ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ ดื่มรวดเดียวถึงตาย สายปาร์ตี้ต้องระวัง

งานปาร์ตี้หรือการเฉลิมฉลองไม่ว่าจะเทศกาลไหน เครื่องดื่มคู่ใจคงหนีไม่พ้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นตัวช่วยทำให้บรรยากาศสนุกมากขึ้น แต่อันตรายที่แฝงตัวอยู่ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกจากจะทำให้เมาไม่มีสติแล้ว อาจเกิดภาวะที่เรียกว่า แอลกอฮอล์เป็นพิษ ซึ่งมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

แอลกอฮอล์เป็นพิษ คืออะไร ?

ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ (alcohol poisoning) คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 400 มิลลิกรัม ทำให้ตับไม่สามารถขับออกจากเลือด การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดในปริมาณมากและดื่มแบบรวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้ตับไม่สามารถขับสารนี้ออกจากเลือดได้ทัน ระบบการทำงานของร่างกายรวนจนเกิดภาวะช็อกที่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้

สาเหตุแอลกอฮอล์เป็นพิษ

การดื่มของมึนเมาจนมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป  เสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้สูงมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เหล่านี้

  • การดูดซึมสารในร่างกายของแต่ละบุคคล
  • ปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ ในแต่ละชนิดของเครื่องดื่ม
  • เพศหญิงจะมีปฏิกิริยาต่อแอลกอฮอล์ได้ไวกว่าผู้ชาย

อาการแอลกอฮอล์เป็นพิษ

  • สับสน พูดไม่รู้เรื่อง
  • น้ำตาลในเลือดต่ำ
  • ง่วงซึม
  • อาเจียน
  • ผิวหนังซีด
  • หมดสติไม่รู้ตัว
  • ทรงตัวไม่ได้
  • หัวใจวายเฉียบพลัน
  • หายใจผิดปกติ เกิดอาการชัก

วิธีปฐมพยาบาล

1.โทรแจ้งหน่วยกู้ชีพ 1669

2.ปลุกผู้ป่วยให้ตื่นอยู่และพยุงให้อยู่ในท่านั่ง

3.ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเปล่า

4.คอยสังเกตอาการอย่าให้ผู้ป่วยหลับจนกว่ารถพยาบาลจะมา

5.ผู้ป่วยหมดสติให้นอนตะแคง

6.ทำการกู้ชีพ CPR หากหยุดหายใจ

ลักษณะอาการที่อาจพบและระดับแอลกอฮอล์ในเลือด (หน่วยเป็น มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หรือ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์)

  • 20 – 49 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อารมณ์ดี ผ่อนคลาย และการตัดสินใจช้าลงเล็กน้อย
  • 50 – 99 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เริ่มเสียการทรงตัว ควบคุมตัวเองได้น้อยลง และตอบสนองช้าลง
  • 100 – 199 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เดินเซ กล้ามเนื้อทำงานไม่สัมพันธ์กัน
  • 200 – 299 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ คลื่นไส้ อาเจียน การรับรู้ลดลง และจำเหตุการณ์ไม่ได้
  • 300 – 399 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หมดสติ ชีพจรลดลง และอุณหภูมิร่างกายลดลง
  • มากกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีโอกาสหยุดหายใจและเสียชีวิตได้

การตอบสนองต่อระดับแอลกอฮอล์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล แม้ระดับจะน้อยกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็อาจเสี่ยงจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือการนอนหลับลึกในท่าผิดปกติที่อุดกั้นทางเดินหายใจได้ เช่น การนอนคอพาดกับระเบียงจนกดทางเดินหายใจ

ผลกระทบต่อร่างกายจากการดื่มแอลกอฮอล์

  • หัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติ ไม่แข็งแรง เกิดหัวใจวายได้ง่าย
  • ตับ เกิดโรคตับแข็ง ตับที่ถูกทำลายจากแอลกอฮอล์จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดี เช่น การย่อยสลายสารอาหารหรือการเปลี่ยนแปลงของยาที่รับประทานเข้าไป บางรายอาจมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง หรืออาเจียนเป็นเลือด
  • ผิวหน้า หลอดเลือดขยายตัว ผิวหน้าจะเป็นสีแดงเรื่อ ๆ ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนออกจากทางผิวหน้า บางครั้งอาจเกิดอาการหนาวสั่นหรือเกิดโรคปอดบวมได้ง่ายในฤดูหนาว
  • สมอง แอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดการทำงานของสมองจะทำให้ความจำเสื่อม การตัดสินใจไม่ดี สมาธิเสีย โกรธง่าย พูดช้าลง สายตาพร่ามัว และเสียการทรงตัว
  • กระเพาะอาหารอักเสบฉับพลันบางครั้งทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร
  • ระบบสืบพันธุ์

– เพศชายเกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

– ผู้หญิงตั้งครรภ์จะมีผลต่อทารกทั้งทางร่างกายและจิตใจ

  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งตับ มะเร็งช่องปากและลำคอ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านม

ดื่มอย่างไรถึงจะปลอดภัย

  • กินอาหารรองท้องก่อนดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมได้เร็วเมื่อท้องว่าง
  • ไม่ควรดื่มติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแบบแก้วต่อแก้วหรือดื่มครั้งละมาก ๆ
  • เมื่อเริ่มมีอาการมึนหัวให้ลดปริมาณการดื่มหรือหยุดดื่มทันที
  • อย่าดื่มจนเมาเกินไป

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มความสุข สนุกสนาน แต่ข้อเสียของมันก็ส่งผลเสียร้ายแรงต่อร่างกาย เพราะฉะนั้นควรดื่มแต่พอประมาณ พอดี ไม่หักโหมจนเกินไปเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตได้


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– โรงพยาบาลเพชรเวช
– คณะแพทยศาตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี