furosemide 500 mg  ยาขับปัสสาวะ ข้อบ่งใช้ และข้อควรระวัง

Furosemide 500 mg เป็นยาขับปัสสาวะในกลุ่ม loop diuretics ที่ออกฤทธิ์แรงมาก ใช้ในกรณีเฉพาะที่จำเป็น เช่น ภาวะคั่งน้ำรุนแรงหรือดื้อยาขนาดปกติ โดยปกติยานี้มีจำหน่ายในขนาดต่ำกว่ามาก เช่น 20–40 mg ดังนั้นขนาด 500 mg ถือว่า “high-dose furosemide” ซึ่งจะใช้ในกรณีพิเศษภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

ข้อบ่งใช้ (Indications) การใช้ยา furosemide 500 mg 

Furosemide 500 mg อาจใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะต่อไปนี้:

1. ภาวะบวมน้ำ (Edema) ที่รุนแรงจาก:
   • ภาวะหัวใจวายเรื้อรัง (Congestive heart failure)
   • โรคไตเรื้อรัง (Chronic kidney disease)
   • กลุ่มอาการเนโฟรติก (Nephrotic syndrome)
   • ตับแข็ง (Cirrhosis)
     
2. ภาวะดื้อต่อยาขับปัสสาวะขนาดต่ำกว่า
3. ภาวะโพแทสเซียมสูง (Hyperkalemia) ร่วมกับวิธีการรักษาอื่น
4. ภาวะคั่งน้ำในปอด (Pulmonary edema) อย่างเฉียบพลัน
5. โรคไตวายเฉียบพลัน เพื่อกระตุ้นการขับปัสสาวะ

หมายเหตุ: การใช้ขนาด 500 mg โดยตรงมักใช้ในรูปแบบยาฉีด หรือแบบรับประทานเฉพาะในผู้ป่วยโรคไตที่ดื้อต่อยาขนาดปกติ

ข้อควรระวัง (Precautions) การใช้ยา furosemide 500 mg 

การใช้ Furosemide ขนาดสูง (500 mg) ต้องระมัดระวังอย่างมาก:

1. ภาวะขาดเกลือแร่ เช่น:
   • Hypokalemia (โพแทสเซียมต่ำ)
   • Hyponatremia (โซเดียมต่ำ)
   • Hypomagnesemia (แมกนีเซียมต่ำ)
     
2. ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) จากการขับน้ำออกมากเกิน
3. ภาวะด่างในเลือด (Metabolic alkalosis)
4. ภาวะหูเสื่อม (Ototoxicity) — โดยเฉพาะเมื่อให้ยาทางหลอดเลือดดำเร็ว หรือใช้ร่วมกับยาที่มีพิษต่อหู เช่น aminoglycosides
5. การติดตามการทำงานของไต (Renal function) อย่างใกล้ชิด
6. การติดตามระดับน้ำตาลและกรดยูริกในเลือด
   • อาจทำให้ ระดับน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) หรือ
   • กระตุ้น โรคเกาต์ (Gout)
     
7. ควรใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคตับ
8. อาจเกิดภาวะความดันต่ำ (Hypotension) ได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ขาดน้ำหรือรับยาลดความดันร่วมกัน
9. ปฏิกิริยากับยาอื่น:
   • เสริมฤทธิ์ยาลดความดันโลหิต
   • เพิ่มความเสี่ยงของพิษต่อไตเมื่อใช้ร่วมกับ NSAIDs
   • เพิ่มความเสี่ยงโพแทสเซียมต่ำเมื่อใช้ร่วมกับ corticosteroids หรือ amphotericin B

การติดตามผล (Monitoring)

• ตรวจระดับ อิเล็กโทรไลต์ในเลือด (Na+, K+, Mg2+, Ca2+)
• ตรวจการทำงานของไต (BUN, creatinine)
• ตรวจระดับกรดยูริกและน้ำตาลในเลือด
• ชั่งน้ำหนักและติดตามปริมาณปัสสาวะประจำวัน

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– Micromedex – Furosemide Drug Monograph ฐานข้อมูลยาเฉพาะทาง
– FDA Label – Lasix (Furosemide)– เอกสารกำกับยาโดยองค์การอาหารและยา
– Medscape – Furosemide (Lasix)– ข้อมูลสรรพคุณและข้อควรระวังของยา
เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM