เชื่อว่ายังมีอีกหลายๆคนที่เข้าใจผิดคิดว่า ยาแก้อักเสบ กับ ยาฆ่าเชื้อ คือยาตัวเดียวกัน มาทำความรู้จักยา 2 กลุ่มนี้กันให้มากขึ้น
กลุ่มยาแก้อักเสบ
ยาแก้อักเสบ (NSAIDs ) คือ กลุ่มยาช่วยแก้อาการปวด บวม แดง ร้อน และลดการอักเสบโดยตรงของร่างกาย รวมทั้งยังมีฤทธิ์ในการลดไข้ อย่างเช่น ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดฟัน เหงือกบวม กล้ามเนื้ออักเสบ อาการเคล็ดขัดยอก เส้นอักเสบ หรือว่า ใช้ในการลดไข้ กล่าวคือ ใช้ยับยั้งสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ แต่ไม่ออกฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ตัวอย่างยาแก้ปวดลดอักเสบ
Ibuprofen,Naproxen,Diclofenac,Etoricoxib,Celecoxib ยากลุ่มนี้ต้องรับประทานหลังอาหารทันที เนื่องจากมีผลระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร ทั้งยังไม่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส
กลุ่มยาฆ่าเชื้อ หรือ ยาปฎิชีวนะ
ยาฆ่าเชื้อ หรือว่าที่เรียกว่ายาปฏิชีวนะ (Antibiotics) คือ กลุ่มยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส ไม่มีฤทธิ์แก้ปวดหรือลดการอักเสบ
ตัวอย่างยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
Pennicillin,Amoxicillin,Azithomycin ใช้รักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อจากแบคทีเรีย เช่น โรคต่อมทอนซินอักเสบ ปัสสาวะอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
ยากลุ่มนี้หลายคนเข้าใจผิดเรียกว่ายาแก้อักเสบ ทำให้มีการใช้อย่างไม่เหมาะสม และเนื่องจากยาทั้ง 2 กลุ่มสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไป อาจมีผู้ป่วยบางส่วนซื้อยาแก้อักเสบมาใช้เองอย่างผิดวัตถุประสงค์ สลับกันระหว่างยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบ ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้ผู้ใช้ยาเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยานั้นๆอีกด้วย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– โรงพยาบาลศิริราชปิยะมหาราชการุณย์
– www.fascino.co.th
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM