เริม (Herpes Simplex Virus – HSV) เป็นไวรัสที่แฝงตัวอยู่ในร่างกายตลอดชีวิต และสามารถ “กำเริบซ้ำ” ได้ โดยเฉพาะเมื่อร่างกายอ่อนแอ เครียด หรือพักผ่อนไม่พอ แม้ว่าแผลเริมจะหายแล้ว แต่หลายคนสงสัยว่า…
“เรายังแพร่เชื้อให้ผู้อื่นอยู่หรือไม่?
- คำตอบคือ อาจยังแพร่ได้ แม้ไม่มีแผลให้เห็นแล้ว
เริมหายแล้ว…แต่ไวรัสยังอยู่?
✅ ใช่ – แม้แผลภายนอกจะหายดี ผิวหนังแห้งสนิทแล้ว
ไวรัส HSV ยังอาศัยอยู่ในปมประสาทใต้ผิวหนัง และบางครั้งสามารถ “ขับออกมา” บริเวณผิว โดยไม่มีแผลหรือตุ่มน้ำใสปรากฏให้เห็น เรียกว่า Asymptomatic Shedding (การหลั่งเชื้อแบบไม่มีอาการ)
📌 ผู้ติดเชื้ออาจยัง “แพร่เชื้อ” โดยไม่รู้ตัว
ช่วงที่ยังมีความเสี่ยงแพร่เชื้อแม้แผลหาย
- ช่วง 3–5 วันหลังแผลแห้ง (ยังอาจมีไวรัสหลงเหลือ)
- หากสัมผัสกับบริเวณที่เคยเป็นแผลบ่อย ๆ
- ขณะมีความเครียด, ป่วย, พักผ่อนน้อย (แม้ไม่มีแผลขึ้นใหม่)
วิธีลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหลังแผลเริมหาย
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสทางปากหรืออวัยวะเพศอย่างน้อย 7 วันหลังแผลแห้ง
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งหากมีเพศสัมพันธ์
- ล้างมือบ่อย โดยเฉพาะหลังสัมผัสใบหน้า หรือบริเวณที่เคยเป็นแผล
- หากเป็นเริมกำเริบบ่อย ควรพิจารณาใช้ ยาต้านไวรัสแบบต่อเนื่อง (Suppressive therapy)
- ปรึกษาด้านยา หรือเภสัชกรได้ที่ร้านขายยาคุณภาพ เพื่อประเมินวิธีป้องกันการแพร่เชื้อในระยะยาว
สิ่งที่ไม่ควรเข้าใจผิด
- 🚫 คิดว่า “แผลหายแล้วคือปลอดภัย 100%”
- 🚫 ใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น ลิปสติก ผ้าเช็ดหน้า
- 🚫 มีเพศสัมพันธ์หรือ oral sex โดยไม่ใช้การป้องกัน
- 🚫 ละเลยสัญญาณเตือนว่าแผลอาจกำเริบอีกครั้ง (เช่น ตึง คัน แสบ)
อ่านเพิ่มเติม: [มีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นเริมได้ไหม? ควรหลีกเลี่ยงหรือป้องกันอย่างไร?]
แม้แผลเริมจะหายแล้ว คุณอาจ ยังเป็นพาหะที่แพร่เชื้อได้ โดยไม่มีอาการ
การระมัดระวังต่อไปอีก 1–2 สัปดาห์หลังแผลหาย เป็นวิธีป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้อย่างปลอดภัย
ข้อมูลอ้างอิง (References):
- CDC. Herpes Simplex: Transmission after healing. cdc.gov
- Mayo Clinic. Asymptomatic shedding in HSV. mayoclinic.org
- NHS. Herpes virus and viral shedding. nhs.uk
เรียงข้อมูลโดย www.chulalakpharmacy.com