามารถแพร่เชื้อได้
- การใช้ถุงยางอนามัยสามารถลดความเสี่ยงได้ “แต่ไม่ป้องกัน 100%” เพราะเริมอาจอยู่ที่บริเวณนอกเหนือถุงยาง เช่น ขาหนีบ ต้นขา หรือทวารหนัก
คำแนะนำหากคุณหรือคู่ของคุณมีเริม
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ขณะมีอาการ โดยเฉพาะช่วงมีแผลหรือตุ่มใส
- หากมีอาการเตือน เช่น ปวดตึง คัน หรือระคายเคือง ควรงดไว้ก่อน
- หากจำเป็น ต้อง ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
- พิจารณาการใช้ ยาต้านไวรัสแบบต่อเนื่อง (suppressive therapy) หากเป็นเริมบ่อย
- ปรึกษาด้านยา หรือเภสัชกรได้ที่ร้านขายยาคุณภาพ เพื่อเลือกแนวทางลดโอกาสแพร่เชื้อให้คู่
สิ่งที่ไม่ควรทำ
- 🚫 คิดว่าไม่มีตุ่มหรือแผลแสดงว่าไม่แพร่เชื้อ
- 🚫 มีเพศสัมพันธ์โดยไม่บอกคู่ถึงประวัติการเป็นเริม
- 🚫 ใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีเดียวในการป้องกันโดยไม่รู้วิธีอื่นเสริม
- 🚫 ปล่อยให้แผลกำเริบบ่อยโดยไม่รักษา
อ่านเพิ่มเติม: [เริมกับการตั้งครรภ์ – อันตรายต่อลูกไหม? ต้องดูแลอย่างไร?]

ถาม-ตอบสั้น ๆ
Q: หากเคยเป็นเริมแล้ว ต้องป้องกันตลอดชีวิตไหม?
A: ใช่ เพราะเริมไม่มีทางหายขาด และอาจกำเริบหรือแพร่เชื้อแม้ไม่มีแผล
Q: มีเริมที่ปาก จะติดที่อวัยวะเพศได้ไหม?
A: ได้ หากมีการสัมผัสปากกับอวัยวะเพศ (oral sex)
ข้อมูลอ้างอิง (References):
- CDC. Herpes and Sexual Activity. cdc.gov
- Mayo Clinic. Genital herpes and safe sex. mayoclinic.org
- NHS. Herpes Simplex Virus and sexual transmission. nhs.uk
เรียบเรียงข้อมูลโดย www.chulalakpharmacy.com