ยา Cefuroxime (เซฟูรอกซิม) – ข้อมูล ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียง

ข้อบ่งใช้

ยา เซฟูรอกซิม (Cefuroxime) คือ ยาปฏิชีวนะในกลุ่มยาเซฟาโลสปอริน (cephalosporin antibiotic) ทำงานโดยการยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย มีฤทธิ์ช่วยจำกัดเชื้อแบคทีเรียหลากหลายชนิด รวมทั้งเชื้อแบคทีเรียชนิดที่รุนแรงหรืออาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งยานี้ถูกนำมาใช้รักษาโรคต่าง ๆ อย่างการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หนองในแท้ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคลายม์ และโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ และยังอาจใช้ก่อนและขณะการผ่าตัด เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ

เซฟูรอกซิมมีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?

ยาเซฟูรอกซิมมีกลไกการออกฤทธิ์โดยตัวยาจะรบกวนการสังเคราะห์สารเปปทิโดไกลแคน (Peptidoglycan) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผนังเซลล์ในแบคทีเรีย ส่งผลให้แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโต ขาดคุณสมบัติในการแพร่พันธุ์และตายในที่สุด จากกลไกที่กล่าวมาจึงทำให้มีฤทธิ์การรักษาตามสรรพคุณ

รูปแบบของยาเซฟูรอกซิม

  • ยาเม็ดชนิดรับประทานขนาด 125, 250 และ 500 มิลลิกรัม/เม็ด
  • ยาแคปซูลชนิดรับประทานขนาด 250 มิลลิกรัม/แคปซูล
  • ยาน้ำชนิดรับประทานขนาด 125 และ 250 มิลลิกรัม/5 มิลลิลิตร
  • ยาฉีดขนาด 750 และ 1,500 มิลลิกรัม/ขวด

ปริมาณการใช้ยา Cefuroxime

ป้องกันการติดเชื้อจากการผ่าตัด

ยาฉีด

ผู้ใหญ่ ให้ยา Cefuroxime Na ปริมาณ 1.5 กรัม เข้าทางหลอดเลือดดำก่อนการผ่าตัด จากนั้นฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อปริมาณ 750 มิลลิกรัม ทุก 8 ชั่วโมง ในช่วงเวลา 24-48 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการผ่าตัด สำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อต่อ ให้ยาปริมาณ 1.5 กรัม และอาจผสมยากับซีเมนต์เมทิลเมทาคริเลต

รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

ยารับประทาน

  • ผู้ใหญ่ รับประทานยา Cefuroxime Axetil ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
  • เด็กอายุ 3 เดือน-2 ปี รับประทานยาครั้งละ 10 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ 2 ครั้ง ปริมาณยาสูงสุดไม่เกินครั้งละ 125 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
  • เด็กอายุมากกว่า 2 ปี รับประทานยาครั้งละ 15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ปริมาณยาสูงสุดไม่เกินครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

ยาฉีด

  • ผู้ใหญ่ ฉีดยา 0.75 กรัม เข้ากล้ามเนื้อชั้นลึก หรือให้ยาทางหลอดเลือดดำอย่างช้า ๆ 3-5 นาที ทุก 8 ชั่วโมง หากมีการติดเชื้อรุนแรงสามารถเพิ่มปริมาณได้ไม่เกิน 1.5 กรัม ทุก 6-8 ชั่วโมง
  • เด็กอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3 สัปดาห์ ให้ยาวันละ 30-100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ยา 2-3 ครั้ง
  • เด็กอายุมากกว่า 3 สัปดาห์ น้ำหนักน้อยกว่า 40 กิโลกรัม ให้ยาวันละ 30-100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ยา 3-4 ครั้ง ส่วนใหญ่จะให้ยาวันละ 60 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

รักษาการติดเชื้อหนองในแท้ชนิดไม่ซับซ้อน

ยารับประทาน

  • ผู้ใหญ่ รับประทานยา Cefuroxime Axetil 1 กรัม 1 ครั้ง และอาจรับประทานควบคู่กับยาโพรเบเนซิดชนิดรับประทาน 1 กรัม
  • ยาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ให้ยา Cefuroxime Na ในปริมาณ 1.5 กรัม 1 ครั้ง โดยแบ่งฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ที่ และอาจใช้ควบคู่กับยาโพรเบเนซิดชนิดรับประทาน 1 กรัมด้วย

รักษาภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

ยาฉีด

  • ผู้ใหญ่ ให้ยา Cefuroxime Na ทางหลอดเลือดดำ ปริมาณ 3 กรัม ทุก 8 ชั่วโมง
  • เด็กอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3 สัปดาห์ ให้ยาวันละ 30-100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ยา 2-3 ครั้ง
  • เด็กอายุมากกว่า 3 สัปดาห์ น้ำหนักน้อยกว่า 40 กิโลกรัม ให้ยาวันละ 30-100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ยา 3-4 ครั้ง ส่วนใหญ่จะให้ยาวันละ 60 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

รักษาการติดเชื้อทางเดินหายใจ

ยารับประทาน

  • ผู้ใหญ่ รับประทานยาครั้งละ 250-500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
  • เด็กอายุ 3 เดือน-2 ปี รับประทานยาครั้งละ 10 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ 2 ครั้ง ปริมาณยาสูงสุดไม่เกินครั้งละ 125 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
  • เด็กอายุมากกว่า 2 ปี รับประทานยาครั้งละ 15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ปริมาณสูงสุดไม่เกินครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

รักษาภาวะปอดบวม

ยาฉีด

  • ผู้ใหญ่ ฉีดยา 1.5 กรัม เข้ากล้ามเนื้อชั้นลึก หรือให้ยาทางหลอดเลือดดำอย่างช้า ๆ 3-5 นาที วันละ 2 ครั้ง ตามด้วยยาชนิดรับประทาน 0.5 กรัม วันละ 2 ครั้ง
  • เด็กอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3 สัปดาห์ ให้ยาวันละ 30-100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ยา 2-3 ครั้ง
  • เด็กอายุมากกว่า 3 สัปดาห์ น้ำหนักน้อยกว่า 40 กิโลกรัม ให้ยาวันละ 30-100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ 3-4 ครั้ง ส่วนใหญ่จะให้ยาวันละ 60 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

รักษาอาการกำเริบของโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง

ยาฉีด

  • ผู้ใหญ่ ฉีดยา 750 มิลลิกรัม เข้ากล้ามเนื้อชั้นลึก หรือให้ยาทางหลอดเลือดดำอย่างช้า ๆ 3-5 นาที ตามด้วยยาชนิดรับประทาน 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
  • เด็กอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3 สัปดาห์ ให้ยาวันละ 30-100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ยา 2-3 ครั้ง
  • เด็กอายุมากกว่า 3 สัปดาห์ น้ำหนักน้อยกว่า 40 กิโลกรัม ให้ยาวันละ 30-100 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ยา 3-4 ครั้ง ส่วนใหญ่จะให้ยาวันละ 60 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

รักษาโรคลายม์

ยารับประทาน

  • ผู้ใหญ่ รับประทานยา Cefuroxime Axetil ครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 20 วัน
  • เด็กอายุ 3 เดือน-2 ปี รับประทานยาครั้งละ 10 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ 2 ครั้ง ปริมาณยาสูงสุดไม่เกินครั้งละ 125 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
  • เด็กอายุมากกว่า 2 ปี รับประทานยาครั้งละ 15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ปริมาณยาสูงสุดไม่เกินครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

รักษาการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะแบบไม่ซับซ้อน

ยารับประทาน

  • ผู้ใหญ่ รับประทานยาครั้งละ 125 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
  • เด็กอายุ 3 เดือน-2 ปี รับประทานยาครั้งละ 10 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ 2 ครั้ง ปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 125 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
  • เด็กอายุมากกว่า 2 ปี รับประทานยาครั้งละ 15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ปริมาณยาสูงสุดไม่เกินครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง

การใช้ Cefuroxime

  1. ปฏิบัติตามฉลากยาและตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามรับประทานยาในปริมาณมากกว่าหรือน้อยกว่าที่แนะนำ เพราะอาจทำให้การรักษาไม่ได้ผลหรือเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
  2. รับประทานยาได้ทั้งก่อนหรือหลังอาหาร แต่ควรรับประทานยาชนิดน้ำหลังอาหาร
  3. ก่อนรับประทานยาน้ำควรเขย่าขวดทุกครั้ง และวัดปริมาณยาด้วยอุปกรณ์ตวงยาที่ได้มาตรฐาน
  4. ใช้ยาให้ครบตามกำหนดแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันภาวะดื้อยาเมื่อเกิดการติดเชื้อซ้ำ
  5. ไม่สามารถใช้ยานี้รักษาโรคติดเชื้อไวรัสได้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดธรรมดา เป็นต้น
  6. ยานี้อาจทำให้ผลการตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะผิดปกติได้ ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่ากำลังใช้ยานี้ก่อนเข้ารับการตรวจเสมอ
  7. ควรเก็บยาไว้ในบรรจุภัณฑ์อย่างมิดชิดที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความร้อนและความชื้น ห้ามแช่ไว้ในช่องแช่แข็ง และหากไม่ได้ใช้ยาติดต่อกันนานกว่า 10 วัน ให้ทิ้งยาที่เปิดใช้แล้วไป

ข้อควรระวังการใช้ยาเซฟูรอกซิม

  • ห้ามใช้กับผู้แพ้ยานี้
  • ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง
  • ห้ามใช้ยาที่มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม
  • ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร เด็ก และผู้สูงอายุ โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
  • การใช้ยานี้ต้องให้ครบคอร์สการรักษาตามแพทย์สั่ง
  • ยานี้ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย ไม่สามารถนำมารักษาการติดเชื้อไวรัสได้เพราะยานี้จะไม่ฆ่า/ต้านไวรัส
  • การใช้ยานี้เป็นเวลานานบ่อยๆซ้ำๆอาจทำให้เกิดการติดเชื้อโรคชนิดอื่นที่ยานี้ไม่สามารถต่อต้านได้เช่น เชื้อรา เป็นต้น
  • ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วยตัวยาอาจส่งผลต่อการทดสอบระดับน้ำตาลในเลือดได้
  • ผู้ป่วยกลุ่มผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะได้รับอาการข้างเคียงหรือเกิดภาวะแพ้ยานี้ได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น
  • หากเกิดอาการแพ้ยานี้ถึงแม้จะเป็นการแพ้เพียงครั้งแรกให้หยุดการใช้ยานี้ทันทีแล้วรีบพาตัวผู้ป่วยมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลโดยเร็วทันที/ฉุกเฉิน
  • กรณียารับประทานที่ผู้ป่วยใช้ไปตามระยะเวลาอันเหมาะสมแต่อาการยังไม่ดีขึ้น ต้องรีบพาผู้ป่วยกลับมาพบแพทย์/มาโรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อแพทย์พิจารณาปรับแนวทางการรักษา
  • ปฏิบัติตัวตามคำสั่งแพทย์และมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
  • ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • ห้ามเก็บยาหมดอายุ

ผลข้างเคียงของการใช้ยาเซฟูรอกซิม

รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ ติดต่อแพทย์ในทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรง ได้แก่

  1. ท้องร่วงถ่ายเหลวเป็นน้ำ หรือมีเลือด
  2. เป็นไข้ หนาวสั่น ปวดร่างกาย มีอาการของไข้หวัดใหญ่
  3. ปวดหน้าอกหรือหัวใจเต้นรัว
  4. มีเลือดออกที่ผิดปกติ
  5. มีเลือดในปัสสาวะ
  6. มีอาการชัก
  7. ผิวซีดหรือเป็นสีเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม เป็นไข้ สับสน หรืออ่อนแรง
  8. ดีซ่าน (ผิวหนังหรือดวงตาเป็นสีเหลือง)
  9. เป็นไข้ เจ็บคอ และปวดหัวโดยมีแผลพุพอง ผิวลอก และผื่นผิวหนังสีแดงที่รุนแรง
  10. ผื่นผิวหนัง รอยช้ำ มีอาการเหน็บ ชา ปวด และกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่รุนแรง
  11. กระหายน้ำมากขึ้น เบื่ออาหาร บวม น้ำหนักขึ้น รู้สึกหายใจไม่อิ่ม
  12. รู้สึกเจ็บปวดขณะปัสสาวะหรือปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะน้อยกว่าปกติหรือไม่ปัสสาวะเลย

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ยาเซฟูรอกซิมอาจเกิดอันตรกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– HDmall.co.th 
– เว็บหาหมอ.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

ยังไม่มีบัญชี