หลายคนที่กำลังเผชิญปัญหาด้านพละกำลัง เหนื่อยง่าย ร่างกายอ่อนแอ หรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ อาจเคยได้ยินหรือได้ฟังกันมาว่า สมุนไพรอย่าง “ถั่งเช่า” จะช่วยให้กลับมาฟิตเหมือนเดิม ลองมาดูกันว่าสารสำคัญในถั่งเช่ามีอะไรบ้างและช่วยเรื่องสมรรถภาพได้อย่างไร
ทำความรู้จักกับ ถั่งเช่า
ถั่งเช่า สมุนไพรที่เรารู้จักกันในนามของ “ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย” หรือที่เรียกกันว่า “หญ้าหนอน” เป็นยาสมุนไพรที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศจีนมานานนับศตวรรษ โดยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า Ophiocordyceps Sinesis เป็นเครื่องยาจีนที่มาจากเห็ดรา นิยมใช้เป็นยาบำรุงเพราะมีสารสำคัญที่มีฤทธิ์เป็นยาช่วยบำรุงปอด และบำรุงไต จึงทำให้มีราคาสูงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ถั่งเช่า เป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่ภายในหนอนผีเสื้อกลางคืนที่จำศีลในช่วงฤดูหนาว โดยอาศัยอยู่บนพื้นที่ภูเขาสูงของประเทศจีน โดยส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทำมาจากถั่งเช่าจะถูกปลูกและดูแลอย่างดีภายในห้องปฏิบัติการ เนื่องจากถั่งเช่าจากธรรมชาติหาได้ยากและมีราคาที่ค่อนข้างสูง ถั่งเช่าประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นตัวหนอนของผีเสื้อ และส่วนที่เป็นเห็ดบนตัวหนอนมีชื่อทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า Cordyceps และสายพันธุ์ Cordyceps Sinensis ถั่งเช่าจากทิเบตที่ถูกจัดให้เป็นสมุนไพรหายาก สรรพคุณหลากหลาย และราคาสูง
องค์ประกอบทางเคมีของถั่งเช่า
ถั่งเช่า ประกอบด้วยสารต่าง ๆ ได้แก่ สารกลุ่มโพลีแซคคาไรด์ เช่น Galactomannan สารนิวคลีโอไทด์ เช่น Adenosine กรด Cordycepic acid กรดอะมิโน สารกลุ่มสเตอรอล เช่น Ergosterol หรือ Beta – sitosterol โปรตีน ไขมัน วิตามินบี 12 และแร่ธาตุมากมาย
คอร์ไดเซปิน สารสำคัญในถั่งเช่า
คอร์ไดเซปิน (Cordycepin) นอกจากช่วยเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ยังมีคุณสมบัติมากมายจนได้รับฉายาว่าเป็น “ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย” ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยให้การไหลเวียนเลือดในร่างกายคล่องตัวขึ้น
- เพิ่มปริมาณการไหลเวียนเลือดเข้าสู่ปอดและหัวใจ
- ช่วยเพิ่มออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น
- ตัวช่วยเรื่องปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัวในเพศชาย
- กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญอาหารให้ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารเพิ่มขึ้น
งานวิจัยเกี่ยวกับถั่งเช่าเพื่อการดูแลสุขภาพ
– งานวิจัยในผู้ที่มีปัญหาทางเพศ
มีงานวิจัยในหนู พบว่าสารสกัดจากถั่งเช่าช่วยเพิ่มจำนวนอสุจิและฮอร์โมนเพศชายได้ จึงน่าจะมีประโยชน์ในผู้ที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย นอกจากนั้นยังพบการวิจัยในผู้ชาย 22 คน ใช้ถั่งเช่าเป็นอาหารเสริม พบว่าช่วยเพิ่มจำนวนของสเปิร์มในอสุจิได้ 33% อีกกรณีศึกษาในผู้ป่วยทั้งชายและหญิง 189 คน พบว่าถั่งเช่าสามารถช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศสูงขึ้น 66-86 % ในผู้ชายและผู้หญิง แต่งานวิจัยยังมีไม่มากพอ การใช้ถั่งเช่าเพื่อรักษาอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
– งานวิจัยในโรคมะเร็ง
มีงานวิจัยว่า ถั่งเช่า สามารถลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและเซลล์เนื้องอกหลายชนิดในสัตว์ทดลอง ซึ่งน่าจะมีผลมาจากการยับยั้งเอนไซม์เทโลเมอร์เรสในเซลล์มะเร็ง และฤทธิ์การต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดในร่างกาย ซึ่งการแพทย์ทางเลือก มีการนำมาใช้ในผู้ป่วยมะเร็งที่หมดทางรักษา แต่การศึกษายืนยันในคนที่ถูกตีพิมพ์ลงวารสารทางการแพทย์ยังมีไม่มากนัก
– งานวิจัยในเรื่องภูมิต้านทานร่างกาย
มีงานวิจัยในหนูและในหลอดทดลอง แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของถั่งเช่า ในการเพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย และยับยั้งภูมิต้านทานที่มากเกินไปภาวะภูมิแพ้ตัวเอง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ลำไส้เล็กในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งการแพทย์ทางเลือกได้มีการนำมาใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิต้านทานผิดปกติ ผู้ป่วยโรคปอด เช่น ไอ หอบเรื้อรัง ไอเรื้อรังมีเสมหะปนเลือด แต่การศึกษายืนยันในคนที่ถูกตีพิมพ์ลงวารสารทางการแพทย์ยังมีไม่มาก
– งานวิจัยในผู้ป่วยโรคไต
มีงานวิจัยที่ระบุว่า ถั่งเช่าส่งผลดีต่อสุขภาพไตแบบองค์รวม โดยใช้ได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการหนาวง่าย มือเท้าเย็น ปัสสาวะบ่อย และโรคไตเรื้อรัง ซึ่งควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
– งานวิจัยในผู้ป่วยเบาหวาน
มีงานวิจัยในหนูที่เป็นเบาหวาน พบว่าสารสกัดถั่งเช่า ช่วยให้หนูสุขภาพดีขึ้น จากการที่อินซูลินทำงานได้ดีขึ้น แต่การศึกษายืนยันในคน ที่ถูกตีพิมพ์ลงวารสารทางการแพทย์ยังต้องรอการพิสูจน์ต่อไป
– ผลข้างเคียงจากการรับประทานถั่งเช่า
หากร่างกายได้รับถั่งเช่ามากเกินไป อาจพบอาการ คอแห้ง กระหายน้ำ ริมฝีปากแห้ง ปวดท้องคล้ายอาการจุกเสียด ปวดหัวตุบ ๆ ตาพร่ามัว หากพบอาการเหล่านี้ให้นอนพัก ดื่มน้ำมาก ๆ และลดปริมาณการทานลง หรือหยุดทานจนกว่าอาการจะดีขึ้น
– ข้อควรระวังในการใช้ถั่งเช่า
- ผู้ป่วยเบาหวานควรระวัง เนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ อาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป
- มีฤทธิ์ในการลดการจับตัวกันของเกล็ดเลือด จึงไปเสริมฤทธิ์กับยาลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ดังนั้น ผู้ป่วยที่ได้รับยาลดการจับตัวกันของเกล็ดเลือด หรือกำลังจะผ่าตัด อาจจะทำให้เลือดหยุดไหลช้าได้
- บุคคลที่แพ้เห็ด หนอน
- ผู้ป่วยที่มีอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
- ผู้ป่วยที่มีการเต้นของหัวใจผิดปกติ
- เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จำหน่ายอยู่มากมาย อย่าลืมที่จะตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด และเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายและสุขภาพของตนเอง
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– โรงพยาบาลสมิติเวช
– โรงพยาบาลกรุงเทพ
– exta plus
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM