ทำไมเด็กผู้ชายจำเป็นต้องฉีดวัคซีน HPV ?

โดยทั่วไปแล้วเราจะเข้าใจว่าคนที่มีโอกาสติดเชื้อไวรัส HPV จนก่อให้เกิด “มะเร็งปากมดลูก” ต้องเกิดกับผู้หญิงเท่านั้น เป็นผลให้ผู้หญิงสามารถป้องกันเชื้อ HPV ได้ด้วยการฉีดวัคซีน แล้วผู้ชายละ HPV มีผลกับเขาหรือไม่ แล้วถ้ามีผลกับคุณผู้ชายจะส่งผลอย่างไรกับพวกเรา จะร้ายแรงหรือไม่ และสามารถฉีดวัคซีน HPV เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสได้เหมือนผู้หญิงหรือไม่

เชื้อไวรัส HPV เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญไม่เฉพาะแค่ในผู้หญิงเท่านั้น แต่เชื้อนี้ยังส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อผู้ชายอีกด้วย โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV และอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงในอนาคตได้ การฉีดวัคซีน HPV จึงเป็นวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพและเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ควรใส่ใจ

เชื้อไวรัส HPV คืออะไร ติดต่ออย่างไรได้บ้าง?

เชื้อไวรัส HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสทางผิวหนังและเยื่อบุ เช่น การมีเพศสัมพันธ์หรือการสัมผัสบริเวณอวัยวะเพศโดยตรง

นอกจากนี้ เชื้อ HPV ยังสามารถติดต่อผ่านการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกันด้วย เช่น ผ้าเช็ดตัวหรือการสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อในพื้นที่สาธารณะ เช่น สระว่ายน้ำ, ห้องน้ำสาธารณะ หรือห้องอาบน้ำ ซึ่งถึงแม้จะพบได้น้อยกว่าการมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็เป็นวิธีการติดต่อที่ควรระวัง โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

โดยเชื้อไวรัส HPV นั้นมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ ทั้งสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่ำและสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งก่อให้เกิดโรคมะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปากและลำคอ และโรคหูดหงอนไก่ได้

เชื้อไวรัส HPV ส่งผลกระทบต่อเด็กผู้ชายในอนาคตอย่างไร?

เชื้อไวรัส HPV เป็นเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อได้ทั้งชายและหญิง และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวของเด็กผู้ชายได้ โดยผลกระทบสำคัญสามารถแบ่งออกได้ดังนี้

  • ผลกระทบต่อเด็กวัยรุ่นอายุ 13-18 ปี: เด็กผู้ชายในวัยนี้มักเริ่มมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ HPV หากไม่ได้รับการป้องกันได้ โดยการติดเชื้อในวัยนี้อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงต่างๆ ในอนาคต เช่น มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปากและลำคอ และหูดหงอนไก่ 
  • ผลกระทบต่อเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปี: ถึงแม้ว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปีจะยังไม่มีความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัส HPV โดยตรง แต่ถ้าหากไม่ได้รับการป้องกันตั้งแต่อายุยังน้อย ในอนาคตก็อาจจะต้องเผชิญกับผลกระทบเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ได้ ซึ่งการฉีดวัคซีนในช่วงวัยนี้จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและสร้างภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว การติดเชื้อไวรัส HPV ยังมีผลกระทบต่อจิตใจอีกด้วย หากเด็กผู้ชายติดเชื้อ HPV ก็อาจทำให้รู้สึกอับอายหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะสุขภาพของตัวเอง การมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังจากเชื้อ HPV เลยส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเองและความสัมพันธ์ในอนาคต

เชื้อไวรัส HPV พบในเด็กผู้ชายได้บ่อยแค่ไหน?

เด็กผู้ชายมีโอกาสติดเชื้อ HPV ได้สูงกว่าที่หลายคนคิด จากการวิจัยของ WHO พบว่า 50% ของผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์จะติดเชื้อ HPV อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต และสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยในผู้ชายคือสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ และสายพันธุ์ที่มีความสัมพันธ์กับมะเร็งทวารหนัก

สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักหรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ก็มีโอกาสติดเชื้อ HPV ได้สูงถึง 80-90% จะเห็นได้ว่าการติดเชื้อ HPV ไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มเพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น การป้องกันที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ

วัคซีน HPV จำเป็นสำหรับเด็กผู้ชายอย่างไร?

วัคซีน HPV ไม่ได้มีความสำคัญแค่ในผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญสำหรับผู้ชายและเด็กผู้ชายด้วย โดยสาเหตุที่เด็กผู้ชายควรฉีดวัคซีน HPV มีดังนี้

1.ลดความเสี่ยงของมะเร็ง

วัคซีน HPV ช่วยป้องกันสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งช่องปากและลำคอ

2.ลดการแพร่กระจายของเชื้อ

ผู้ชายที่ได้รับวัคซีนจะมีโอกาสแพร่เชื้อต่อให้คู่นอนในอนาคตน้อยลง ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดในวงกว้างได้

3.ลดปัญหาสุขภาพในอนาคต

การป้องกันหูดที่อวัยวะเพศและโรคที่เกี่ยวข้องกับ HPV จะช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพเรื้อรังในระยะยาว

เด็กผู้ชายควรฉีดวัคซีน HPV กี่สายพันธุ์?

วัคซีน HPV ที่มีในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

1.วัคซีน HPV แบบป้องกัน 2 สายพันธุ์

ป้องกันเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกเป็นหลัก

2.วัคซีน HPV แบบป้องกัน 4 สายพันธุ์

ป้องกันเชื้อ HPV ทั้งสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งและหูดที่อวัยวะเพศ มีประสิทธิภาพสูงในเด็กผู้ชายที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV และโรคที่เกี่ยวข้อง

3.วัคซีน HPV แบบป้องกัน 9 สายพันธุ์

ป้องกันเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งและหูดที่อวัยวะเพศได้ครอบคลุมมากที่สุด โดยเฉพาะในเด็กผู้ชายที่ต้องการป้องกันในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม เด็กผู้ชายควรได้รับวัคซีน HPV ในช่วงอายุ 11-12 ปี และควรฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยห่างจากเข็มแรก 6 เดือน ส่วนเด็กผู้ชายที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และเข็มที่ 3 ห่างออกไปอีก 6 เดือน

การป้องกันเชื้อไวรัส HPV ในผู้ชาย

ช่วงเวลาในการฉีดเพื่อให้ได้ผลดีนั้น ควรได้รับการฉีดวัคซีนในช่วงอายุ 9-26 ปี จะถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดเพราะสามารถลดโอกาสติดเชื้อได้ในระดับสูงถึงเกือบ 100 % และการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เพียงไม่กี่อย่าง ก็จะสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV เเละการเเพร่กระจายของเชื้อไปสู่บุคคลอื่นได้ ดังต่อไปนี้ 

  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ เพราะอาจจะได้รับเชื้อ HPV แบบไม่รู้ตัว
  • ก่อนมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัย แต่ก็ไม่ได้ป้องกันได้เกือบ 100% เพราะอาจจะมีการสัมผัสสารคัดหลั่งบริเวณอื่น ๆ ได้
  • ต้องฉีดวัคซีน HPV ให้ครบ 3 เข็ม เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV และควรได้รับการฉีดวัคซีน HPV ก่อนการได้รับเชื้อหรือก่อนการมีเพศสัมพันธ์


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
– กรมควบคุมโรค
– โรงพยาบาลบางปะกอก3
– web hdmall

เรียบเรียงข้อมูลโดย: CHULALAKPHARMACY.COM

แชร์

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

No results found.

ยังไม่มีบัญชี