ยา Cravit ( Levofloxacin) ข้อมูล กลไกการออกฤทธิ์ ผลข้างเคียง

Cravit

ตัวยาสำคัญ Levofloxacin

Levofloxacin เป็นยาต่อต้านแบคทีเรียประเภท Fluoroquinolone ยานี้ออกฤทธิ์ได้กว้างต่อแบคทีเรียหลายชนิดทั้งชนิดแกรมลบและแกรมบวก ตัวยายังสามารถแทรกซึมเข้าไปตามเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี การดูดซึมของยา สามารถถูกดูดซึมได้รวดเร็วและสมบูรณ์ หลังจากการรับประทานยา ความเข้มข้นของยาขึ้นถึงระดับสูงสุดภายใน 1-2 ชั่วโมง ยาถูกดูดซึมได้ประมาณ 99%

ข้อบ่งใช้

  1. รักษาไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง รวมถึงปอดบวม
  2. รักษาการติดเชื้อทางผิวหนัง
  3. รักษาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ กรวยไตอักเสบ และต่อมลูกหมากอักเสบ

วิธีรับประทาน

  1. สำหรับไซนัสอักเสบ
    ผู้ใหญ่ : รับประทาน 500 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 10-14 วัน หรือรับประทาน 750 มิลลิกรัมวันละครั้งเป็นเวลา 5 วัน
  2. สำหรับหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
    ผู้ใหญ่ : รับประทาน 500 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 7 วัน
  3. สำหรับปอดบวม
    ผู้ใหญ่ : รับประทาน 500 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 7-14 วัน หรือรับประทาน 750 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 5 วัน
  4. สำหรับการติดเชื้อทางผิวหนังที่ความซับซ้อนหรือรุนแรง
    ผู้ใหญ่: รับประทาน 750 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 7-14 วัน
  5. สำหรับการติดเชื้อในช่องทางเดินปัสสาวะ
    ผู้ใหญ่: รับประทาน 250 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 3 วัน หากมีการติดเชื้อที่ซับซ้อนรุนแรงอาจต้องรับประทานยานานถึง 10 วันโดยต่อเนื่อง
  6. สำหรับกรวยไตอักเสบ
    ผู้ใหญ่ : รับประทาน 250 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 10 วัน
  7. สำหรับต่อมลูกหมากอักเสบ
    ผู้ใหญ่: รับประทาน 500 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 28 วัน
  8. เด็ก : ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดในการใช้ยานี้ในเด็ก การใช้ยานี้ในเด็กจึงอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา

ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง

  • มีอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องผูก ปวดศีรษะ หรือนอนไม่หลับ

ข้อควรระวังการใช้ยา

  1. ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยานี้หรือแพ้ยากลุ่ม Quinolones
  2. ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีลงมา
  3. ระวังการใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์และสตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
  4. ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยที่มีภาวะเกี่ยวกับโรคตับ ผู้ที่เป็นโรคลมชัก ผู้ที่เคยได้รับบาดเจ็บของเส้นเอ็นเนื่องจากการใช้ยากลุ่ม Quinolone
  5. ระหว่างการใช้ยานี้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเพราะอาจเกิดภาวะผิวแพ้แสงแดด
  6. หากใช้ยานี้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติอยู่เสมอ
  7. หลีกเลี่ยงการรับประทานยาร่วมกับยาลดกรดกลุ่มที่มีแมกนีเซียมและ Aluminium เป็นส่วนประกอบ จะส่งผลต่อการดูดซึมของ Levofloxacin และทำให้ประสิทธิภาพของการรักษาด้อยลง หากจำเป็นต้องใช้ร่วมกันควรรับประทานยา Levofloxacin ก่อนยาลดกรดประมาณ 2-4 ชั่วโมง หรือประมาณ 4-6 ชั่วโมง หลังจากการรับประทานยาลดกรด
  8. การใช้ Levofloxacin ร่วมกับยากลุ่มสเตียรอยด์ เช่น Hydrocortisone, Prednisone, Triamcinolone อาจทำให้เกิดภาวะเส้นเอ็นอักเสบจนถึงขั้นปริแตก โดยเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงดังกล่าวจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
  9. หลีกเลี่ยงการใช้ยาลีโวฟลอกซาซินร่วมกับยา Tramadol ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคลมชัก โดยการใช้ยาร่วมกันจะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นลมชักมากยิ่งขึ้น


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– HDmall.co.th 
– เว็บพบแพทย์
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

ยังไม่มีบัญชี