อะลิสคิเรน (Aliskiren) คือ ยาบำบัดรักษาโรคความดันโลหิตสูง เป็นยาตัวแรกในกลุ่ม เรนินอินฮิบิเตอร์(Renin inhibitor) ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา เดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2550 ใช้สำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูงระดับอ่อนถึงปานกลาง สามารถใช้เป็นทั้งยาเดี่ยวหรือจะใช้ร่วมกับยาอื่นในการบำบัดอาการของโรคก็ได้ กลไกหลักๆของยานี้จะทำให้ผนังหลอดเลือดเกิดการขยายตัวส่งผลให้เลือดไหล เวียนได้สะดวกขึ้น และหัวใจใช้แรงบีบตัวในการสูบฉีดเลือดน้อยลง ความดันโลหิตจึงลดลงได้ รูปแบบยาแผนปัจจุบันของยานี้จะเป็นยาชนิดรับประทาน ซึ่งมีการดูดซึมจากระบบทาง เดินอาหาร และกระจายตัวในร่างกายได้ต่ำเพียงประมาณ 2.5% เท่านั้น ตับจะคอยทำลายหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของยานี้อย่างต่อเนื่อง ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงเป็นอย่าง ต่ำเพื่อกำจัดยา 50% ออกจากกระแสเลือดโดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะ
ข้อบ่งใช้
- รักษาโรคความดันโลหิตสูง/ยาลดความดัน
กลไกการออกฤทธิ์
กลไกการออกฤทธิ์ของยาอะลิสคิเรน คือ ตัวยาจะเข้าจับกับเอนไซม์ที่มีชื่อว่า เรนิน (Renin, เอนไซม์เกี่ยวข้องกับการทำงานของสาร Angiotensinogen) ซึ่งพบในกระแสเลือด เอนไซม์เรนินมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนสาร Angiotensinogen (สารเกี่ยวข้องกับการควบคุมความดันโลหิต)ไปเป็นสาร Angiotensin I (สารตั้งต้นของ Angiotensin II) มีผลต่อเนื่องให้ร่างกายเกิดการขาดสาร Angiotensin II ติดตามมาส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวจึงทำให้ความดันโลหิตกลับมาเป็นปกติ
รูปแบบ
- เป็นยาเม็ดชนิดรับประทาน ขนาด 150 และ 300 มิลลิกรัม/เม็ด
ปริมาณการใช้ยา
- ผู้ใหญ่: รับประทาน 150 มิลลิกรัมวันละ1ครั้ง หากอาการความดันโลหิตสูงยังลดลงได้ไม่ดีพอแพทย์อาจปรับขนาดรับประทานเป็น 300 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง
- เด็ก (นิยามคำว่าเด็ก) และผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี: ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดถึงผลข้างเคียงของยานี้ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ การใช้ยานี้ในผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณีๆไป
- ไม่จำเป็นต้องปรับขนาดรับประทานในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคตับ หรือโรคไต
- ขนาดรับประทานที่ 300 มิลลิกรัม/วันอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
- ขนาดรับประทานที่มากกว่า 300 มิลลิกรัม/วันไม่ทำให้การตอบสนองของความดันโลหิตลดลงไปมากกว่านี้
- สามารถรับประทานยานี้ก่อนหรือพร้อมอาหารก็ได้
หมายเหตุ
ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ผลข้างเคียง
ยาอะลิสคิเรนสามารถก่อให้เกิดผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา(ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง) เช่น
- ปวดตามร่างกาย
- หนาวสั่น
- ไอ, จาม
- ท้องเสีย
- อึดอัด/หายใจลำบาก
- ปวดหัว
- เสียงแหบ
- คัดจมูก
- เจ็บคอ/ คออักเสบ
- อ่อนเพลีย
- ปวดข้อ
ข้อควรระวังการใช้ยาอะลิสคิเรน
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยาอะลิสคิเรนรวมกับยากลุ่ม ACE inhibitors, หรือกลุ่มยา Angiotensin II receptor antagonists, ในผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2
- ห้ามปรับขนาดรับประทานยานี้ด้วยตนเอง
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์ผู้รักษา
- หากพบอาการบวมตามร่างกายหลังใช้ยานี้ให้หยุดการใช้ยานี้ แล้วรีบกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็ว
- หมั่นตรวจสอบความดันโลหิตของตนเองขณะที่ใช้ยานี้
- มาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- 10.ห้ามเก็บยาหมดอายุ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– haamor.com
– ejournals.swu.ac.th
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM