อาการไอแห้งและวิธีการเลือกยารับประทาน

สักษณะของอาการไอแห้ง

ไอแห้งเป็นอาการไอที่ไม่มีเสมหะหรือเมือก ไอเป็นเสียงแหบหรือเสียงดังก้อง เสียงไอคล้ายแค่นไอ บางรายอาจรู้สึกระคายเคืองหรือคันในลำคอร่วมด้วย เนื่องจากเสมหะหรือเมือกสร้างความระคายเคืองแต่ขับออกไม่ได้จนทำให้ไอ หรือมีสารบางอย่างมากระตุ้นให้ไอ

โดยสาเหตุของอาการไอแห้งนั้นมีอยู่หลากหลาย ตั้งแต่การสูบบุหรี่ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษติดต่อกันเป็นเวลานาน เจอฝุ่นควัน รวมทั้งอาจเป็นผลจากบางปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหืด กรดไหลย้อน เสมหะในคอ โรคภูมิแพ้โควิด-19 หากอาการไอแห้งเป็นผลมาจากโรคต่าง ๆ ในข้างต้น การรักษาโรคเหล่านี้อาจช่วยให้อาการไอแห้งบรรเทาลงได้

นอกจากนี้ อาการไอแห้งยังสามารถบรรเทาและรักษาได้ด้วยหลายวิธีต่อไปนี้

ใช้ยา

ในเบื้องต้นสามารถรับประทานยากดอาการไอ (Antitussives) อย่างยาโคเดอีน (Codeine) หรือยาเดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการไอแห้ง อาการกระคายเคืองคอที่ไม่มีเสมหะ อาการเจ็บคอหรือต้องตื่นกลางดึกเนื่องจากอาการไอ แต่เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาในกลุ่มนี้
หากอาการไอแห้งมีสาเหตุจากความผิดปกติของไซนัสหรือหลอดเลือดในจมูก แพทย์หรือเภสัชกรอาจแนะนำให้ใช้ยาหดหลอดเลือด (Decongestant) โดยตัวยาจะทำให้หลอดเลือดหดตัวและลดอาการบวมของเนื้อเยื่อในจมูก แต่ยากลุ่มนี้ไม่ควรใช้ยาติดต่อกันเกิน 3–5 วัน เพราะอาจทำให้ร่างกายผลิตเสมหะและอาการอุดตันภายในทางเดินหายใจรุนแรงมากขึ้นได้

ส่วนใครที่มีอาการไอแห้งร่วมกับอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น มีไข้ หายใจไม่อิ่ม ไอหรือหายใจเป็นเสียงหวีด หรือไอติดต่อกันนานกว่า 2–3 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาแก้ไอ และไม่ควรใช้ยาแก้ไอนานกว่า 7 วัน เพราะอาจเป็นการปกปิดสาเหตุของอาการไอแห้งที่แท้จริงได้ นอกจากนี้ เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ไม่ควรใช้ยาแก้ไอหรือยาแก้หวัดที่หาซื้อได้ตามร้านทั่วไป

ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ

สมุนไพรชนิดต่าง ๆ อาจช่วยบรรเทาอาการไอแห้งได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม ขมิ้นชัน สะระแหน่ รากชะเอมเทศ รากมาร์ชแมลโลว (Marshmallow Root) หรือไทม์ (Thyme) เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมถึงป้องกันการอักเสบและบรรเทาอาการบวมในลำคอได้

กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ

การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือสามารถบรรเทาอาการอักเสบและช่วยให้อาการไอดีขึ้น โดยสามารถผสมเกลือครึ่งช้อนกับน้ำ 1 แก้ว อมไว้ เงยหน้าขึ้นกลัวคอเป็นเวลาประมาณ 30 วินาทีก่อนจะบ้วนออก และจะต้องไม่กลืนน้ำเกลือโดยเด็ดขาด

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คอชุ่มชื้นและช่วยให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยผู้ป่วยควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน นอกจากน้ำเปล่า อาจรับประทานซุป อาหารเหลวอุ่น ชาสมุนไพร น้ำผลไม้หรือชงน้ำผึ้งกับน้ำอุ่นและมะนาว ซึ่งน้ำผึ้งนั้นมีสรรพคุณต้านการอักเสบในลำคอ ขับเสมหะ บรรเทาอาการเจ็บคอ แต่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือเครื่องดื่มแอลกอฮล์

ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ

เนื่องจากอากาศแห้งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยของการไอ และอาจทำให้เนื้อเยื่อในคออักเสบเพิ่มมากขึ้น การใช้เครื่องเพิ่มความชุ่นชื้นจะช่วยบรรเทาอาการไอและหายใจไม่สะดวก ทั้งนี้ ควรทำความสะอาดเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการเกิดแบคทีเรียหรือเชื้อรา

นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยบรรเทาอาการไอแห้ง อาทิ การรับประทานวิตามินหรืออมยาอมเพื่อให้ร่างกายผลิตน้ำลายได้มากขึ้น การหลีกเลี่ยงสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการไอหรือทำให้อาการไอหายช้าลง อย่างควัน น้ำยาทำความสะอาด น้ำหอม ขนสัตว์หรือละอองเกสร


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– hellokhunmor.com
– เว็บพบแพทย์
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี