การรักษาหูดหงอนไก่มี 2 แนวทางหลักที่นิยมที่สุด คือ การกำจัดออกทันทีด้วยเครื่องมือแพทย์ (การจี้) และ การกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายกำจัดเชื้อเอง (การทายา Imiquimod) ซึ่งทั้งสองวิธีมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเลือกใช้วิธีไหนขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ป่วย งบประมาณ และตำแหน่งที่เป็น
ตารางเปรียบเทียบ: การจี้ (Cautery) vs ยา Imiquimod 5%
| หัวข้อเปรียบเทียบ | การจี้ (จี้เย็น/จี้ไฟฟ้า/เลเซอร์) | การใช้ยา Imiquimod 5% (Aldara) |
|---|---|---|
| กลไกการออกฤทธิ์ | ทำลายเนื้อเยื่อ (Destructive): ใช้ความเย็นจัด หรือความร้อน ทำลายเซลล์หูดให้ตายและหลุดออกทันที | กระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Immunomodulator): กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวในร่างกายมาจัดการกินเชื้อไวรัส HPV ที่ผิวหนัง |
| ความรวดเร็ว | เห็นผลไวมาก: หูดหลุดออกทันที หรือภายใน 1 สัปดาห์หลังทำ | เห็นผลช้า: ต้องใช้เวลา 4-8 สัปดาห์ (เฉลี่ย 4สัปดาห์) ถึงจะหายเกลี้ยง |
| อัตราการกลับมาเป็นซ้ำ | สูง (High Recurrence): เพราะกำจัดได้แค่ตัวหูดที่โผล่ขึ้นมา แต่เชื้อไวรัสที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวรอบๆ ยังอยู่ | ต่ำกว่า (Low Recurrence): เพราะเป็นการสร้าง “Memory” ให้ระบบภูมิคุ้มกันรู้จักและคอยดักจับเชื้อไวรัสในระยะยาว |
| ความเจ็บปวด | เจ็บขณะทำ: ต้องฉีดยาชา หรือทายาชา และมีแผลสดหลังทำ 1-2 สัปดาห์ | ไม่เจ็บขณะทา: แต่อาจมีอาการแดง คัน แสบ หรือผิวลอก ในช่วงสัปดาห์ที่ 2-3 ของการรักษา |
| แผลเป็น | มีโอกาสเกิดแผลเป็น หรือรอยด่างขาว/ดำ ได้มากกว่า | โอกาสเกิดแผลเป็นน้อยมาก เพราะเนื้อเยื่อค่อยๆ ยุบตัวลงเองตามธรรมชาติ |
| ค่าใช้จ่าย | สูง: ครั้งละ 1,500 – 5,000+ บาท (อาจต้องทำซ้ำหลายรอบ) | ปานกลาง: ยาซองละประมาณ 250-400 บาท (ใช้ได้ 1-3 ครั้ง) หรือยกกล่องหลักพันต้นๆ |
| ความสะดวก | ต้องไปทำที่คลินิกหรือโรงพยาบาลเท่านั้น | ทาเองได้ที่บ้านก่อนนอน (วันเว้นวัน) |
1. การจี้ (Cauterization / Cryotherapy / Laser)
- เหมาะกับใคร: คนใจร้อน อยากให้หูดหายไปทันที, คนที่มีหูดขนาดใหญ่ หรือมีจำนวนมากจนทายาไม่ไหว, และ หญิงตั้งครรภ์ (เฉพาะจี้เย็น/จี้ไฟฟ้าบางชนิด แพทย์ต้องพิจารณา)
- ข้อดี: หูดหายวับไปกับตาในครั้งเดียว (สำหรับเม็ดนั้น)
- ข้อเสีย: เจ็บตัว, มีแผลดูแลยากช่วงแรก, และมักกลับมาขึ้นใหม่ที่จุดเดิมหรือใกล้เคียงเพราะเชื้อยังอยู่
2. การใช้ยา Imiquimod 5% (Aldara)
- เหมาะกับใคร: คนที่กลัวเจ็บ, ไม่กล้าไปหาหมอ (อาย), เป็นหูดขนาดเล็กถึงปานกลาง, หรือ คนที่เคยไปจี้มาแล้วกลับมาเป็นซ้ำ (ต้องการการรักษาที่ต้นตอ)
- ข้อดี: เป็นวิธีเดียวที่ช่วยลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้จริงในระยะยาว, ไม่ต้องลางานไปหาหมอบ่อยๆ
- ข้อเสีย: ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล (ต้องใจเย็น), ราคายาต่อซองค่อนข้างสูง, ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์

คำแนะนำจากเภสัชกร (Pharmacist Verdict)
- สูตรผสมผสาน (Best Practice): หากเป็นหูดเม็ดใหญ่มาก แนะนำให้ไป “จี้ออกก่อน” เพื่อลดขนาดก้อนเนื้อ จากนั้นรอแผลแห้งสนิท แล้วตามด้วยการ “ทายา Imiquimod” ต่อเนื่องอีกสักพัก เพื่อเก็บกวาดเชื้อไวรัสที่หลงเหลืออยู่ ป้องกันไม่ให้มันงอกกลับมาใหม่ครับ (วิธีนี้เจ็บจบ แต่หายขาดที่สุด)
“ข้อมูลในบทความนี้เป็นเพียงความรู้เบื้องต้น ไม่สามารถใช้ทดแทนการปรึกษาและวินิจฉัยจากแพทย์หรือเภสัชได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเมื่อใช้ยา หรือมีปัญหาสุขภาพ”
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- Garland, S. M. (2003). Imiquimod. Current Opinion in Infectious Diseases.
- Scheinfeld, N. (2006). Imiquimod: A review of its use in genital warts.
- Centers for Disease Control and Prevention (CDC). (2021). Genital Warts Treatment Guidelines.
เรียบเรียงโดย (Compiled by) : www.chulalakpharmacy.com
Post Views: 4






